ปัญหาความมั่นคงในสถานการณ์ลิงแก้แห

แบบเดียวกับที่คุณพี่ โทนี่-โทนาฟ คิดจะส่งมอบการสืบทอดสันตติวงศ์ ให้กับเจ๊โน่น เจ๊นี่ ไปจนถึงราชบุตรเขย เอาเลยหรือเปล่า???
-----------------------------------------------
โดยถ้าหากพฤติกรรมและบทบาท ของคุณพี่ โทนี่-โทนาฟ แทบไม่ได้แตกต่างอะไรไปจาก บิ๊กตู่ เอาเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากมีอันต้อง ยุบพรรคเผาไทย ขึ้นมาเมื่อไหร่ แล้วดันไม่คิดจะ ยุบพรรคพลังประชารัฐ ให้เจ๊ง ให้พังพินาศ ตามไปด้วย ย่อมหนีไม่พ้นต้องถูกหาว่า สองมาตรฐาน อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ลุกลาม ลามปาม ไปถึงกระบวนการสถิตยุติธรรมที่กำลังถูกเขย่าแล้ว เขย่าอีก ให้ต้องระเนนระนาดตามไปด้วยอย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ นี่...แค่ความพยายามประคองตัวรอด ความพยายามประคับประคองสถานะตัวเอง ของบุคคลหนึ่ง บุคคลใด เอาเข้าจริงๆ แล้ว...ย่อมสามารถส่งผลแผ่กว้าง แผ่กระจาย ออกไปกระทบโน่น กระทบนี่ ชิ่งโน่น ชิ่งนี่ จนอาจนำมาซึ่งความสลับซับซ้อน แบบยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง หรือยิ่งแก้ยิ่งกลายเป็นลิงแก้แห ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...
--------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้นี่เอง...สัปปุรุษและวิญญูชนทั้งหลาย จึงมักต้องหันมา ชั่งน้ำหนัก ระหว่างสถานะของตัวเอง กับความเป็นไปต่างๆ ในสังคม อย่างชนิดมิอาจแยกออกจากกันได้โดยเด็ดขาด อะไรเสีย-อะไรได้ อะไรมาก-อะไรน้อย ก่อนที่จะตัดสินใจ เดินหน้า หรือตัดสินใจ ผม...พอแล้ว เพราะถ้าหากเอาแต่ทะลุ่มถลุย ดันทุรัง โดยไม่ได้มองสภาพแวดล้อมในแต่ละด้านเป็นองค์ประกอบไว้ด้วย สุดท้าย...ไม่ใช่แค่นำไปสู่การเสียหมา เสียสุนัข หรือเสียรังวัด สำหรับตัวของตัวเองแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การเสียชาติ เสียบ้าน เสียเมือง เสียสังคม เอาเลยก็ยังมี...
----------------------------------------------
คือคงต้องยอมรับนั่นแหละว่า...โดยสภาพแวดล้อมของฉากสถานการณ์ในวันข้างหน้า ออกจะเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว มิใช่น้อย และไม่ใช่แต่เฉพาะเรื่องของ ความมั่นคง แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสุขภาพ ไปจนถึงเรื่องสภาวะอากาศ ที่ยังไงๆ คงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฯลฯ ไปจนถึงเรื่องปาหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ที่แต่ละรัฐบาลต้องเจอ ต้องเผชิญอย่างมิอาจปฏิเสธได้ บรรดาสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวง เหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้ความหมายของสิ่งที่เรียกว่า ความมั่นคง ได้แปรสภาพ เปลี่ยนสภาพ ไปจากเดิมๆ จากเท่าที่เคยเป็นมา มากมายพอสมควร...
---------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...จะเอาแต่ขีดความสามารถในการ ถือปืน-แบกปูน-ไปโบกตึก เพียงล้วนๆ เท่านั้น มันไม่น่าจะพออีกต่อไปแล้ว ยังต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ อีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าในแง่ของ ตัวบุคคล หรือ ระบบ ก็ตามที และถ้าหากไม่เสริม ไม่เพิ่ม ไม่ปรับสภาพ แปรสภาพ แต่ละสิ่งแต่ละอย่างให้เหมาะสม สอดคล้อง และให้ทันท่วงที ผลกระทบต่อ ความมั่นคง ภายใต้ฉากสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมมีโอกาสลุกลาม บานปลาย ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงโดยตรง อย่างประเภทตะหานหาญทั้งหลาย จะสามารถ เอาอยู่ กันได้ในทุกเรื่อง ทุกราว ทุกกรณี...
---------------------------------------------------
แม้ว่า ดวงเมือง ของบ้านเรา หรือของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม จะเชื่อๆ กันว่าเป็น ดวงทหาร ก็เถอะ!!! แต่ถ้าหากเจอกับมฤตยูกุมอังคาร เสาร์ทับลัคน์ พฤหัสฯ จำต้องย้ายราศีเพราะถูกราหูรังควานมิหยุดหย่อน ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ก็อาจส่งผลถึงขั้น ล่มสลาย เอาเลยก็เป็นได้ การมอง ความมั่นคง ให้ลึกๆ มองให้รอบด้าน มองพร้อมๆ กับสภาพแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ฯลฯ ย่อมสามารถนำไปสู่ความ เข้าถึง-เข้าใจ และนำไปสู่การ พัฒนา ได้อย่างเป็นจริง-เป็นจัง และอันนั้นนั่นเอง ที่จะเป็นตัวชี้ว่า...ใคร??? และ...อะไร??? ที่เหมาะสม สอดคล้อง กับอนาคตชาติบ้านเมืองในวันข้างหน้า
--------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Alston Chase...“When the search for truth is confused with political advocacy, the pursuit of knowledge is reduced to the quest for power. - เมื่อเกิดความเข้าใจผิด...ว่าการแสวงหาความจริง ก็คือการให้ความสนับสนุนทางการเมือง สิ่งที่ตามมาก็คือความเข้าใจนั้นๆ จะถูกลดค่าลงเหลือแค่เพียงการแสวงหาอำนาจเท่านั้นเอง...”
-----------------------------------------------------