ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

ที่ต้องอาศัยเงื่อนไข-เหตุปัจจัย-และองค์ประกอบนานาประการ ในการค้นหา จุดสมดุล กันในแต่ละช่วง แต่ละระยะ แต่ในเมื่อบรรดาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่ รวมทั้ง ความรับผิดชอบ ท่านเห็นไปในแนวนี้ ก็เอาเป็นว่า....คงต้องว่าไปตามความ มันซ์ซ์ซ์จุกอก ของใครต่อใครไปตามสภาพ เพราะถึงกระนั้นก็ตาม การเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้พอมีโอกาสรื่นเริง บันเทิงใจได้มั่ง แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระมัดระวัง ต้องควบคุม บังคับ ในบางเรื่อง บางกรณี ไม่ถึงกับ ปล่อยผี หรือ ปล่อยฟรีบาร์ ไปซะทุกเรื่อง ทุกราว...

----------------------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...สำหรับมาตรการในการควบคุม บังคับ ต่อบางเรื่อง บางกรณี มันอาจก่อให้เกิดความ แปลกแยก หรือออกจะ จินตนาการ ลำบากอยู่พอสมควรเหมือนกัน เช่นการสรุปเอาไว้ประมาณว่า...การให้บริการใดๆ ที่มีการคลุกคลีและสัมผัสกับลูกค้า...จะต้องสวมหน้ากาก ไม่งั้นอาจต้องเจอกับการสั่งปิด สั่งห้าม ของคณะกรรมการโรคติดต่อ หรือของ กทม.โดยคุณน้า กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี เอาดื้อๆ อะไรต่อมิอะไรทำนองนี้ มันเลยก่อให้เกิด คำถาม ที่ออกจะหาคำตอบได้ยากเย็นพอสมควร เช่น ระหว่างที่กำลัง นวดกันไป-นวดกันมา จำเป็นที่ต่างฝ่ายต่างต้อง สวมหน้ากาก กันเอาไว้ด้วยหรือไม่? และอย่างไร?

-----------------------------------------------------------

คืออันที่จริง...การเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้สามารถกลับไป นวด หรือสามารถกระทำ หัตถการ ไม่ว่าตั้งแต่ช่วงที่ต่ำกว่าเอวลงไป หรือตลอดทั่วทั้งเนื้อ ทั้งตัว ย่อมต้องถือเป็นความใจกว้าง ใจถึง ของรัฐบาลอยู่แล้วแน่ๆ หรือย่อมดีกว่าการต้องหันไปใช้ ไม้เขี่ย (ต้องเว้นระยะห่างเกิน 2 เมตร) ระหว่างกันและกันในตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ภายใต้การกระทำการกระทำหัตถการ ตามแบบฉบับการ อาบ-อบ-นวด บ้านเรา ไม่ว่าต่ำกว่าเอว หรือเกินกว่าเอวก็แล้วแต่ ออกจะเป็นที่รับรู้ รับทราบกันมาโดยตลอด ว่าถ้าหากต้องปิดหน้า ปิดตะหมูก มันไม่น่าจะ ถนัด ซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบไซ้คอ-ไซ้คางของฝ่ายตรงข้าม ในระหว่าง นวด หรือ นาบ ชนิดที่อาจถือเป็น จุดขาย ของกิจการประเภทนี้ไปแล้วก็ว่าได้...

----------------------------------------------------------------

อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้พูดลำบาก สรุปได้ลำบาก ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามมาตรการแห่งการเฝ้าระวัง หรือการควบคุม บังคับ ได้มาก-น้อยขนาดไหน จนอาจส่งผลให้การผ่อนคลาย คลี่คลาย กลับกลายเป็นการสร้างปัญหา หรือเพิ่มปัญหา ให้ยิ่งซับซ้อน ซ่อนเงื่อน หรือยิ่งหนักหนา-สาหัส ยิ่งขึ้นไปใหญ่หรือไม่? ประการใด? หรือสุดท้าย...หนีไม่พ้นต้องหันไป ปล่อยผี, ปล่อยฟรีบาร์ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ ไม่ก็อาจกลายไปเป็นเงื่อนไข-เหตุปัจจัย เป็น เครื่องมือ ในการรีด การไถ การแสวงหาผลประโยชน์ ของผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่ ในการควบคุม บังคับ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรการหรือนโยบายของผู้ที่มีลำดับชั้นสูงๆ ขึ้นไป...

-----------------------------------------------------------

นี่...ขนาดเรื่องเล็กๆ-น้อยๆ เรื่องที่ไม่ถึงกับต้องคิดมาก-คิดมายซักเท่าไหร่ แต่ยังเป็นอะไรที่ออกจะซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เสียเหลือเกิน สำหรับผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบในการควบคุม ดูแล มาตรการต่างๆ ไม่อาจคิดกันง่ายๆ สรุปกันง่ายๆ ชนิดสามารถนำมาบังคับใช้แบบประเภทนโยบายร้อยข้อ-สองร้อยข้อ ของคุณน้า กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี ได้เสมอๆ เพราะมันยังมี ปัจจัยผันแปร อีกเยอะแยะมากมาย ที่สามารถโผล่เข้ามาสอดแทรก จนนโยบาย 241 ข้อ อาจลงมือปฏิบัติให้เป็นจริง-เป็นจัง ได้เพียงแค่ 2 ข้อ หรือ 4 ข้อเอาเลยก็ไม่แน่ โดยจะไปโทษผู้ค้นคิดนโยบาย ผู้ออกมาตรการควบคุม บังคับ ในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี ก็คงไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ขึ้นมาแต่อย่างใด...

---------------------------------------------------------

อย่างไรก็ตาม...สรุปเอาเป็นว่า แม้ว่าบ้านเราช่วงนี้ หรือนับจากนี้เป็นต้นไป ยังมีเรื่องใหญ่ เรื่องโต ให้ต้องขบคิดต้องแก้ปัญหากันอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าเรื่องบัตรเลือกตั้งใบเดียว-หรือสองใบ เรื่องของการแลนด์สไลด์-ไม่แลนด์สไลด์ เรื่องการรื้อฟื้นอำนาจเก่าเข้ามาแทนที่อำนาจใหม่ที่ชักจะเป๋ไป-เป๋มายิ่งเข้าไปทุกที ไปจนถึงเรื่องการป่วยตาย การอดตาย ที่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กันซักเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละ...เมื่อเทียบกับโลกทั้งโลก แม้แต่โลกของพวกฝรั่งมังค่า ที่เคยทั้งมั่งคั่งและมั่นคงเสียเหลือเกิน แต่ภายใต้วิกฤตการณ์ของโลก ที่กำลังเป็นไปแบบชนิด วิกฤตซ้อนวิกฤต มีทั้งเรื่องสงคราม โรคระบาด การขาดแคลนพลังงานและอาหาร ไปจนถึงเรื่องเงินเฟ้อ ฯลฯ การที่ยังไม่ถึงกับต้องตายเพราะลูกปืน ลูกระเบิด ไม่ถึงกับต้องหนาวตายแข็งตาย ไม่ต้องอดข้าว-ปลา-อาหาร แถมยังมีโอกาสได้ สวมหน้ากากนวด ซะอีกด้วยต่างหาก ย่อมต้องถือว่า...โชคดีกว่าบ้านอื่น เมืองอื่น ประเทศอื่น ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า...

------------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Alice Walker... “In nature. Nothing is perfect and everything is perfect. Trees can be contorted, bent in weird ways, and still, they’re beautiful. - ในธรรมชาติ...ไม่มีสิ่งใดดีพร้อม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบภายในตัวเอง ต้นไม้อาจบิดเบี้ยว โค้งงอ อย่างประหลาด แต่ก็ยังคงสวยสดงดงาม...”

---------------------------------------------------------------