ยังไม่ถึงกับต้องคิดมากหรือคิดเล็ก-คิดน้อย

แต่บางชาติ บางประเทศ ยังหนีไม่พ้นต้องระหองระแหงกับยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคอย่างคุณพี่จีน ในเรื่องน่านน้ำ เรื่องเกาะโน้น เกาะนี้ จนกว่าจะออก แถลงการณ์ร่วม ของอาเซียนในแต่ละที ต้องอาศัยกำลังภายใน ต้องเจอกับแรงผลัก แรงดัน ชนิดต้องเปลี่ยนแปลง แก้ไข ถ้อยคำในแถลงการณ์กันเป็นวรรค เป็นประโยค หรือเป็นแต่ละคำแต่ละบรรทัดเอาเลยก็ยังมี....

-------------------------------------------------

แต่จะด้วยความ นิ่ม หรือความเชี่ยวชาญในการลอดเลื้อย โอบกระหวัดรัดพัน ของ พญามังกรจีน รวมทั้งความ หยาบ ความสาก ไปจนถึงความถ่อยของ พญาอินทรี ก็แล้วแต่จะคิดกันเอาเอง ยิ่งนานวัน...สัมพันธภาพระหว่างบรรดาชาติอาเซียนกับ 2 อภิมหาอำนาจ ที่พยายามไล่จิก ไล่ตี กันภายในภูมิภาคแบบชนิดหนักหน่วง รุนแรง ยิ่งเข้าไปทุกที ค่อนข้างที่จะเป็นอะไรที่ ลงตัว ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ คือต่างพร้อมที่จะ ปลอดภัยเอาไว้ก่อน ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งปวง แทบไม่มีประเทศหนึ่ง ประเทศใด ที่คิดจะแกว่งปากหาเท้า หรือแกว่งตีนหาเสี้ยน แม้แต่ประเทศที่เคยจูบปาก เคยไซ้ไป-ไซ้มา หรือกระทั่งเคย เก็บสบู่ ให้กับคุณพ่ออเมริกามาโดยตลอด...

---------------------------------------------------

แม้แต่ประเทศ สิงคโปร์ ที่เคยเปิดบ้าน เปิดประเทศ  เคยแปลงสภาพตัวเองเป็น อู่ต่อเรือ ให้กับเรือรบอเมริกา  เคยแสดงความพร้อมที่จะเป็น ใบบัว หรือเป็นส่วนหนึ่งของ ฐานทัพลอยน้ำ ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว แต่เอาไป-เอามา...กระทั่งผู้นำอย่างท่านนายกรัฐมนตรี หลี  เซียนหลุง ท่านยังอดไม่ได้ที่จะออกมา อบรม คุณพ่ออเมริกา ในเรื่องการคิดจะต่อต้านจีน ปิดล้อมจีน ที่กำลังกลายสภาพเป็นประเทศ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ  1 ของโลก ในอีกไม่นาน-ไม่ช้า ว่ามีแต่จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนให้กับประเทศต่างๆ ที่มีแต่อยากจะ หาเงิน-หาทอง ไม่ได้อยากจะ หาเรื่อง กับผู้หนึ่ง-ผู้ใดเอาเลยแม้แต่น้อย...

---------------------------------------------------

หรือฟิลิปปินส์ที่เคยเป็นฐานทัพ ฐานปฏิบัติทางอากาศของคุณพ่ออเมริกามานานแสนนาน แถมยังต้องมีเรื่องระหองระแหงกับจีนเรื่องการจับปง จับปลา การหาน้ำมันตามชายฝั่งทะเลอยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้ แต่ก็อย่างที่ประธานาธิบดี ดูเตอร์เต ท่านได้ย้อนถามนักข่าวฝรั่งไปแล้วนั่นแหละว่า ถ้าหาก ผัวกับเมีย เกิดตีกันขึ้นมา  ระหว่างเมียกับผัวใครน่าที่จะเป็นฝ่ายเจ็บตัวมากกว่า การวางระยะห่าง-ระยะเคียงกับมหาอำนาจอย่างจีนของฟิลิปปินส์ยุคนี้ จึงแทบเป็นคนละเรื่อง-คนละม้วนกับยุคอดีตประธานาธิบดี เบนิกโน หรือ เบนิโญ อากีโน ที่เคยก่อให้เกิดปัญหาในการออก แถลงการณ์ร่วม ของชาติอาเซียนในแต่ละครั้ง แต่ละครา...

----------------------------------------------------

แน่ล่ะว่า...ภายใต้สภาพเช่นนี้ ผู้ที่สุดแสนจะลื่นไหล ผู้ที่แสดงออกถึงขีดความสามารถในการ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์มาตลอด 7 ปี-8 ปี อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา คงไม่น่าถึงกับคิดจะ เก็บสบู่ ให้กับคุณพ่ออเมริกาเอาง่ายๆ โดยจังหวะลีลาที่แสดงออกถึงความเชี่ยวชาญในการเด้งเชือก ฉากหลบ มุดจั๊กกะแร้ฝ่ายตรงกันข้าม ออกมาเต้นย็อกๆ แย็กๆ กลางเวทีได้ถึง 7 ปี-8 ปี น่าจะพอเป็นตัวรับประกัน การันตี ได้ตามสมควร ว่าระหว่างที่ต้องไซ้ไป-ไซ้มากับคุณพ่ออเมริกาหรือคุณพี่ญี่ปุ่น ยุ่นปี่ ก็เถอะ  แต่ถ้าลองได้จังหวะ ได้โอกาสขึ้นมาเมื่อไหร่ ความเป็นไปได้ในการโดดกัดหัว ดูดสมอง ตามแบบฉบับ สยามไมเซชั่น ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...

--------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้...เลยคงไม่ถึงกับต้องไปคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อยจนเกินไป สำหรับความเคลื่อนไหวของชาติอาเซียนทั้งหลายในการหาจุดลงตัว ระหว่างความสัมพันธ์กับ  2 อภิมหาอำนาจอย่างอเมริกาและจีนหรือกระทั่งรัสเซีย  เพราะยังไงก็คงต้อง เอาตัวรอด เข้าไว้ก่อนนั่นแหละ  สำหรับชาติอาเซียนในแต่ละชาติ ยิ่งแทบไม่มีปัญหาเรื่องอุดมคติ อุดมการณ์ แบบช่วงยุค สงครามเย็น เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องของเงินๆ-ทองๆ หรือเรื่องของ ผลประโยชน์ จึงย่อมอยู่เหนือสิ่งอื่นใดอยู่แล้วแน่ๆ และในเมื่อคุณพ่ออเมริกาท่านออกอาการ ตึ๋งหนืด คิดจะควักเงินแค่ 150 ล้านดอลลาร์เท่านั้นเองให้กับการสนับสนุนโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของอาเซียนทั้ง 10  ชาติ เทียบไม่ได้กับกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ที่เอาไว้ช่วยยูเครนเพียงแค่ประเทศเดียว ดังนั้น...ยังไงๆ ก็คงสู้คุณพี่จีน ที่พร้อมจะ เสี่ยสั่งลุย มาโดยตลอด ไม่ได้อยู่ดี...

-----------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Arleigh A.  Burke... “There never is a  convenient place to fight a war  when the other man starts it. - ไม่เคยมีสถานที่อันเหมาะสมกับการต่อสู้ศึกสงคราม ในเมื่อคนอื่นเป็นผู้เริ่มขึ้นก่อน...”

---------------------------------------------------