ชนใดไม่มีดนตรีกาล-ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก

มีเพลงพื้นเมืองเก่าๆ แก่ๆ ของประเทศหมีขาวรัสเซียอยู่เพลงหนึ่ง...ที่อยากจะแนะนำให้มิตรรัก-แฟนเพลงทั้งหลายลองไปควานหามาฟังกันดู จะโดย “คลิก” เข้าไปในยูทูบ หรือกูเกิล ก็แล้วแต่ นั่นก็คือเพลงที่ชื่อว่า Kalinka ที่ว่ากันว่าแต่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเกือบ 200 ปีที่แล้ว หรือประมาณปี ค.ศ.1860 โดยศิลปินนักประพันธ์เพลงชาวรัสเซีย ผู้มีชื่อว่า Ivan Larionov จนต่อมาได้กลายเป็นบทเพลงอภิมหาอมตะนิรันดรกาลของประเทศรัสเซียจนตราบเท่าทุกวันนี้...

คือแม้จะฟังภาษารัสเซียแทบไม่รู้เรื่อง แต่อาจด้วยเหตุเพราะความเป็น เพลงพื้นเมือง

ที่โดยองค์ประกอบพื้นฐานมันมักถูกประดิดประดอย ขึ้นมาจากอารมณ์ ความรู้สึก ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพัน กับบรรดา ธรรมชาติ ทั้งหลายนั่นแหละเป็นหลัก กับสายลม แสงแดด ทุ่งหญ้า ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร หิมะ สายฝน สายธาร ฯลฯ อะไรประมาณนั้น มันเลยมักจะมีความเป็น สากล อยู่ภายในตัว โดยเฉพาะในแง่ท่วงทำนอง ตัวโน้ต ลักษณะลีลาของดนตรี ชนิดแม้ไม่ต้องเข้าใจ ภาษา ที่สอดแทรกอยู่ภายในรายละเอียดของเนื้อเพลง แต่ก็สามารถซู้ดๆ ซ้าดๆ ซี้ดๆ ซ้าดๆ กันได้ไม่ยาก...

และโดยภาษารัสเซียที่ถูกนำมาสอดแทรก เป็นเนื้อร้องไว้ภายในบทเพลงที่ว่านี้ ก็ออกจะให้ความหมายแบบเรียบๆ ง่ายๆ ซ้ำไป-ซ้ำมา ไม่ถึงกับต้องเสียเวลาไปคิดมาก คิดเล็ก-คิดน้อย มากมายซักเท่าไหร่ คือหนักไปทางเพ้อ รำพึง ถึงความสดใสสวยงามของธรรมชาติ ของลูก ราสพ์เบอร์รี่ ที่โผล่ขึ้นมาในทุ่งหิมะ จนทำให้อดคิดไปถึงความสวย ความงาม ของหญิงสาวอันเป็นที่รักอะไรประมาณนั้น ไม่ต่างไปจากเนื้อหาเพลงพื้นเมืองของอีกหลายต่อหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยแลนด์ แดนสยามของหมู่เฮา ที่มักอดไม่ได้ต้องเพ้อ รำพึง รำพัน ถึงคนรักไม่ว่าหญิงหรือชาย เอาไว้ในบทเพลง บทกลอน ในนิราศ เสภา หรือกลอนลำ ฯลฯ ไปตามสภาพ...

แต่ด้วยเหตุเพราะความเป็น อภิมหาอมตะนิรันดรกาล ของบรรดาบทเพลงพื้นเมืองเหล่านี้...มันมักจะอยู่ที่ท่วงทำนอง หรือลีลา ที่มันมีความเป็น สากล อยู่ภายในตัวนั่นเอง มันเลยเป็นสิ่งที่ เข้าถึง และ เข้าใจ ได้ไม่ยาก แม้ว่าจะฟังไม่รู้เรื่องในแง่คำพูด หรือภาษา ก็แล้วแต่ เพลงที่ชื่อว่า Kalinka ของรัสเซีย เลยเป็นอะไรที่ฟังแล้วไพเราะเสนาะหูเป็นอย่างยิ่ง ไม่เชื่อก็ลองไปหามาฟังกันดู โดยที่ความไพเราะเสนาะหูของลีลาและท่วงทำนองในแต่ละช่วง แต่ละระยะนั้น คงต้องอาศัยเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งเข้ามาประกอบควบคู่ไปด้วย ถึงจะ เข้าท่า ยิ่งขึ้นไปใหญ่ นั่นก็คือต้องอาศัยเครื่องดีด เครื่องสาย ที่บรรดา ชาวสลาฟตะวันออก ซึ่งเคยร่อนเร่ เตร็ดเตร่ อยู่แถวๆ เทือกเขาคอเคซัส ที่ไม่ว่าขณะนี้ได้กลายสภาพเป็นชาวรัสเซีย ชาวจอร์เจีย หรือแม้แต่ชาวยูเครน ฯลฯ ก็แล้วแต่ มักนำมาดีด มาเล่น ประกอบบทเพลงต่างๆ มาโดยตลอด หรือที่เรียกๆ กันว่า บาลาไลกา (Balalaika) นั่นเอง...

ส่วนที่ต้องหยิบเอาเรื่องราวเหล่านี้ หรือบทเพลงเพลงนี้มาแนะนำเอาไว้ในที่นี้...ก็คงไม่มีอะไรมากมายหรอกทั่น แต่อาจด้วยเหตุเพราะเผอิญไปเจอกับ ข่าวล่า-มาเรือ อยู่ชิ้นหนึ่ง นั่นก็คือข่าวคราวเรื่องทางการประเทศสวีเดน ที่กำลังมุ่งมั่น มัวเมาอยู่กับการ ต่อต้านรัสเซีย อันเนื่องมาจากการบุกยูเครน ที่เป็นที่รับรู้ รับทราบ กันไปแล้วทั่วทั้งโลก เขาได้ประกาศสั่งห้าม ไม่ให้วงดนตรีรายใดก็ตามในประเทศสวีเดน นำเอาเครื่องดนตรีที่เรียกว่า บาลาไลกา มาเล่น มาบรรเลง กับบทเพลงใดๆ ก็แล้วแต่ ด้วยเหตุเพราะถือว่าเครื่องดนตรีชนิดดังกล่าว เป็นเสมือน สัญลักษณ์ของรัสเซีย ไม่ต่างไปจาก สัญลักษณ์สวัสดิกะ ของพวกนาซีเยอรมัน อะไรประมาณนั้น...

แม้แต่วงดนตรี Sondra Bergens Balalaikor ของประเทศสวีเดนเอง ที่คิดจะร่วมเล่น ร่วมแสดงในงานการกุศล เพื่อหาเงินช่วยสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามกับรัสเซีย หรือกับประเทศยูเครนแท้ๆ ยังถูกสั่งห้ามไม่ให้เล่น ไม่ให้แสดง เพียงเพราะต้องใช้เครื่องดนตรีอย่าง บาลาไลกา เป็นองค์ประกอบ อันแสดงให้เห็นถึงความหยาบ ความถ่อย ภายในกมลสันดาน หรือความเป็น ชนใดไม่มีดนตรีกาล-ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก ของทางการสวีเดน หรือของบรรดาพวกที่ต่อต้านสงคราม ต่อต้านรัสเซีย แต่ปราศจากความเข้าถึง-เข้าใจในสิ่งที่เรียกว่า สันติภาพ จนแม้กระทั่งบทเพลง เครื่องดนตรี ก็ยังถูกตีความ แปลความ ให้กลายเป็นเรื่อง การเมือง ไปจนได้...

ด้วยเหตุนี้...ในระหว่างที่ กระแสต่อต้านรัสเซีย มันกำลังไปไกลระดับไม่ว่าบทเพลง กีฬา วรรณกรรม บทกวี ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพัน กับ ความเป็นรัสเซีย ต่างถูกต่อต้าน ถูกปฏิเสธ ไปด้วยกันทั้งสิ้น บรรดาผู้ที่ยังพอมีหัวจิต หัวใจ เป็น สากล อยู่บ้าง คงต้องลองไปควานหาบทเพลง Kalinka มาฟังกันไปพลางๆ ก่อนที่โลกทั้งโลกจะถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของพวก ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก ไปโดยทั้งสิ้น ทั้งปวง...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฤๅประเทศไทยจะไร้ทางเลือก

เวรกรรมอะไรของประเทศไทย นักการเมืองไดโนเสาร์บางคนยังคงทำงานการเมืองแบบน้ำเน่า แย่งกันเป็นรัฐมนตรีโดยไม่สนใจความรู้ความสามารถของตน

โลกกับบ้านเรา...ใคร 'เละ' กว่าใคร???

มันก็น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่ตามสมควรเหมือนกัน...ที่เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา เกิดมีผู้นำประเทศมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้หญิง

สัญญาใจเก้าอี้ ผบ.ทร.

มีข้อสงสัย มีข้อถกเถียง ว่าเก้าอี้ "ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ" หรือ "ประธาน ก.ตร." นั้น นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

อ่านอาเพศปชป.กับแนวโน้มอายุรัฐบาล

หลังจากได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ก็มีมติเข้าร่วมรัฐบาลไปเมื่อ 29 สิงหาคม 2567 ในแบบ ไม่มีมิตรแท้ หรือ ศัตรูถาวรทางการเมือง 

สับสนอลหม่าน แพทองธาร...พาลแพแตก

เราเคยทำนายไว้ว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐาพ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และได้แพทองธารมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

โลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังถูกกลืนกิน

ด้วยความก้าวหน้า-ก้าวไกลของเทคโนโลยีข้อมูล-ข่าวสาร ที่เตลิดเปิดเปิงไปถึงระดับ 5G-6G และไม่รู้จะอีกกี่ G ภายในอนาคตอันใกล้ แถมยังมีตัวเร่ง ตัวกระตุ้น