ขมุกขมัว...สลัว...และอึมครึม!!!

อีกแค่ไม่กี่วัน...ก็จะได้เวลา เปิดสภา กันแล้ว และการเปิดเที่ยวนี้ คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า โดยสีสัน บรรยากาศ มันออกไปทางทึบๆ ทึมๆ อยู่พอสมควร

ขมุกขมัว สลัวๆ ปานประดุจอยู่ในม่านหมอก ชนิดโอกาสที่จะแยกแยะอะไรต่อมิอะไรให้ชัดเจน แจ่มแจ้ง แทบเป็นไปได้เอาเลย...

โดยเฉพาะภายในพรรคแกนนำรัฐบาล...อย่างพรรคประชารัฐเขานั่นแหละแทบไม่รู้หมู่ รู้จ่า รู้สารวัตร ไม่รู้ใครใหญ่ ใครอยู่ กันแน่!!!    

ส่งผลให้ความอึมครึมมันเลยแผ่ซ่าน ทาบทา ไปทั่วทั้งรัฐสภา ปกคลุมไปทั่วทั้งสัปปายะสภาสถาน ชนิดไม่ว่าใครก็ใครย่อมมีสิทธิ์ เกร็งง์ง์ง์ กันไปโดยตลอด โดยเฉพาะหัวหน้าคณะรัฐบาล อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา ที่เคยขนหัวลุก ขนคอตั้ง มาตั้งแต่ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวที่แล้ว จนเกิดข่าวคราวการแบกหวี แบกกล้วย ระดับลือกันสนั่นเมือง โดยจะจริง-ไม่จริง คงต้องลองไปสอบถาม ลิง กันเอาเอง...

ส่วนมาคราวนี้...จะต้องกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า กล้วยหักมุก ฯลฯ กันอีกหรือไม่? อย่างไร? ก็ยากซ์ซ์ซ์ที่จะสรุปได้ชัดเจน แต่เอาเป็นว่าจาก กฎหมาย หลายๆ ฉบับ ที่จำเป็นต้องผ่าน ต้องอาศัย มติ ภายในสภา ในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณีนั้น ถ้าหากฝ่ายตรงข้าม หรือฝ่ายที่ใกล้ชิดผูกพัน แต่หลังๆ นี้แทบไม่รู้ว่าใคร-เป็นใคร ไผ-เป็นไผ เกิดเล่นแร่แปรธาตุ วางหมาก วางเกม ให้ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เข้าไว้ โอกาสที่จะก่อเหตุ ก่อการณ์ ระดับต้องเจอกับ หมัดที่มองไม่เห็น หงายหลังกลางอากาศลงไปนับสิบ นับแปด หรือเจอกับ ไม้จิ้มฟันแทงเหงือก...ดันเสือกตาย ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย!!!

อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ต้อง เกร็งง์ง์ง์ ต้องขนหัวลุก ขนคอตั้ง กันไปโดยตลอด หนักหนา-สาหัส กว่าการก่อเหตุ ก่อการณ์ของพวกเด็กๆ ที่แม้จะมี อาจารย์แก่ๆ หนุนหลังหรือไม่? อย่างไร? ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า คือสำหรับพวกเด็กๆ นั้น อย่างมากก็หนักไปทางประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ฯลฯ ตูมๆ ตามๆ กันไปตามเรื่อง ตามราว ตามแบบฉบับ คบเด็กสร้างบ้าน-คบหัวล้านสร้างเมือง อะไรทำนองนั้น แต่โดยเนื้อหา สาระ โดยเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการก่อเหตุ ก่อการณ์ ยังไงๆ มันคงไม่น่าจะขยายวง ไม่น่า จุดติด กันได้ง่ายๆ หรือออกไปทาง แพ้...ตั้งแต่ในมุ้ง ยากที่จะสร้างความต่อเนื่อง ความกระทบกระเทือน ให้กับสถานะความเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลมากมายซักเท่าไหร่...

แต่ถ้าหากเจอกับพวก นักการเมือง ที่พ้นวัยเด็กมานานแล้ว ที่ทั้งแก่ ทั้งแรด นี่สิ!!! แต่ละรายล้วนแล้วแต่เกล็ดแตกลายงา เขี้ยวยาวเฟื้อยเลื้อยลากดิน มีปีก มีหาง แถมพ่นไฟได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพลตรี พลโท หรือพลเอกอัตราจอมพลไปโน่นเลย ต่างก็เคย ตาย...กับ...ตาย เพราะการออกฤทธิ์ ออกเดช ของบรรดา นักการเมือง มาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น ขนาดพลเอกที่ตบะ บารมี แก่กล้า ระดับถือเป็น อินทรีบางเขน อย่างท่านอดีตพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ สุดท้าย...ก็ขนร่วง ปีกหาง ยับเยิน ก็เพราะดันไปคลุก ไปคลี กับบรรดานักการเมืองทั้งหลายนั่นเอง...

หรือระดับที่ได้ชื่อว่าสุดฉลาด แสนฉลาด ชนิดได้ชื่อ ฉายาว่า ขงเบ้งแห่งกองทัพบก อย่าง พลเอกพ่อใหญ่ บิ๊กจิ๋ว-ชวลิต ยงใจยุทธ ตอนเป็นทหารนั้นยิ่งใหญ่ เกรียงไกร แบบสุดๆ แต่พอลงมาคลุก มาคลี กับบรรดา นักการเมือง ได้พักเดียว จาก ขงเบ้ง ต้องกลายสภาพเป็น หมงเท่ง หรือ ม่องเท่ง ในเวลาชั่วไม่กี่อึดใจเท่านั้นเอง แม้แต่อดีตนักเรียนแพทย์และอดีตนายร้อย จปร.ที่ทั้งเก่ง ทั้งหล่อ ทั้งเฉียบขาด ไม่ว่าในแง่บู๊ หรือบุ๋นก็ตาม อย่างพลเอก สุจินดา คราประยูร ของหมู่เฮาสุดท้าย...ก็ผมหงอก ผมขาว ต้อง เฟด ตัวเองออกไปจากแวดวงการเมือง หลังจากพยายามหันมาคลุกกับ นักการเมือง ได้ซักพักใหญ่ๆ...ฯลฯลฯ...

ดังนั้น...ระดับ เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน ฮึ้มฮึม ฮึ้มหึ่ม อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา...จะไปเหลืออะไร??? โดยเฉพาะเมื่อต้องหันมาคลุก หันมาคลี กับบรรดา นักการเมือง อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ นับจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจคราวที่แล้วเป็นต้นมา ต้องปลูกกล้วย ปอกกล้วย อย่างเป็นระบบและกิจการยิ่งเข้าไปทุกที ถึงขั้นซุบซิบ นินทา ว่าอาจต้องมานั่งเป็น หัวหน้าพรรค ด้วยตัวเองเอาเลยถึงขั้นนั้น โอกาสที่จะ ถึงคิว...ฆ่า!!! จึงย่อมเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาใช้ประทัดยักษ์ หรือระเบิดปิงปอง ฯลฯ เอาเลยแม้แต่น้อย...

ยิ่งเมื่อเจอเข้ากับความทึบๆ ทึมๆ ความอึมครึม ชนิดแทบไม่รู้ว่าใครเป็นหมู่ ใครเป็นจ่า ใครเป็นสารวัตรกันแน่!!! ไม่รู้ว่าป่ารอยต่อ หรือรอยต่อป่า มีเส้นพรมแดน เขตแดน กินไปถึงไหนต่อถึงไหนก็ยิ่งออกจะเป็น อันตราย ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น และอาจด้วยบรรยากาศเช่นนี้นี่เอง เลยทำให้เกิดการขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว ของบรรดา นักการเมือง ในช่วงระยะนี้อย่างเป็นพิเศษไม่ได้คิดจะรอให้ครบเทอม ครบ 2 ปีแต่อย่างใด ยิ่งโดยเฉพาะ ไส้เดือนดินทางการเมือง อย่างคุณพี่ โทนี่-โทนาฟ ด้วยแล้ว ถึงกับพยากรณ์เอาไว้ก่อนล่วงหน้าว่า ไม่น่าจะเกินต้นปีหน้า กลางปีหน้า คงได้ เขย่าประชาธิปไตย ในมือของใครต่อใครกันไปตามสภาพ จริง-ไม่จริง...ก็คงต้องรอดูไปเป็นระยะๆ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ใครที่อยากกลับมาสิงสถิตในสัปปายะสภาสถานต่อไป คงหนีไม่พ้นต้องรีบ ลงพื้นที่ ให้มากๆ เข้าไว้ เพราะ สัญญาณทางการเมือง ช่วงนี้ มันน่าจะเริ่มดังขึ้นมามั่งแล้ว ประมาณว่า...ต๊ายแหน่ ต๊ายแหน่!!! อะไรทำนองนั้น...

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Anon... Any time you think you have influence, try ordering around someone else’ s dog.- เมื่อใดที่ท่านคิดว่าท่านมีอิทธิพล ก็ลองสั่งให้สุนัขผู้อื่นทำตามคำสั่งของท่านดูสิ...”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น