ปล่อยให้ไปตามกำหนดการน่าจะเหมาะกว่า

ฮื่ออ์อ์อ์...น่าจะ แพง ไปหน่อย!!! ไม่ว่าจะบวกภาวะเงินเฟ้อ ภาวะน้ำมันแพง แก๊สแพง ข้าว-ปลา-อาหารแพง ฯลฯ เข้าไปด้วยถึงขั้นไหน สำหรับ ราคาค่ากล้วย ที่คุณทวด ไซรรงค์ สุวรรณคีรี ท่านไปได้ยิน ไปรับรู้ รับทราบ มาจากใครก็แล้วแต่ คือระดับตั้งแต่ 5 ล้านไปถึง 30 ล้านบาทโน่นเลย สำหรับการชูจั๊กกะแร้แค่ไม่กี่นาทีให้กับการหักล้าง โค่นล้ม ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา ในช่วงการเปิดสภาฯ เที่ยวนี้...

-----------------------------------------------------

คืออย่างที่ใครต่อใครเขาพูดๆ กันไปมั่งแล้วนั่นแหละ...ว่าอีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านคงต้องไปตามทางของท่านอยู่แล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะโดยสภาฯ โดยการขาด-ไม่ขาดคุณสมบัติส่วนตัว หรือจะโดยการครบเทอมที่ยังไงต้องมาถึงภายในปีหน้าอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น

ดังนั้น...ถ้าหากซักประมาณ 5 บาท หรือ 30 บาท น่าจะพอเป็นไปได้มากกว่า สำหรับการยกมือ การชูจั๊กกะแร้ แค่ไม่กี่นาที-วินาที ที่แทบไม่ต้องใช้เรี่ยว ใช้แรง อะไรมาก แต่ก็นั่นแหละสำหรับราคาค่ากล้วยของบรรดา นักการเมือง มันก็อาจอยู่นอกเหนือไปจาก อุปสงค์-อุปทาน ธรรมดาๆ อยู่บ้างเล็กน้อย คืออาจต้องเอา อารมณ์-ความรู้สึก ประเภทความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาตพยาบาทและชิงชัง ไปจนถึงความอิจฉาริษยาบวกรวมเข้าไปอีกด้วยต่างหาก อะไรต่อมิอะไรมันเลยอาจขึ้นๆ-ลงๆ แบบที่คุณน้า ไซรรงค์ ท่านได้ยินมาเอาเลยก็ไม่แน่...

-----------------------------------------------

แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...การหัก การโค่น ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ในช่วงนี้ แทนที่จะอดทน รอคอย ให้แต่ละสิ่งแต่ละอย่างเป็นไปตามกำหนดการ มันคงไม่ได้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอะไรกันมากมาย ไม่น่าจะส่งผลไปถึงการแลนด์สไลด์-ไม่แลนด์สไลด์ แอฝะลานช์-ไม่แอฝะลานช์ แต่อย่างใด เพราะโดยวัน-เวลา โดยช่วงระยะเวลาเท่าที่เหลืออยู่ มันคงไม่อาจดลบันดาลให้เกิด ผลได้-ผลเสีย ต่อฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ หรือฝ่ายไหนๆ ก็แล้วแต่ ได้ซักกี่มาก-น้อย คือแม้ว่าบรรดาพวกที่ ตู่ ตลาดแตก จะปรากฏให้เห็นอยู่มั่งในบางช่วง บางระยะ หรือในจังหวะ การเดินสาย ของนายกรัฐมนตรีในระหว่างนี้ แต่ตลอด 7 ปี-8 ปี ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้นำประเทศ บรรดาพวกที่เห็นว่า ตู่ ตบะแตก ก็น่าจะมีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยเช่นกัน มันถึงได้เกิดกองเกิน กองหลอน หรือเกิดภาวะ ตู่...ใช้กองเชียร์ไปแทบหมดแล้ว มาตั้งแต่ยุค ป๋าเปรม ท่านยังมีชีวิตอยู่ ยังมิได้นิราศห่างเหไป ณ ที่ไหนๆ...

-------------------------------------------------

หรือพูดง่ายๆ ว่า...พวกที่ ชอบบิ๊กตู่ ก็อาจยังพอชอบต่อไป แม้ว่า ลิ้น อาจสึกไปมั่ง หรือแม้ว่า ขนติดปาก จนหนวดเคราสยายทั่วใบหน้า แต่ก็คงไม่ถึงกับเพิ่มพรวดๆ พราดๆ ภายในช่วงระยะเวลาแค่ไม่กี่เดือนนับจากนี้ ส่วนพวกที่ ไม่ชอบบิ๊กตู่ ทั้งหลาย ก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องไม่ชอบต่อไป โดยจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นๆ มาก-น้อยแค่ไหน ถึงขั้นแลนด์สไลด์ ขั้นแอฝะลานช์กันเลยหรือไม่ อย่างไร แค่ช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า มันยังไม่ถึงกับมี เงื่อนไข หรือ เหตุปัจจัย ให้ต้องเป็นไปแนวนั้นมากมายเกินไปนัก แม้จะมีเรื่อง เศรษฐกิจตกสะเก็ด เข้ามาเกี่ยวข้อง พัวพัน ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าหากยังไม่หนักหนา-สาหัสระดับ วิกฤตต้มยำกุ้ง บุญกุศลที่เคยทำมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ด้วยการเอายาเสน่ห์ใส่บาตรพระ หรือจะด้วยกรรมวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ ไม่ว่าชาติโน้น ชาตินี้ น่าจะพอช่วยให้ไม่ถึงกับต้องล้มคว่ำคะมำหงาย ไม้จิ้มฟันแทงเหงือกดันเสือกตายเอาง่ายๆ...

-----------------------------------------------------

แม้จะมี เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ใหม่ๆ แทรกซ้อนเข้ามาบ้าง...อย่างเช่นเรื่อง ขายชาติ-ไม่ขายชาติ หรือการเอียงไป-เอียงมา ระหว่างการหา จุดสมดุล ภายใต้ความขัดแย้งของบรรดาประเทศมหาอำนาจไม่ว่าในภูมิภาคนี้ หรือในโลกทั้งโลก ที่นับวันจะหนักหน่วง รุนแรง ยิ่งเข้าไปทุกที ชนิดแทบไม่เหลือ พื้นที่เป็นกลาง ให้ประเทศใด-ประเทศหนึ่งอีกต่อไป แต่ก็นั่นแหละ...ในเรื่องประเภทนี้ หรือเรื่อง วิเทโศบายต่างประเทศ นั้น มันออกจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างประณีตและละเอียดอ่อนอยู่พอสมควร โอกาสที่จะไปชี้ขาด ไปวัดตัดสินว่าใครขายชาติ-ไม่ขายชาติ มันอาจไม่ถึงกับง่าย ไม่ถึงกับแจ่มแจ้ง ชัดเจน มากมายซักเท่าไหร่นัก ยิ่งโดยเฉพาะประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาด้วยแล้ว ที่ขึ้นชื่อลือชาในแง่ของความ สยามไมซ์เซชั่น มาโดยตลอด การโผเข้าไปจูบปาก ไซ้คอไซ้คางประเทศใด-ประเทศหนึ่ง ก็ใช่ว่าจะหมายถึงต้อง เก็บสบู่ ต้องหันก้น หันทวาร ให้กับประเทศนั้นๆ ไปโดยตลอด แต่อาจหมายถึงการรอจังหวะที่จะเกาะกิน ดูดหัวสมอง ตามแบบฉบับสยามไมซ์เซชั่น เอาเลยก็ไม่แน่...

--------------------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...การเฝ้าติดตาม ตรวจสอบ คอยสอดส่องดูแลในเรื่องราวเหล่านี้ ของบรรดาคนไทยผู้รักชาติทั้งหลาย ย่อมต้องถือเป็นเรื่องชอบแล้ว เหมาะแล้ว สมควรแล้ว เพราะมันออกจะเป็น เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ที่ก่อให้เกิด อัตราเสี่ยง ยิ่งไปกว่าเรื่องอื่นๆ อีกไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง โดยเฉพาะยิ่งมีตัวอย่าง แบบอย่าง ให้เห็นมาแล้วโดยชัดเจน จากประเทศยุโรปอย่างประเทศ ยูเครน เป็นต้น แต่ก็ด้วยตัวอย่าง แบบอย่าง ที่ปรากฏให้เห็นจากอีกหลายๆ ประเทศ อย่างเช่นประเทศในตะวันออกกลาง อย่างซีเรีย อิรัก ไปจนถึงอัฟกานิสถาน ฯลฯโน่นเลย ก็ก่อให้เกิดบทเรียน บทศึกษา ได้เช่นกัน ถึงคุณค่าความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า สามัคคีธรรม อันมีพื้นฐานมาจาก ขันติธรรม นั่นแล ด้วยเหตุนี้...ความอดทน อดกลั้น ค่อยๆ ติดตามกันไปเป็นระยะๆ ย่อมน่าจะดีกว่าการหยิบยกมาใช้เป็น เงื่อนไข-ข้ออ้าง ในการหัก การโค่น ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ผู้ซึ่งใกล้จะไปแหล่-มิไปแหล่ อยู่แล้วในทุกวันนี้...

-------------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก W. Sommerset Maugham...“If a nation values anything more than freedom, it will be lose its freedom, and the irony of it is that if it is comfort or money that it values more, it will lose that too. – ชาติใดให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าอิสรภาพ ชาตินั้นจะสูญเสียอิสรภาพ และที่น่าหัวร่อก็คือ หากชาตินั้นให้ความสำคัญแก่ความสุขสบายหรือเงินตรามากกว่าอิสรภาพ ชาตินั้นก็จะสูญเสียความสุขและเงิน รวมทั้งสูญเสียอิสรภาพตามไปด้วย...”

---------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น