ต้องด่าจนร่วงเก้าอี้ใช่ไหม...จะได้เหรอ?

เกือบจะครบวาระ 4 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีตามครรลองประชาธิปไตยที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยฉบับปี 2560 แต่ฝ่ายค้านก็ยังคงกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการ โดยยึดติดกับคำว่า “รัฐประหาร” ซึ่งจบสิ้นไปแล้วตั้งแต่เรามีการเลือกตั้งในปี 2562 และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีการเลือกตั้งกันในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีฝ่ายค้านเสนอนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าแข่งขัน อยากจะตั้งคำถามว่า ฝ่ายค้านยึดติดกับคำว่า "รัฐประหาร" มากเกินไปหรือเปล่า หรือว่าช่วงที่เขามีการเลือกตั้ง จนถึงการจัดตั้งรัฐบาล การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในสภานั้น ฝ่ายค้านทั้งหลายหลับใหลไม่ได้ตื่น พอตื่นมาอีกทีก็เห็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ แล้วก็สร้างสารพัดวาทกรรมในการจะด้อยค่านายกรัฐมนตรี

วาทกรรมที่สร้างขึ้นมานั้น ถ้าหากใครเชื่อหรือคล้อยตามก็คงจะมองพลเอกประยุทธ์ว่าเป็นคนที่แย่มาก เพราะพวกเขาว่านายรัฐมนตรีเป็นคนโง่บ้าง เป็นเผด็จการบ้าง เป็นคนแคบ เพราะเป็นทหารมาตลอดชีวิตบ้าง ทำประเทศชาติเสียหายบ้าง บริหารจัดการโควิดได้แย่มาก จนทำให้คนตายเป็นเบือบ้าง วาทกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องที่แย้งกับสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำงานบริหารบ้านเมือง จนคนบางคนทนไม่ได้ ต้องไปทำ Infographic เปรียบเทียบว่า ตั้งแต่ 2544 มาจนถึง 2557 (เว้นระยะเวลาของนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี) มีการสืบทอดอำนาจอย่างชัดเจน ด้วยการใช้นายกรัฐมนตรีตัวแทนในหมู่วงศาคณาญาติ เป็นเวลามากกว่า 10 ปี เปรียบเทียบกับการเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ประมาณ 7 ปีกว่าๆ นั้น ใครทำประเทศรุ่ง ใครทำประเทศร่วง

นอกจากพวกเขาจะบอกว่าพลเอกประยุทธ์เป็นคนไม่ดี เป็นคนทำประเทศชาติล้าหลัง เป็นคนขายชาติ พวกเขายังหาว่าพลเอกประยุทธ์เป็นคนขี้โกงอีกด้วย ทั้งๆ ที่ไม่มีความจริงเชิงประจักษ์ใดๆ เลย ทุกครั้งที่เปิดสมัยประชุมจะต้องมีการยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรีแบบลงคะแนนได้บ้าง ไม่อาจจะลงคะแนนได้บ้าง แต่ก็ไม่เห็นมีเรื่องราวความเลวร้ายเชิงประจักษ์ของนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีร่วมคณะคนใดมาจัดการกับรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะคุยโม้โอ้อวดว่ามีทีเด็ดทุกครั้งไป แต่เราก็จะได้ยินแต่ข่าวเก่าๆ ที่เราได้พบได้เห็นแล้วในสื่อต่างๆ ทั้ง Offline และ Online ประชาชนก็มองออกว่าเขาไม่สามารถทำอะไรนายกรัฐมนตรีได้ แต่สิ่งที่พวกเขาได้ก็คือ การได้ด่านายกรัฐมนตรีออกทีวีเท่านั้นเอง สิ่งที่เขาพูดอาจจะมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่นิยมชมชื่นพรรคของเขาเชื่อตามที่พวกเขาพูด แต่สำหรับคนที่คิดเป็น วิเคราะห์เป็น ไม่มีใครเชื่อหรอก

เมื่อพวกเขาบอกว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนโง่ เป็นคนไม่ดี เป็นคนแคบ ก็อยากจะถามว่าแล้วการกระทำแบบไหนที่เรียกว่าฉลาด และการกระทำแบบไหนที่เรียกว่าวิสัยทัศน์กว้างไกล แล้วการกระทำแบบไหนที่เรียกว่าเป็นคนดี การคอร์รัปชันเชิงนโยบายดีใช่ไหม การโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรมฉลาดใช่ไหม การโกงจำนำข้าวเป็นคนเก่งใช่ไหม การบริหารประเทศแบบมีผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมใช่ไหม ลองใช้สมองตรองดูให้ดีว่า
การทุจริตโครงการจำนำข้าวกว่า 7 แสนล้านนั้น ชั่วหรือดี
การปราบยาเสพติดจนเกิดการฆ่าตัดตอนผิดตัวนี่ฉลาดมากเลยใช่ไหม
การจ้างชายชุดดำซ่องสุมอาวุธแล้วทำร้ายประชาชนเป็นเรื่องฉลาดมากใช่ไหม
การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยกเข่งแบบลักหลับเป็นความเก่งใช่ไหม
การให้ ส.ส.เสียบบัตรแทนกันนี่เป็นคนคิดกว้าง มองกว้างมากใช่ไหม
การยุยงให้ประชาชนจำนวนหนึ่งไปเผาบ้านเผาเมืองนี่เป็นคนดีมากใช่ไหม
การให้คนโง่มาบริหารบ้านเมืองนี่เป็นความฉลาดใช่ไหม
การทำนุบำรุงจังหวัดที่ลงคะแนนให้ และไม่พัฒนาจังหวัดที่ไม่ลงคะแนนให้ นี่ใจกว้างมากสินะ
การเอาผลประโยชน์ของชาติไปให้ต่างชาติเพื่อประโยชน์ของตนนี่คือการเป็นคนดีมากไหมนะ

พอละ ไม่ถามต่อละ เพราะถ้าจะถามต่อ หน้ากระดาษคงไม่พอ สมัยพันธมิตรในปี 2548 มีการพูดถึงความเลวร้ายของผู้นำบางคนมากกว่า 40 ข้อ มาถึงปีนี้ 2565 ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่า 60 ข้อ นั่นหมายความว่าจนป่านนี้แล้วยังไม่เลิกที่จะทำสิ่งที่เป็นปัญหากับประเทศไทยแบบไม่รู้จักพอสักที อยากกลับบ้าน ก็กลับมาสิคะ ไม่มีใครห้าม แต่คดีที่ตัดสินไปแล้วก็ต้องติดคุกมากกว่า 10 ปีแล้วนะ และยังมีที่ยังไม่ได้ตัดสินอยู่อีกหลายคดี ตอนนี้หวังว่าจะให้คนของตนได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินแบบถล่มทลาย อยากกลับบ้านโดยไม่ต้องคิดคุก ถ้าหากไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องติดคุก แต่ตอนนี้ได้ทำผิดไปแล้ว สัตว์โลกก็ต้องเป็นไปตามกรรม เรื่องนี้เป็นสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธได้

จะออกมาพูดกี่ครั้งก็มีคนฟังเป็นการเห่า จะออกมาแสดงความคิดเห็นกี่ครั้ง คนก็มองว่าอวดเก่ง จะออกมาด่าพลเอกประยุทธ์กี่ครั้ง คนก็มองว่าต้องการที่จะได้อำนาจ ลิ่วล้อที่ทำงานการเมืองอยู่ในเวลานี้จึงจ้องที่จะแซะ แขวะ ด่าพลเอกประยุทธ์แบบตามที่นายสั่งอย่างซื่อสัตย์ ไม่รู้ว่าพวกเขามาทำงานการเมืองเพื่อประชาชน หรือเพื่อนายเจ้าของคอกกันแน่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568

ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ

เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร

ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง

'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้

ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง

ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2

ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

'ดร.เสรี' กรีดเหวอะ! ใครมีลูกสาวเก่งพอที่จะเป็นนายกฯ ต้องบอกลูกให้มีผัว 9 คนอยู่ใน 9 ภาค

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครมีลูกสาวที่เก่งพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกลูกนะคะ