ภาพสะท้อนสังคมผ่านเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ฮื่ออ์อ์อ์...นี่ก็เหลืออีกแค่วัน-สองวัน วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.ที่จะถึง ก็คงได้ฤกษ์ ได้เวลา ในการ เขย่าประชาธิปไตยในมือของท่าน หรือการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ต้องเรียกว่า...เลย โค้งวัดเบญจะฯ มาพอสมควรแล้ว เหลืออยู่แต่ว่าผู้สมัครรายหนึ่ง รายใด จะสามารถเอาอก เอาหน้าผาก เอาตะหมูก ฯลฯ หรือเอาส่วนที่ยื่นออกมาจากอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ออกไปแตะ เส้นชัย ได้มาก-น้อย หรือได้รวดเร็วไปกว่ากันขนาดไหน...

--------------------------------------------------------

แต่ถ้าว่ากันตาม โพล ไม่ว่าสำนักไหนต่อสำนักไหน...แนวโน้มที่จะเข้าสู่เส้นชัยของผู้สมัครบางราย อาจหนักไปทางคล้ายๆ คุณหลาน บิว-ภูริพล บุญสอน ลมกรด 100 เมตร 200 เมตร ของชาวไทยแลนด์ แดนสยาม ในช่วงมหกรรมซีเกมส์คราวนี้ ไม่ก็คุณหลาน โจชัวร์ โรเบิร์ต ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย

เจ้าของเหรียญทองประเภท 400 เมตร 800 เมตร อะไรทำนองนั้น คืออาจออกไปทาง ม้วนเดียวจบ หรืออาจทิ้งขาด ทิ้งห่าง กันแบบแทบไม่เห็นฝุ่น เห็นหาง หรือทิ้งกันแบบผู้ที่พยายามไล่กวด ไล่ตาม อาจแค่ได้รับรู้และสัมผัสกับกลิ่นตดแบบจางๆ เอาเลยก็เป็นได้ เพราะมันห่างกันระดับนับเป็นสิบๆ เปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น...

---------------------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าว่ากันตามแนวคิด ข้อวิเคราะห์ การประเมิน ของผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโพล ไม่ว่าสำนักไหนต่อสำนักไหน แต่จัดอยู่ในประเภท มังกร หรือ มังกือ ทางการเมือง โอกาสที่จะทิ้งห่าง ทิ้งขาด แบบที่ผลโพลแต่ละสำนักว่าไว้ ไม่น่าจะเป็นไปได้ถึงขั้นนั้น!!! คืออาจแค่แพ้-ชนะกันไม่ถึงกับแสน-ครึ่งแสน หรือคงต้องอาศัยอวัยวะส่วนต่างๆ ที่ยื่นออกมา ไม่ว่าหน้าอก หน้าผาก หรือความโด่ง-ไม่โด่งของสันตะหมูก พุ่งเข้าหาเส้นชัย ให้เร็วกว่า มากกว่า บรรดาผู้แข่งในแต่ละรายให้จงได้ หรืออาจออกไปทาง หายใจรดต้นคอ ตามกันมาแบบติดๆ อะไรทำนองนั้น ส่วนจะจริง-ไม่จริง หรือไม่? อย่างไร? เอาเป็นว่าอีกไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า คงพอได้รู้ๆ ว่าอะไรคือหมู่ คือจ่า คือสารวัตร กันแนวใด ลักษณะใด...

--------------------------------------------------------

แต่โดยแนวคิด ข้อวิเคราะห์ ของพวก มังกร และ มังกือ ทางการเมือง...ก็ออกจะมีเหตุผล มีน้ำหนัก ที่น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน คือด้วย สมมุติฐาน ที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน หรือไม่ว่าจะใครต่อใคร โดยส่วนใหญ่แล้ว...ออกจะหนักไปทางมีแต่ต้อง เฉือนกันไป-เฉือนกันมา ระหว่างฝ่ายเดียวกัน หรือฝ่ายที่มีแนวคิด แนวทาง ในลักษณะเดียวกัน ไปด้วยกันทั้งสิ้น เรียกว่า...ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายเอาบิ๊กตู่ หรือ ฝ่ายไม่เอาบิ๊กตู่ ที่พอจะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม 2 ค่ายอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ที่ไม่เพียงแต่ต้องไล่กวด ไล่ชิง กับฝ่ายตรงกันข้าม ยังหนีไม่พ้นต้องหันมาเบียดกันเอง ชิงกันเอง หรือเผลอๆ...ต้องหันมา ถีบ กันเอง เพื่อที่จะมีโอกาสได้แอ่นอก แอ่นหน้าผาก แอ่นตะหมูก เข้าแตะ เส้นชัย ได้ตามความปรารถนาและต้องการของแต่ละคน แต่ละราย กันไปตามสภาพ...

-----------------------------------------------------

ไม่ว่าจะระหว่าง คุณน้า ชัชชาติ กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี กับคุณหลาน วิโรจน์ ชนดะ ที่ต่างต้องพยายามสร้างแรงดึงดูด แรงจูงใจ ว่าจะ ยึดสนามหลวงคืน แบบเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด หรือจะเปิดโอกาสให้ ประท้วงได้โดยเสรี ไม่ว่าจะประท้วงเรื่องอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ อันไหนแรงกว่า-ไม่แรงกว่า หรืออันไหนเข้าท่ากว่า-ไม่เข้าท่ากว่า คือต้องหันมา เฉือนกันเอง เพื่อเอาอก-เอาใจ บรรดาพวก วัยรุ่นใจร้อน ทั้งหลาย หรือพวก กาเหว่าที่บางเพลง ที่ออกจะมีจำนวนมิใช่น้อย ในการมีสิทธิ์เขย่าประชาธิปไตยในมือของท่านในการเลือกตั้งเที่ยวนี้...

------------------------------------------------------

ไม่ต่างไปจาก ผู้ว่าฯ อัศวิน และ รองผู้ว่าฯ สกลธี ไปจนถึง ด๊อกเตอร์เอ้ ไอน์สไตน์ หรืออาจผนวก หญิงเหล็ก รสนา เข้าไปด้วยก็ได้ ที่คงหนีไม่พ้นต้องหันมา เฉือนกันเอง เพื่อเอาอก-เอาใจ บรรดาพวก คนแก่-คนชรา หรือพวก ไดโนเสาร์ ทั้งหลาย ที่ต่างไม่อยากให้เกิดการฟื้นคืนกลับมาของระบบ โทนี่-โทนาฟ หรือไม่อยากให้เกิดการฉีก กระชาก ทำลาย สิ่งเก่าๆ แก่ๆ ที่ยังพอมีคุณค่า ราคา ต่อการดำรงรักษาโครงสร้างสังคมไทย ให้ต้องพังพินาศ ฉิบหาย เพียงเพราะอารมณ์-ความรู้สึก ของบรรดาพวกวัยรุ่นใจร้อน หรือพวกกาเหว่าที่บางเพลง มากมายเกินไปนัก...

-----------------------------------------------------

และด้วยเหตุที่ต้องหันมา เฉือนกันเอง ในลักษณะทำนองนี้นี่เอง เลยทำให้โอกาสที่จะเอาแพ้-เอาชนะ ระหว่างกันและกันหรือระหว่างฝ่ายตรงกันข้าม อาจไม่มากเกินไปกว่าแสน-ครึ่งแสน หรือไม่ถึงกับทิ้งห่าง ทิ้งขาด แบบคุณหลาน บิว-ภูริพล หรือ โจชัวร์ โรเบิร์ต โดยจะจริง-ไม่จริงไปตามนั้น หรือไม่? อย่างไร? ก็คงต้อง รอพักชมโฆษณาอีกจั๊กกู้ หรืออีกไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า คงพอได้รู้ๆ แบบชัดๆ จะจะนั่นแหละว่า สุดท้ายแล้ว...จะออกมาในแนวไหนต่อแนวไหน...

--------------------------------------------------------

แต่ที่ออกจะน่าสังเกตและน่าคิด สะกิดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ...การวิเคราะห์ หรือการประเมินดังกล่าว อาจถือเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงความ แปลกแยก ภายในสังคมไทย ค่อนข้างชัดเจน และค่อนข้างน่าเป็นห่วง น่าหนักใจ มิใช่น้อย โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกด แรงบีบ แรงกระทำย่ำยี จาก ปัจจัยภายนอก ที่นับวันจะหนักหน่วง รุนแรง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งของโลก ที่กำลังเป็นไปในลักษณะไม่ต่างไปจาก สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่แม้ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการก็ตาม หรือพูดง่ายๆ ว่า...ยังเป็นสังคมที่ปราศจากเสียซึ่ง สามัคคีธรรม ด้วยเหตุเพราะบรรดากลุ่มต่างๆ ฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้าม หรือฝ่ายเดียวกันเอง ล้วนแล้วแต่ปราศจากเสียซึ่ง ขันติธรรม เป็นพื้นฐาน...นั่นแล...

------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon(อีกครั้ง...และอีกครั้ง)... “Patience is the virtue most needed just when we run out of it.- ขันติธรรม ความอดทน เป็นคุณสมบัติที่เรามักขาด โดยเฉพาะในยามที่เราต้องการมันอย่างถึงที่สุด...”

--------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น