"ไร้ร่องรอย-แต่มีตัวตน"

หมอหนู "อนุทิน ชาญวีรกูล" นี่

ถ้าเป็น "นักมวย" ละก็

ขึ้นปก "เดอะริง" ของเฒ่า "แนต ไฟลเชอร์" ผู้ก่อตั้งสถาบันมวยสากลอาชีพสถาบันแรกของโลกไปแล้ว!

หากแต่ "หมอหนู" ไม่ได้เป็น "นักมวย"

ดังนั้น บนสังเวียนผ้าใบการเมือง ท่านอยู่ในอันดับรองนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุข ผู้ได้ชื่อว่า "มือปราบโควิด"

แรกๆ ชั้นเชิงยังกระเดียดเป็น "มวยภูธร"

ติดจะโฉ่งฉ่างอยู่บ้าง!

แต่ระยะหลังๆ ทั้งรูปมวย ทั้่งชั้นเชิงลีลา การออกอาวุธแต่ละดอก ต้องร้อง...เอ้อเฮอ

ฟอร์ม "ดีวัน-ดีคืน" ฝีมือเข้าขั้นระดับมาตรฐาน "ไทยคู่ฟ้า"

ทั้ง "จัดจ้าน-ครบเครื่อง" ผิดหู-ผิดตา จนบรรดาเซียนทั้งภูธร-นครบาล มองไปทางเดียวกันว่า

หมอหนู "มีอนาคต"....

จาก "ตัวสำรอง" ขึ้นเป็น "ตัวจริง" ขึ้นชิงได้ทุกเมื่อ!

"ตัวจริง" ในที่นี้ หมายถึงตำแหน่ง "นายกฯ" ในอนาคต ไม่ใช่เทอมนี้-เวลานี้ ซึ่งหมอหนูก็เข้าใจ ด้วยความจัดเจนทางการเมืองของหมอหนูเอง

คือความ "จัดเจน" นั้น ทำให้หมอหนูเข้าใจ "ชัดเจน" ด้านไทมิ่งว่า เวลานี้.......

"ฟ้าเป็นของนก เก้าอี้นายกฯ ยังต้องเป็นของ "พลเอกประยุทธ์" อยู่!

ฉะนั้น การรู้ "น้ำหนักเขา-น้ำหนักเรา" แล้วบริหารน้ำหนักนั้น ด้วยกลศาสตร์โมเมนตัม

นั่นจะช่วยเสริมส่งให้สมประสงค์ด้วยงามพร้อม เมื่อกาลนั้นมาถึง มากกว่าแค่ใช้ "ความอยาก" ที่รากยังอ่อน ฉกฉวยสถานการณ์ที่ยังไม่ใช่ และยังไม่ถึง

รองนายกฯ อนุทินคงตกผลึกในประเด็นนี้ เมื่อวาน (๒๘ เม.ย.๖๕) จึงตอบนักข่าวที่รุมถามเรื่อง "ตัวสำรอง" เผื่อนายกฯ ประยุทธ์ "ตกเก้าอี้" เพราะแพ้โหวต พ.ร.บ.งบประมาณก็ดี แพ้โหวตไม่ไว้วางใจก็ดี รวมถึงประเด็น "นายกฯ ๘ ปี" ที่ฝ่ายค้านจะลากไปตีความนั่นก็ดี

ปรากฏว่า คุณอนุทิน "รองนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุข" ตอบแบบ "คนคบได้" ชนิดได้ใจนักเลง

คือ ยามหน้าสิ่ว-หน้าขวาน "แทงเต็ง" ไม่ "แทงกั๊ก"!

ในเมื่ออยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน จะเป็น-ก็เป็นด้วยกัน, จะตายก็-ตายด้วยกัน ที่จะแอบจิตหวังแทะศพเพื่อน

อนุทิน "ไม่ทำ"!

เมื่อวาน คุณอนุทินตอบนักข่าวไปแบบนั้น

ดูซะหน่อยก็ได้ ว่า "วรรคทอง" ของคุณอนุทินเมื่อวาน คือแบบไหน?

ประเด็น "ข่าวลือ" ที่นักข่าวนำมาถาม " ส.ส.รวมตัวโหวตคว่ำนายกฯ และรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ"

คุณอนุทินตอบว่า

"ละครยังไม่จบ อย่าเพิ่งไปด่วนสรุปอะไร.....

เมื่อวาน ผมอ่านข่าว นายกฯ ก็ไม่ได้มีความกังวลว่าการโหวตจะเป็นอย่างไร ท่านบอกว่า มั่นใจในการชี้แจงตอบข้อสงสัย ข้อซักถาม ของพรรคฝ่ายค้าน

ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนก็ต้องไปทำการบ้านเสริมข้อมูล หรือชี้แจงในส่วนที่ถูกพาดพิงหน่วยงานที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ทุกคนก็ต้องทำการบ้าน

"ฝ่ายค้าน" ก็ต้องทำอย่างเต็มที่ในการหาข้อมูลมาชี้ข้อบกพร่องของรัฐบาล

"ฝ่ายรัฐบาล" ก็ต้องทำอย่างเต็มที่ ที่จะต้องชี้แจงว่าสิ่งที่ถูกกล่าวหานั้น แท้จริงเป็นอย่างไร มีการแก้ไข มีการปฏิบัติอย่างไร ความจริงเป็นอย่างไร

เอาข้อมูลมาชี้แจงตอบข้อซักถามให้ผู้แทนประชาชนฟัง

ถ้าตอบได้ดี เขาก็ไว้วางใจ

ถ้าตอบ "ไปไหนมา-สามวาสองศอก" เขาก็ไม่ไว้วางใจ นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย"

อืมมม....

ท่านประธานชวน ขึ้่นชื่อว่า "มีหลักการ" แล้วนะ ฟังคุณอนุทินตอบคราวนี้ เห็นทีต้องยกให้เป็น "พระอันดับ" ต่อจากท่านชวนซะแล้ว

ยิ่งนักข่าวถาม......

"มั่นใจหรือไม่พรรคภูมิใจไทยจะไม่แตกแถวตอนโหวต?"

ปกติ คุณอนุทินจะตอบแบบกึ่งเล่น-กึ่งจริง กวนๆ ตามสไตล์ "รวยแล้วพูดอะไรก็ได้"

แต่คราวนี้ ท่านชวนก็เถอะ ฟังแล้ว คงแอบสะกิดคุณจุรินทร์ให้ฟังที่อนุทินพูด แล้วเอาไปทำตามบ้าง

คืออนุทินย้อนถามนักข่าวว่า.......

 “แล้วเคยไหมล่ะ?” ก่อนจะพูดต่อว่า

"เราให้อิสระกับลูกพรรคทุกคน ไม่ใช่ว่าเราไปบังคับใครได้ ส.ส.ทุกคนเป็นผู้ทรงเกียรติ ไปบังคับไม่ได้

แต่เพื่อความเป็นปึกแผ่น ต้องมีการประชุมหารือก่อนจะลงมติ ไม่ใช่ว่าทุกคนเห็นด้วยกันหมด แต่คนที่มีความเห็นต่างเห็นแย้งก็ต้องมาชี้แจงกัน และก็ต้องเคารพกติกาว่า "มติของพรรคอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น"

ผมคิดว่าเป็นสปิริตทางประชาธิปไตย เราต้องเคารพในเสียงข้างมาก

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราอยู่ด้วยกันเป็นรัฐบาล ถ้าไม่มีใครที่ทำความผิด ทุจริตอย่างเห็นชัดเจน พิสูจน์ได้ แบบนี้ ก็อย่าไปโหวตให้เขา

แต่หากเป็นการกล่าวหาที่เขาชี้แจงได้ เป็นเพียงเกมการเมือง เราก็ต้องเคารพมติของพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะให้โหวตอย่างไร

ทุกอย่างอยู่ที่สปิริต อยู่ที่ดุลยพินิจของ ส.ส.แต่ละคน

แต่ก็ต้องดูว่า การอยู่ร่วมกันเป็นอย่างไร?

การไปโหวตแหกออกไป ก็ต้องคิดว่า รัฐมนตรีแต่ละคนก็ต้องมีพรรค มีพวก เดี๋ยวก็ไม่จบไม่สิ้น การเมืองก็จะไม่นิ่ง

ฉะนั้น ต้องนึกถึงภาพรวมเป็นใหญ่

ประคองรัฐบาลให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็เหลือเวลาเพียง ๑๐ เดือน ดังนั้น ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”

เห็นมั้ย....

สมเป็นผู้ใหญ่ที่ฉายแวว "ผู้นำ" รู้จักแยกแยะเชิงประยุกต์หลักการกับหลักความเป็นจริงในการอยู่ร่วม ยึดประโยชน์รวม ไม่มุ่งประโยชน์ตนในทางฉกฉวย

ทีนี้ มาถึงประเด็น "นายกฯ สำรอง" สมมุติ พลเอกประยุทธ์ "ตกเก้าอี้" นายกฯ ๘ ปี

ในฐานที่ว่า.......

ต่อจากพลเอกประยุทธ์ ฝ่ายรัฐบาล ก็มีแต่คุณอนุทินเท่านั้น อยู่ในคิว "นายกฯ บัญชีเลือกตั้ง" ของพรรค

จากที่ชอบเล่นลิ้น-ลีลา คราวนี้ คุณอนุทินพูดเป็นหลัก-เป็นฐาน ไปเลยว่า

"ผมกังวลไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวกับพวกผม หากนายกฯ เป็นอะไร พวกผมก็ไปด้วย เพราะฉะนั้น ถึงต้องประคับประคองกัน ถ้าท่านเป็นอะไรไป รัฐบาลก็จะหมดสภาพทันที

หากท่านอยู่ได้ เราก็อยู่

หากท่านอยู่ไม่ได้ เราก็ไปพร้อมกับท่าน

ส่วนกลไกในการคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป มีขั้นตอน มีกระบวนการอยู่แล้ว"

นักข่าวยังคะยั้นคะยอถาม

"มีการคุยเรื่องนายกฯ สำรองไว้หรือยัง เพราะทุกคนก็เล็งมาที่คุณอนุทิน?"

"ไม่ได้คุย" คุณอนุทินเน้นเสียง และพูดต่อ

"อีกกี่เดือนเองเลือกตั้ง คืออำนาจนายกฯ มีหลายอย่างในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง เราไปก้าวล่วงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของท่าน

ซึ่งคนเป็นนายกฯ สิ่งที่จะแสดงถึงความเป็นนายกฯ ที่ไม่มีใครก้าวล่วงได้เลย คือการยุบสภา อยู่ที่ท่านคนเดียว ที่จะเป็นผู้เสนอทูลเกล้าฯ

เรื่องนี้ อยู่นอกเหนือการควบคุมของทุกคนในรัฐบาล เราก็อย่าไปคิด ถ้านายกฯ มีดุลยพินิจเช่นไร เราก็ต้องเคารพในดุลยพินิจของท่าน

หากท่านออกทางนี้........

ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ก็ต้องดูว่าจะนำพรรคไปอย่างไร

แต่ทุกวันนี้ ยังต้องทำงาน ตราบใดที่ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ต้องทำงานบริหารราชการแผ่นดินให้ประชาชน"

เห็นมั้ย....

คุณอนุทินฉลาดตอบและตอบแบบคนคิดรอบคอบ แบบนี้  โลกไม่ติฉิน ทั้งใครก็ว่าไม่ได้

คุณอนุทินนั้่น ด้วยสถานะ "หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย" ที่ตอนเลือกตั้งเสร็จได้ ๕๑ ส.ส. 

แต่เลือกตั้งแล้ว.....

พรรคอื่นมีแต่ ส.ส.ลด แต่ภูมิใจไทยกลับงอก จาก ๕๑ เป็น ๖๔ ส.ส. เป็นพรรคอันดับ ๒ รองจากพลังประชารัฐ!

แบบนี้ จะดูเบา "หมอหนู" ไม่ได้เลย

ยิ่งใกล้เลือกตั้งใหญ่ แต่ละพรรคดูวุ่นวะ-วุ่นวายกับการหาเสียง-หาคะแนน

แต่ภูมิใจไทย เหมือน "แมวนอนหวด" ไม่ดูด ไม่ดึง ไม่ทึ้งตัวกับใคร แค่กางโพงพางทิ้งไว้ แล้วนอนดูเฉยๆ

"ปลาเล็ก-ปลาใหญ่" มาให้เลือกเต็มโพงพาง!

ฉะนั้น การเดินเกมการเมืองแบบ "ไร้ร่องรอย แต่มีตัวตน" ของภูมิใจไทย

เหนือชั้นกว่า "หัวหน้าหมา" ในคลับเฮาส์ร้อยเท่า!

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทักษิณ 'รีเทิร์น' นั่งเมือง

วันนี้คุยเรื่อง "หัวเขียง-หัวขวด" พรรคเพื่อไทยกันต่อ ที่เสนอกฎหมายให้ "นักการเมือง" เข้าไป "ควบคุมกองทัพ"

ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?

"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ

'Grab rider ต้วง'

ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา