นายกฯ ‘คิชิดะ’ แห่งญี่ปุ่น เยือนไทยท่ามกลางวิกฤตโลก

การมาเยือนไทยของนายกฯ ญี่ปุ่นเกิดขึ้นในจังหวะที่สำคัญยิ่งทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ 2 ประเทศ...และในภาวะของความขัดแย้งในเวทีระหว่างประเทศ

โดยเฉพาะจุดยืนของญี่ปุ่นต่อสงครามยูเครนที่ยืนอยู่ข้างสงครามและร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย

เป็นหัวหน้าการปรึกษาหารือระหว่างผู้นำญี่ปุ่นกับนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีนัยสำคัญยิ่ง

เพราะจุดยืนของไทยกรณีสงครามรัสเซียถูกวางอยู่ “ตรงกลาง” ขณะที่ญี่ปุ่นกระโดดไปอยู่ข้างโลกตะวันตกอย่างปฏิเสธไม่ได้

กระทรวงต่างประเทศไทยแจ้งว่า นายคิชิดะ ฟูมิโอะ (H.E. Mr.KISHIDA Fumio) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลไทย (Official Visit) ระหว่างวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2565 

“การเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ถือเป็นการเยือนไทยครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีคิชิดะภายหลังเข้ารับหน้าที่ และเป็นการเยือนไทยครั้งแรกในรอบ 9 ปี ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นับตั้งแต่การเยือนของนายกรัฐมนตรีอาเบะ ชินโซ เมื่อปี 2556”

นอกจากนี้ การมาเยือนของนายกฯ ญี่ปุ่นยังเป็นโอกาสพิเศษ เพราะปีนี้ เป็นปีที่ครบรอบ 135 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและญี่ปุ่น

รวมถึงอยู่ในห้วงที่ไทยเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น (ปี 2564-2567)

ตลอดจนเป็นโอกาสที่ไทยจะยืนยันความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกในช่วงปลายปี

ข่าวจากทำเนียบรัฐบาลบอกว่า ในการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีกำหนดหารือข้อราชการกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมวันนี้...วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล

ทั้ง 2 ผู้นำจะคุยเรื่องอะไรบ้าง?

เอกสารทางการไทยบอกว่า

“จะเป็นโอกาสสำคัญให้ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศได้หารือแนวทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การพัฒนาอนุภูมิภาค ภูมิภาค และความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูภายใต้ความท้าทาย รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ผู้นำทั้ง 2 ประเทศจะร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความตกลงระหว่างไทยกับญี่ปุ่น...”

แต่ที่ไม่เป็นทางการนั้นต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวของนายกฯ ญี่ปุ่นที่ครั้งนี้เยือนอินโดนีเซียและเวียดนามด้วย

นักวิเคราะห์ระหว่างประเทศมองว่า นายกฯ คิชิดะ “ออกทัวร์” รอบนี้ต้องการจะ “สร้างสะพานเชื่อม” ระหว่างตะวันออกกับตะวันตกในกรณีสงครามยูเครนที่มีรัสเซียเป็นตัวละครสำคัญ

คิชิดะเจอกับผู้นำอินโดนีเซียก่อน...และแถลงข่าวร่วมกันด้วยการบอกว่า สงครามในยูเครนเป็นเหตุการณ์ที่ “ไม่อาจจะยอมรับได้'

นายกฯ แถลงข่าวที่กรุงจาการ์ตาร่วมกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเนื้อหาสำคัญคือประณามการที่รัสเซียส่งทหารเข้าเปิดสงครามยูเครน

คิชิดะเรียกการเยือนประเทศต่างๆ รอบนี้ว่าเป็น “ภารกิจเพื่อปกป้องสันติภาพ”

แถลงการร่วมระหว่างผู้นำญี่ปุ่นกับอินโดนีเซียตอนหนึ่งบอกว่า

“การเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่จากการกระทำของฝ่ายเดียวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเราขอยืนยันว่าเราจะเรียกร้องให้มีการแก้ไขอย่างสันติต่อความขัดแย้งตามกฎหมายระหว่างประเทศ”

ในแถลงการณ์ร่วมนั้นผู้นำทั้ง 2 เห็นพ้องว่าจะช่วยกันเรียกร้องให้รัสเซียยุติความเป็นปรปักษ์ในยูเครนทันที และระงับความขัดแย้งผ่านการเจรจา

ทั้ง 2 ผู้นำเห็นด้วยว่าจะต้องช่วยกันหาทางออกจากผลกระทบของสงครามที่มีต่อเศรษฐกิจโลก

ที่กลายเป็นประเด็นละเอียดอ่อนสำหรับอินโดนีเซีย เพราะดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจหลักคนปัจจุบัน

โดยที่โจโกวีได้เชิญประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมสุดยอดในเดือนพฤศจิกายนนี้

แม้จะมีแรงกดดันจากประเทศตะวันตกไม่ให้อินโดฯ เชิญผู้นำรัสเซียเพื่อโดดเดี่ยวปูตินจากเวทีระหว่างประเทศ

คิชิดะพยายามที่จะช่วยอินโดนีเซียหาทางออกทางการทูตจากปัญหานี้

เป็นไปได้ว่าคิชิดะจะคุยกับโจโกวีถึง “ทางออก” ที่จะไม่สร้างความกระอักกระอ่วนให้กับทั้งเจ้าภาพและผู้เข้าร่วมประชุม

อีกนัยหนึ่งญี่ปุ่นพยายามจะเล่นบทปิดช่องว่างระหว่างประเทศตะวันตกที่ต่อต้านมอสโกและประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย

แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

เพียงแค่หวังว่าจากนี้ถึงปลายปีก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำ G-20 สถานการณ์สู้รบในยูเครนจะออกมาในทางใดทางหนึ่งที่จะทำให้มีทางออกทางการทูต

คิชิดะได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ระเบียบระหว่างประเทศที่เข้มแข็งบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม”

มีการยกตัวอย่างไม่เพียงแต่กรณียูเครนเท่านั้น

แต่ยังโยงไปถึงความขัดแย้งในทะเลตะวันออกและจีนใต้และเกาหลีเหนือด้วย

“เกี่ยวกับประเด็นยูเครน ผมได้เน้นย้ำถึงการเรียกร้องของอินโดนีเซียให้ทุกประเทศเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง” โจโกวีกล่าวในแถลงการณ์ของตน

โดยย้ำว่าสงครามจะต้องหยุดทันที...แม้จะไม่ได้ระบุชื่อรัสเซียอย่างจะแจ้งก็ตาม

คิชิดะเองก็พยายามส่งสัญญาณว่าจะหาทางออกทางการทูตเกี่ยวกับการที่ปูตินจะเข้าหรือไม่เข้าร่วมประชุมสุดยอด G-20

ทางออกทางหนึ่งคือ การอ้างว่ายังมีอีกหลายเดือนก่อนจะถึงเดือนพฤศจิกายน

“ยังมีเวลาก่อนการประชุมสุดยอด” คิชิดะบอกนักข่าว

“เราจะประสานงานความพยายามของเราโดยพิจารณาจากสถานการณ์ที่จากนี้” ผู้นำญี่ปุ่นกล่าว...เพราะรู้ว่าเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนที่ทำให้ต้องวางตัวให้เหมาะสม

สมาชิกกลุ่ม G-20 อื่นๆ ได้แก่ จีน ซึ่งเอนเอียงไปทางรัสเซีย และอินเดียซึ่งพยายามรักษา “ความเป็นกลาง” ในเรื่องนี้

“เราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อความสำเร็จของการประชุมสุดยอด G-20” คิชิดะกล่าว

นอกจากอินโดฯ และไทยแล้ว คิชิดะจะเยือนเวียดนาม อิตาลี และสหราชอาณาจักรด้วย

จุดยืนของประเทศในอาเซียนมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

สิงคโปร์เป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าร่วมการผลักดันระหว่างประเทศเพื่อลงโทษมอสโกด้วยการคว่ำบาตร

ส่วนอินเดีย เวียดนาม และลาว งดออกเสียงในมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ประณามรัสเซีย

เชื่อว่าผู้นำญี่ปุ่นจะพูดคุยกับผู้นำอิตาลีและอังกฤษในหัวข้อที่โยงกับความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และทะเลตะวันออกที่เกี่ยวกับจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ญี่ปุ่นหวั่นว่าจีนอาจจะ “เปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบัน” โดยประเทศหนึ่งประเทศใดด้วยกำลังอย่างที่เกิดในยูเครน

แม้เขาจะระบุชื่อประเทศใดก็ไม่เป็นที่สงสัยว่าผู้นำญี่ปุ่นหมายถึงบทบาทของจีนในภูมิภาคนี้

คิชิดะยืนยันว่าเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรมเป็นรากฐานที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศของเขา

รัสเซียและจีนมองว่าญี่ปุ่นเป็น “ลูกไล่” ของสหรัฐฯ ในเอเชีย

แต่คิชิดะย้ำว่า แนวทางของเขาสอดคล้องกับค่านิยมด้านการเมืองระหว่างประเทศของเอเชียหลายประเทศ และแน่นอนพันธมิตรหลักของญี่ปุ่นคือ สหรัฐอเมริกาและยุโรป

ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษา “ระเบียบระหว่างประเทศ” ที่มีอยู่

เมื่อรู้ว่าคิชิดะพูดอะไรกับอินโดฯ ไว้ ไทยจะได้แลกเปลี่ยนกับผู้นำญี่ปุ่นแบบ “รู้เท่าทันและสะท้อนจุดยืน” ของไทยได้อย่าง “ทันการณ์ทันเวลา” ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ