เห็นใครต่อใคร...ไม่ว่าจะเป็นประเภทมังกร หรือมังกือทางการเมือง ประเภทที่เชี่ยวชาญ ชำนาญการ ในเรื่องการมง การเมือง อะไรทำนองนั้น ออกมาเชียร์ยิกๆ ให้ท่านอดีตนายกรัฐมนตรีและท่านประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน คุณพี่ ชวน หลีกภัย โดดเข้ามา ขัดตาทัพ เข้ามารับฐานะเป็นหัวหน้าพรรค ประชาธิกัด ในช่วงจังหวะที่เลือดไหลกันเป็นลิ่มๆ หรือช่วงที่หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน คุณพี่ จุรินทร์ อู๊ดด้า ณ นวลผ่องเสนาณรงค์ ชักทำท่าว่าเอาไม่ไหว เอาไม่อยู่ ยิ่งเข้าไปทุกที...
---------------------------------------------
ซึ่งถ้าว่ากันในแง่การมง การเมืองแล้ว อันนั้น...คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของบรรดา นักการเมือง ในค่ายประชาธิกัด เขาว่ากันไปตามความคิด ความเห็น ของแต่ละปัจเจกบุคคลไปตามสภาพ เพราะว่าไปแล้ว...
แต่ละคน แต่ละราย ล้วนแล้วแต่เกล็ดแตกลายงา มีปีก มีหาง เขี้ยวยาวเฟื้อยเลื้อยลากดิน เผลอๆ...แถมพ่นไฟได้ด้วยซะอีกต่างหาก อะไรเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร อะไรสามารถช่วยห้ามเลือด สมานแผล ไม่ให้พรรคการเมืองที่สุดแสนจะเก่าแก่พรรคนี้ ต้องล่มสลาย พังพินาศย่อยยับ ไปต่อหน้า-ต่อตา บรรดา นักการเมือง ในพรรคประชาธิกัดเองนั่นแหละ น่าจะรู้ดีที่สุด...
----------------------------------------------
แต่ที่ออกจะก่อให้เกิดความห่วงหา อนาทร ในฐานะที่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน หรือในฐานะ คนบ้านเดียวกัน คือคนจังหวัด ซรัง (ตรัง) อย่างน้อยก็เมื่อซัก 40-50 ปีมาแล้ว นั่นก็คือเรื่องของ...ความแก่-ความชรานั่นแหละเป็นสำคัญ แม้ว่าพี่ชวนท่านจะได้ชื่อว่ามีตบะ บารมี มากล้นรำพัน สร้างชื่อ สร้างเสียง มาจากความสามารถในการพูด การจา ระดับปากคมซะยิ่งกว่ากรรไกร หรือใบมีดโกนยิลเลตต์ทวินแอคชั่น แต่นั่นก็เป็นช่วงหนุ่มๆ ช่วงที่ยังมีเรี่ยวแรง กำลังวังชา แต่หลังจากผ่านการเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกฯ มาแล้วถึง 2 สมัย จนต้องพยุงแข้ง พยุงขา มานั่งอยู่ตำแหน่ง ประธานรัฐสภา จนบัดนี้ ไม่ว่าท่านจะแข็งยังไง แรงยังไง แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า...ท่านแก่แล้ว!!!
---------------------------------------------------
คืออายุ-อานาม...ปาเข้าไปถึง 84 ไปแล้วในทุกวันนี้ แค่เจอบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด กระซู่และสมเสร็จ ภายในรัฐสภาก็เล่นเอาเลือดอาจไม่ไหลขึ้นไปสูบฉีดหล่อเลี้ยงหัวใจเอาง่ายๆ หรือเฉพาะแค่การยอมรับตำแหน่ง รับสภาพ เป็นประธานรัฐสภา ตามการเสนอชื่อของผู้คนในพรรค ก็ถือเป็นความเสียสละในการ แบกรับภาระ ที่ออกจะหนักหน่วงเอามากๆ เพราะแม้แต่ผู้ที่มีอายุอ่อนกว่าท่านเกือบ 4 ปี คือคุณน้า บัญญัติ สิบประการ (บรรทัดฐาน) ยังไม่ไหวจะเอา หรือยังต้องขอ บาย เอาดื้อๆ หันมาใช้คุณลักษณะของคนแก่ หรือใช้ ประสบการณ์ คอยช่วยชี้แนะ ชี้นำ บรรดานักการเมืองรุ่นน้อง รุ่นลูก หรือรุ่นหลานอยู่ห่างๆ จึงเป็นอะไรที่เหมาะ ที่ควร กับความเป็นไปของตัวเองและผู้อื่นไปตามสภาพ...
-----------------------------------------------------
หรือแม้แต่ผู้ที่ แก่...แต่ยังมีไฟอยู่ อย่างคุณน้า ไซรรงค์ สุวรรณคีรี ก็เถอะ แม้ยังคงปากคม ปากจัด คว้าอาวุธขึ้นมาจามใส่ใครต่อใครแทบไม่ต่างอะไรไปจากปังตอ มีดอีโต้ แขนขาด ขาขาด สะพายแล่งเอาง่ายๆ แต่ก็น่าจะด้วย ความแก่ นั่นเอง ที่ทำให้คุณน้า ไซรรงค์ ท่านเลยไม่คิดจะ เสียแรงอก ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับตำแหน่งรัฐมนตรี รัฐมนโท หรือตำแหน่งฐานะใดๆ ในพรรค หันมา โพสต์โน่น-โพสต์นี่ ไม่ก็หันไปพูดจา ปราศรัย อภิปรายในงานสำคัญๆ หยิบเอา ประสบการณ์ หรือความรู้-ความเข้าใจที่มีอยู่แล้วแบบพะเรอเกวียน หรือกระทั่งด้วยการค้นคว้าใหม่ๆ มานำเสนอให้กับทั้งผู้คนในพรรค หรือสาธารณชน แบบขยันขันแข็งเอามากๆ...
-----------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่ออกจะเหมาะกับปวงประดาคนแก่และคนชราทั้งหลาย มากกว่าการ ช่วยหามลุง...ไปตีกะมันที หรือการหันไปยัดเยียด ภาระ ในแต่ละรูป แต่ละแบบ ให้กับบรรดา ส.ว. (ผู้สูงวัย) ทั้งหลาย แม้ว่าเขาเหล่านั้นจะยังคงกระเหี้ยนกระหือรือเพียงใดก็เถอะ แต่ถ้าหากรักคนแก่ สงสารคนแก่ หรือแม้แต่สงสารบ้านเมืองควบคู่ไปด้วยก็ยังได้ การหามคนแก่ให้ไปตีกะใครต่อใคร มันอาจไม่ใช่แค่ ทรมานคนแก่ เท่านั้น แต่อาจส่งผลไปถึงชาติ-บ้านเมือง ที่มักต้องอาศัยผู้ที่มีไฟ ผู้ที่ยังมีเรี่ยว-มีแรง มีความปรารถนาและต้องการในการ เอาชนะปัญหา ทั้งหลาย ทั้งปวง ที่ออกจะหนักหน่วง หนักหนาสาหัสไปด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าประเทศไหน ชาติไหนๆ ก็เถอะ...
-----------------------------------------------------
ดูอย่างการหามผู้นำอเมริกันอย่าง โจ ซึมเซา หรือ โจ ไบเดน ออกไปตีกะผู้นำรัสเซีย อย่างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ใครที่มีโอกาสได้ดูวิดีโอช่วงที่ผู้นำอเมริกันรายนี้ ไปพูดจา ปราศรัย ที่มหาวิทยาลัยการเกษตรและเทคนิคกรีนสโบโร รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็อาจถึงขั้น ขนหัวลุก เอาง่ายๆ เพราะหลังจากพูดจา ปราศรัย ไปแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง ประธานาธิบดีอเมริกันที่อายุ-อานาม ปาเข้าไปประมาณ 80 ปี พอๆ กับคุณน้า บัญญัติ บ้านเรา จบคำปราศรัยด้วยการหันไปจับมือ หันไปเช็กแฮนด์ กับใครก็ไม่รู้??? ที่อาจต้องเรียกว่า เพื่อนในจินตนาการ หรือ ผี เอาเลยถึงขั้นนั้น คือออกอาการเบลออ์อ์อ์ อาการเหวออ์อ์อ์ อันเนื่องมาจากความแก่ ความชรา นั่นแหละเป็นเหตุ...
-------------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ขนาดแค่ 60 กว่าๆ บางครั้ง บางครา ยังเกิดอาการพะวัก พะวน จำไม่ได้ว่าตัวเองปิดก๊อกน้ำ เปิดก๊อกน้ำ เอาไว้หรือไม่ อย่างไร การทรมานคนแก่ หรือการคิดหามคนแก่ให้ออกไปตีกะใครต่อใคร มันเลยคงต้องคิดหน้า-คิดหลังเอาไว้ให้ถ้วนถี่ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว...ไม่ว่าจะปัจเจกบุคคล หรือพรรค หรือสถาบันใดๆ ก็แล้วแต่ ล้วนแล้วแต่ย่อมตกอยู่ภายใต้ กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ ไปด้วยกันทั้งสิ้น คือเมื่อเกิดขึ้น-ตั้งอยู่ สุดท้าย...ย่อมต้องมีวันดับไป ไม่ว่าเมื่อไหร่ ตอนไหน ไม่มีอะไรที่จะยืนยง คงทน ไปตลอดชั่วกัลปาวสาน นอกจาก สัจธรรม-ความจริงแท้ เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น...
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Emerson... “Life is a mere ripple in the ocean time. – ชีวิตเป็นเพียงแค่คลื่นระลอกหนึ่ง ในมหาสมุทรแห่งกาลเวลา...”.
---------------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าถึงกับต้องไปถือสาหาความ
ถือซะว่า...ท่านอาจ หาเสียง มาซะจนเคย!!! คือการประกาศจะสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.มาก่อนล่วงหน้า 2 ปีเนี่ย ย่อมมิใช่น้อยๆ
ต้องเริ่มต้นด้วยการทำลาย 'ความเกลียด'
นับตั้งแต่คุณน้า ชัชชาติ บุรุษผู้กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี ท่านแลนด์สไลด์ แอฝะล้านช์ หิมะถล่ม ดินทลาย ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!
เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย
ว่าด้วย...ชัยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
อืมม์ม์ม์...ต้องเรียกว่าทั้ง แลนด์ ทั้ง สไลด์ เอาเลยทีเดียวเจียว สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
จาก กทม.ถึงความเป็นชาติ เป็นสังคมไทย
ขณะกำลังปั่นต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่มีโอกาสรับรู้ได้เลยว่า ตกลงใครเป็นหมู่ เป็นจ่า เป็นสารวัตรกันแน่!!!
ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”
หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น