เด็กอายุไม่ถึง 20 เป็นเด็กนักเรียนมัธยมกำลังถูกหลอกว่าพวกเขาเป็นคนเก่ง เป็นคนกล้าหาญ กล้าพูดกล้าทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่จำนวนมากไม่กล้าพูดไม่กล้าทำ เป็นคนที่ออกมาต่อสู้เพื่อวางอนาคตให้กับตนเอง แต่แท้ที่จริงแล้วเด็กพวกนี้กำลังถูกหลอกจากนักการเมืองขี้ขลาดที่ไม่บ้าก็ป่วย บ้าที่คิดจะล้มล้างระบบการปกครองของไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ป่วยที่มีอาการเป็นปฏิปักษ์กษัตริย์นิยม และคลั่งไคล้ปฏิวัตินิยมที่ต้องการความสำเร็จด้วยวิธีการอันรุนแรง
เป็นการหลอกเด็กให้ออกมาต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ยุให้เด็กทำผิดกฎหมายจนเด็กต้องคดีและต้องติดคุก แม้ว่าศาลเคยเมตตาให้ประกันตัวด้วยข้อแม้ว่าอย่าออกมาทำผิดซ้ำอีก อย่าก่อความวุ่นวายอีก แต่เด็กๆ ก็ยังทำ เพราะคนที่หลอกเด็กมักจะกล่าวยกย่องชมเชยเด็กที่ทำให้เด็กฮึกเหิมและทำผิดในเรื่องเดิมซ้ำซากจนถูกถอนการประกันตัว ทำให้ต้องกลับเข้าเรือนจำ
น่าสงสารเด็กที่ต้องพบชะตากรรมดังกล่าว ก่อนหน้านี้อาจจะมี ส.ส.ของบางพรรค นักการเมืองบางคน พร้อมทั้งมวลชน 3 กีบมาเป็นเพื่อนให้กำลังใจ ตะโกนปล่อยเพื่อนกู แต่พักหลังนี้ ส.ส.และนักการเมืองหายไป มวลชนที่เคยมาให้กำลังใจก็ไม่มี เด็กๆ ที่ต้องกลับเข้าคุกก็ต้องโดดเดี่ยวเดียวดาย ชะตากรรมของคนรุ่นใหม่สามกีบที่ต้องเป็นเช่นนี้ก็เพราะบรรดาผู้ใหญ่สามกีบที่เป็นแกนนำตัวจริงมีแต่พูดยุให้เด็กๆ ออกมาทำผิดกฎหมาย แต่ตัวเองไม่เคยออกมา อีกทั้งวิธีการพูดก็สร้างวาทกรรมฉวัดเฉวียนให้ไม่ผิดกฎหมาย แต่เด็กๆ ที่ได้ชุดข้อมูลจากการครอบงำของพวกเขามา เมื่อมีความเชื่อเช่นนั้น เวลาออกมาทำกิจกรรมก็ทำแบบไม่มีการสร้างวาทกรรมที่แยบยลเหมือนผู้ใหญ่ที่ยุยง จึงกลายเป็นคนทำผิดกฎหมาย ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่เป็นคนยุยงกลับเอาตัวรอด แล้วปล่อยให้คนรุ่นใหม่สามกีบออกหน้าทำผิดติดคุกติดตะรางแทนตัวเองมาโดยตลอด
การต่อสู้เพื่อคนรุ่นใหม่เป็นการกระทำที่เกิดจากการหลอกลวงของผู้ใหญ่สามกีบที่คอยรับผลประโยชน์จากการเดิมพันอนาคตของวัยรุ่นวัยคะนอง เป็นการทำลายอนาคตของคนรุ่นใหม่เสียเอง ทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัวของคนรุ่นใหม่ เพราะเด็กเหล่านี้บางคนถูกไล่ออกจากบ้าน บางคนหนีออกมาเองเพราะไม่พอใจที่พ่อแม่เป็นสลิ่ม ในขณะที่พ่อแม่ห่วงใยว่าลูกจะทำผิดกฎหมายและต้องติดคุก ออกมาตามหาลูกๆ เพื่อจะพากลับบ้าน แต่เด็กเหล่านี้บางคนไปไกลเกินกว่าที่จะกู่กลับ จึงปฏิเสธที่จะทำตามคำขอร้องของพ่อแม่ ยินดีที่จะออกมาอยู่นอกบ้าน และต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ที่ผู้ใหญ่หลอกให้แสวงหา นั่นคือเสรีภาพและความเท่าเทียม ทั้งๆ ที่สิ่งที่พวกเขาถูกหลอกให้ทำนั้นไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมแต่อย่างใด พวกเด็กๆ ลำบากในการออกมาทำกิจกรรม ต้องเผชิญกับคดี ต้องติดคุก แต่ผู้ใหญ่อยู่สบายในห้องแอร์ อย่างนี้ไม่ใช่การเอารัดเอาเปรียบอย่างน่ารังเกียจหรอกหรือ มันไม่ใช่ความเท่าเทียมที่เด็กๆ ถูกหลอกให้มาเรียกหาแม้แต่น้อย
ขณะที่คนรุ่นใหม่สามกีบแสดงความกล้าหาญ ออกมาจัดกิจกรรม ทั้งการชุมนุม การเผา การด่า การปราศรัย การยกป้ายด้วยข้อความที่ดูหมิ่น และด้วยการกระทำที่อาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์และพระราชินีครั้งแล้วครั้งเล่า ตามคำยุยงของผู้ใหญ่ขี้ขลาดชาติชั่วทั้งหลาย เด็กๆ ทำผิดจนติดคุกติดตะราง ผู้ใหญ่สามกีบกลับขยันแต่คอยยั่วยุและชี้นำทางความคิด โดยไม่กล้าเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ไม่กล้าเสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมายจนต้องโทษคดีอาญาใดๆ เด็กๆ ไม่เข้าใจว่าการชูสามนิ้วเป็นสิ่งที่อัปลักษณ์และขาดความชอบธรรมอย่างร้ายแรง เพราะแม้แต่บรรดาผู้ใหญ่สามกีบก็ไม่ออกมาทำกิจกรรมแบบที่เด็กๆ ทำ แสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการรับผิดชอบต่อความคิดของตัวเอง ไม่กล้าที่จะนำความคิดและอุดมการณ์ของตนมาลงมือปฏิบัติ ทำได้เพียงแค่ยัดเยียดให้เป็นภาระหน้าที่ของคนรุ่นใหม่อย่างเห็นแก่ตัว
การถูกถอนประกันและการถูกจับกุมโดยไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวของเด็กๆ สามกีบหลายๆ คนในช่วงเวลานี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเอารัดเอาเปรียบคนรุ่นใหม่จากบรรดาผู้ใหญ่สามกีบที่ขี้ขลาด บ้าและป่วยทางจิตทั้งหลาย เด็กๆ และพ่อแม่ของเด็กๆ น่าจะมองเห็นความตกต่ำของการชูสามนิ้ว ส.ส.และนักการเมืองที่ไม่ใช่ ส.ส.หลายคนจึงหายหน้าไป และมวลชนที่เคยสนับสนุนก็หายไป การออกมาจากเรือนจำเพื่อไปให้การในศาลของแกนนำสามนิ้วบางคนจึงเป็นปรากฏการณ์ของความโดดเดี่ยวเดียวดายหน้าบัลลังก์ จนเป็นที่น่าเวทนาของคนที่ได้พบเห็น แล้วคนที่ยุให้เด็กออกมาทำผิดหายไปไหนกันหมด ทำไมไม่ออกมาดูแลเด็กๆ ที่ทำตามคำยั่วยุของตนเอง ทำไมปล่อยให้ขึ้นศาลอย่างเดียวดาย ทำไมปล่อยให้ถูกถอนประกัน ทำไมปล่อยให้อดข้าวประท้วงโดยไม่มีใครติดตามผลว่าการอดข้าวของเด็กๆ สามกีบในเรือนจำเป็นเช่นไร
การตกต่ำของขบวนการสามกีบนั้นน่าจะมาจากหลายสาเหตุ ได้แก่ การที่กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมได้มาถึงจุดที่ศาลไม่อาจจะเมตตาปล่อยตัวชั่วคราวอีกต่อไปแล้ว และมีการถอนประกันหลายราย ทำให้มีการติดคุกจริง ปรากฏการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้เด็กๆ ที่คิดจะออกมาเป็นมวลชนสามกีบมีความกลัว และพ่อแม่ก็กลัว และอาจจะสามารถเปลี่ยนใจลูกๆ ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ที่มีปรากฏการณ์จับปล่อยครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เด็กๆ ไม่กลัวที่จะทำผิดกฎหมาย ไม่เพียงแต่เด็กๆ เท่านั้นที่เริ่มกลัวกระบวนการยุติธรรมที่หมดเวลาที่จะปล่อยตัวชั่วคราวเพราะการทำผิดซ้ำซาก แม้แต่ ส.ส.และนักการเมืองที่เคยเสนอหน้ามาประกัน มาเป็นกำลังใจให้กับเด็กๆ สามกีบที่ต้องชะตากรรมก็คงจะกลัวไปด้วย จึงหายหน้าไป
นอกจากนั้นแล้ว ความขัดแย้งระหว่างพวกแกนนำสามกีบเองที่ออกมาสาวไส้ให้กากิน ทำให้ขบวนการชุมนุมและการต่อสู้ของพวกเขาหมดความชอบธรรม มีทั้งเรื่องการใช้เงิน และการมีคดีล่วงล้ำทางเพศที่เกิดขึ้นหลายๆ กรณี บางคนไม่อาจชี้แจงการใช้เงินได้ก็ต้องเงียบหายไป บางคนไม่อาจที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงล้ำทางเพศได้ก็ต้องเงียบหายไปเช่นกัน หมดแกนนำรุ่นแรกๆ ที่ถูกจับ ไม่ได้ประกันตัว ที่เคยได้รับการประกันตัวก็ถูกถอนประกัน การจะหาแกนนำรุ่นสองรุ่นสามจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ที่ได้มานั้นอายุก็น้อยลงเรื่อยๆ ความไม่ประสีประสากับเรื่องการเมืองอย่างแท้จริง การไม่รู้กฎหมาย จึงทำให้เด็กๆ ที่ออกมาเป็นแกนนำในรุ่นหลังๆ นี้มีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงกับการทำผิดกฎหมายและทำให้ต้องติดคุกติดตะรางได้ง่าย คนที่ติดตามเรื่องราวของเด็กๆ ที่ทำผิดกฎหมายแล้วก็อดสงสารพ่อแม่ของเด็กๆ ไม่ได้ และก็อดห่วงไม่ได้ว่าอนาคตของเด็กๆ พวกนี้จะเป็นเช่นไร พวกเขาจะรู้ไหมว่าคนที่ไม่พอใจขบวนการของเขาในประเทศนี้มีมากเพียงใด ต่อไปพวกเขาจะหาที่เรียน หรือจะหางานทำได้อย่างไร น่าสงสารจริงๆ นะ ผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังสมควรถูกประณามนะ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
ดร.เสรี ลั่นรังเกียจ วาทกรรมแซะสถาบัน
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า เกิดวาทกรรมใหม่ "ใบอนุญาตที่ 2"
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง
'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้
ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง
ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2
ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
'ดร.เสรี' กรีดเหวอะ! ใครมีลูกสาวเก่งพอที่จะเป็นนายกฯ ต้องบอกลูกให้มีผัว 9 คนอยู่ใน 9 ภาค
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครมีลูกสาวที่เก่งพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกลูกนะคะ