แผนฟื้นฟูอย่างยั่งยืน

ประเทศไทยในปี 2565 นี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นฟื้นฟูอย่างจริงจังจากความบอบช้ำของพิษเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญอย่างโควิด-19 ที่กดดันและฉุดรั้งไม่ให้เกิดการพัฒนามานานเกือบ 3 ปี แน่นอนว่าส่งผลไปยังทุกภาคส่วนในโลกที่จะต้องมีการปรับตัว โดยในปีนี้ถือว่าทุกอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว ก็ถือเป็นโอกาสที่สำคัญในการฟื้นฟูหลายๆ อย่างให้กลับคืนมา

เช่นเดียวกับที่คนในสังคมเองก็เริ่มมีหนทางที่จะฟื้นฟู ต่อยอด และพัฒนาทั้งอาชีพ ความเป็นอยู่ และการใช้ชีวิตให้มีคุณภาพกลับมาดีเทียบเท่าหรือมากกว่าช่วงเวลาก่อนเกิดโควิดได้ โดยอาศัยเครื่องมือต่างๆ จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีให้เลือกใช้เกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตที่ปัจจุบันแผนงานและบริการมากมายมาส่งเสริมให้มีทิศทางที่ดีขึ้น

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม กลุ่มผู้ประกอบการการค้า การบริการ หรือในหลายๆ อาชีพก็มีหลายเครื่องมือที่เข้ามาช่วยเหลือทำให้หลายๆ กิจกรรมฟื้นคืนมา ซึ่งหนึ่งในหน่วยงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องและมีแผนดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอดอย่างกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ในปี 65 นี้ก็มีแผนงานที่ชัดเจน ภายใต้การนำของ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

โดยมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ขับเคลื่อนและพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม (Ecosystem) เพื่อเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ช่วยส่งเสริมการประกอบกิจการอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บูรณาการการดำเนินงานหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงเพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย เป็นแนวทางการทำงานและพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับบริบทของสถานการณ์โลกในปัจจุบันเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยมีกรอบแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับแผนการพัฒนาประเทศและภาคอุตสาหกรรม

เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนความมั่นคงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) แห่งสหประชาชาติ และนโยบายระดับกระทรวง เพื่อก่อให้เกิดการเชื่อมโยงในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น

โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิตมีความสมดุล มั่นคง และยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน” ด้วยการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยที่การส่งเสริมและการพัฒนาต้องสอดคล้องกับศักยภาพพื้นฐานของประเทศ ซึ่งการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้จะก่อให้เกิดการเพิ่มผลิตภาพ มูลค่าและมาตรฐาน รวมถึงพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง แข่งขันได้ในเวทีโลก

และแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปีนี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่การยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมสอดคล้องกับศักยภาพพื้นฐานของประเทศ โดยเน้นไปที่งานวิจัย การต่อยอดงานวิจัย และการประยุกต์ใช้ทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาปัจจัยสนับสนุนให้เอื้อต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมใหม่

ด้วยการสนับสนุนสร้างโอกาส และลดอุปสรรคในการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรม การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนด้วย BCG Model เป็นการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นดำเนินกิจการที่เป็นมิตรกับสังคมและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาสู่องค์กรดิจิทัลเพื่อให้การบริการอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยแผนงานดังกล่าวที่จะมีการพัฒนาระบบและความสามารถของบุคลากรในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และมีธรรมาภิบาล ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ รวมถึงตอบโจทย์สำคัญให้กับการฟื้นฟูกิจกรรมต่างๆ ของสังคมให้กลับมาสู่ภาวะปกติแบบยั่งยืนต่อไปในอนาคตหากแผนดังกล่าวสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างครบถ้วน.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม

แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ

ของขวัญรัฐบาล

อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว

ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ

ปี68ธุรกิจบริการอาหารยังโตต่อเนื่อง!

“ธุรกิจบริการอาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2568 จากอานิสงส์ท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้การบริโภคอาหารน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ดันSMEอีอีซีบุกตลาดตปท.

ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะยังไม่ได้พูดถึงโครงการพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี มากนัก เนื่องจากคงจะยุ่งกับการบริหารงานในแนวทางอื่นๆ อยู่ แต่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก