'สีกากี' เก้าอี้ติดสปริง

โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม มีกำหนด 30 วัน หลังปรากฏภาพทางสื่อโซเชียลว่ามีการจัดงานสงกรานต์ที่สถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก และมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมากในลักษณะที่แออัด เข้าลักษณะสถานบริการ อันเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด -19 รวมทั้งมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดนนทบุรีที่ได้กำหนดเป็นแนวทางให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ๐

จากจังหวัดนนทบุรีลงไปภาคใต้ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เซ็นคำสั่งให้ 5 เสือโรงพักป่าตอง ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก., พ.ต.ท.ปรีชา บาริงพัฒนกูล รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.ประเสริฐ ทองเปลว รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา สวป. และ พ.ต.ต.สุชาติ ชุมภูแสง สว.สส. ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต (ศปก.ภ.จว.ภูเก็ต) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หลังมีข่าวทางโซเชียลชาวภูเก็ตได้รับความเดือดร้อนจากโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง เปิดสถานบันเทิงโดยไม่มีใบอนุญาต เปิดเกินเวลา มั่วสุม เสียงดัง ก่อความเดือดร้อนรำคาญและมีสิ่งผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อีกทั้งกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยไม่เข้มงวดในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ๐

ขยับจากใต้ขึ้นมาที่จังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 มีคำสั่งให้ 4 ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ประกอบด้วย พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก., พ.ต.ท.ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รอง ผกก.ป., พ.ต.ต.ธนภัทร เหล่าทอง สวป. และ ดาบตำรวจณัฐพงศ์ สิงห์ยะบุศย์ ผู้บังคับหมู่ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 (ศปก.ภ.7) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยคาดกันว่าสาเหตุเด้งครั้งนี้น่าจะมาจากปัญหาแรงงานข้ามชาติที่ลักลอบเข้าเมืองสมุทรสาครอย่างผิดกฎหมาย โดยมีการออกบัตรติดรูปถ่ายของแรงงานต่างด้าวทุกคนเป็นจำนวนมากในราคาใบละ 500 บาทต่อเดือน จนมีการร้องเรียนและส่งต่อกันในโลกออนไลน์อย่างโจ่งแจ้ง จนเป็นผลให้มีการเด้งฟ้าผ่า พร้อมกับมีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพื่อให้ได้รายละเอียดและข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ๐

ส่วนนี่ยังไม่มีคำสั่งเด้ง แต่ก็น่าจะหนาวๆ ร้อนๆ หลังเกิดกรณีมีหญิงอายุ 38 ปีร้องเรียนกับสื่อ ยอมรับเป็นเจ้ามือไฮโล แล้วถูกลูกผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ม.3 ต.ห้วยสำราญ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ควักปืนยิงเฉียดหู เอาเงินที่เล่นเสียไปคืน ต่อหน้าคนเล่น 20 คน แจ้งความตำรวจไปแล้วแต่คดีไม่คืบ ซึ่งเธอเล่าว่า “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ย.2564 ได้เป็นเจ้ามือไฮโลแทนรายใหญ่เล่นกันประมาณ 20 คน ระหว่างนั้นลูกผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเสียเงินพนันมาก จนลุกโวยวายหาว่าตนเองโกง พร้อมเอาลูกเต๋าไปทุบอยู่คนเดียว เพราะหาว่ามีรีโมตบังคับ ก่อนจะควักปืน ขอให้เอาเงินที่เสียไปคืน ประมาณ 6 หมื่นบาท ตนก็ยอมคืน แต่ยังมายิงเฉียดหูตนไป สร้างความแตกตื่นให้คนในวงอย่างมาก จากนั้นได้ไปแจ้งความ สภ.ลำดวน เอาผิดอีกฝ่ายในข้อหาพยายามฆ่า ตำรวจเรียกตัวมา ผู้ก่อเหตุขอคืนเงิน 1.2 หมื่นบาท แต่ตนไม่ยอม เพราะโดนชิงเงินไปกว่า 6 หมื่นบาท คดีไม่คืบ จึงร้องเรียนหวังได้รับความเป็นธรรม แม้จะต้องถูกจับข้อหาเป็นเจ้ามือเล่นพนันก็ยอม”... งานนี้เห็นที่คงต้องสะกิดถาม พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้ยกหูสอบถาม พ.ต.อ.รัตนพล ธูปแก้ว ผกก.สภ.ลำดวน เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีอยู่หรือเปล่า ปล่อยให้บ่อนไฮโลที่มีคนเล่นถึง 10-20 คนเปิดเล่นกันโจ๋งครึ่มได้อย่างไร หากไม่มีเรื่องมีราวหักกันในบ่อนเพราะเรื่องเงินพนัน ก็คงไม่มีใครรู้ว่าบ่อนในพื้นที่ลำดวนเขย่ากันไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เหวั่นเกรงจะติดโควิด หรือเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดโควิดเหมือนบ่อนที่ระยอง ๐

เรื่องไลน์วุ่นๆ ใน “ทร.” ทำให้ บิ๊กเฒ่า-พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.คงกังวลไม่น้อย โดยเฉพาะปม โยกย้าย กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกทิ่มกลับจากเรื่องที่ถูกมองข้าม ถึงแม้ผ่านโยกย้ายกลางปีไปแล้วกำลังเข้าสู่ช่วง 6 เดือนสุดท้ายในตำแหน่ง ผบ.ทร.ของ “บิ๊กเฒ่า” แต่อุณหภูมิในการจัดโครงสร้างอำนาจใหม่เร่งปฏิกิริยาโต้กลับให้ร้อนแรงขึ้นทุกวัน แต่การขยับ-ปรับหลายอย่างให้เข้าที่เข้าทาง มีแรงหนุนจากเหล่าบรรดา “ครูๆ” หลายคน ซึ่งเป็นอดีต ผบ.ทร.พร้อมจะเป็น ลมใต้ปีก ให้ภารกิจนี้สำเร็จเสร็จสิ้นไปได้ ก็ดูกันต่อไปว่า ระเบิดเวลา ลูกใหญ่ที่รอเวลาทำงานอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะโครงการจัดหาเรือดำน้ำที่มูลค่าโครงการมหาศาล และมี 4 ขั้นตอนต้องดำเนินการกว่าจะได้ข้อยุติ และน่าจะใช้เวลาพอสมควร จะปิดจ๊อบแบบ “ฟีนาเล” หรือไม่ ๐

กรมยุทธการทหารเรือปีนี้ ออกแบบ อีเวนต์ การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ที่สนามฝึก ทร.หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม ได้ น่าดูชม โดยเฉพาะช่วงหลังการตีตอบโต้ของกองพันหนุนกองกำลังจันทบุรี-ตราดเสร็จสิ้นลง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงลงไปพบกับกำลังพลหน้าแนวสนามซ้อม ปลุกขวัญกำลังใจให้ผู้ทำการฝึกฮึกเหิมได้พอสมควร แถมตั้งปืนกลให้ 3 บิ๊ก ทร.ใน “สนามเพลาะ” โซโลกันหมดแมกซ์ ที่ฮือฮาคือ ผบ.ทร.ยิงปืนกล M60 E4 ไม่ออก เกิดปัญหาขึ้นแบบกะทันหัน เลยต้องเปลี่ยนปืนใหม่แต่เจ้าตัวก็อาศัยความสงบเหนี่ยวไกแบบนิ่งๆ ส่วน บิ๊กโต้ง-พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. กับ บิ๊กจอร์ช-พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผช.ผบ.ทร. ที่ถูกจับตามองว่าเป็น คู่แคนดิเดต ต่างยิงกันรัวๆ โชว์ลีลากดไกปืนโชว์สื่อ เข้าล็อกให้เมาธ์มอยเปรียบมวยกันเหมือนจงใจ ส่วนบรรยากาศภาพรวมของการฝึกครั้งนี้เรียกได้ว่า จุดไฟ ให้กำลังพลได้ซ้อมในช่วงเวลากลางคืนที่ห่างหายไป 6 ปีกลับมาคึกคัก เพราะสถานการณ์โลกขณะนี้ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภูมิภาตต่างๆ ของโลก ดังนั้นการให้น้ำหนักกับการฝึกเพิ่มขึ้นก็ทำให้ทหารมีความตื่นตัว มั่นใจ พร้อมรับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ด้วยความลื่นไหล ไม่กดดัน

แม้ ทร.จะยังไม่พูดเต็มปากว่าจะซื้ออากาศยานไร้คนขับ UAV แบบ Hermes 900 ของประเทศอิสราเอล แต่ก็คาดว่าในการอนุมัติแบบ ในขั้นตอนสุดท้ายที่ ทร.ส่งไปที่กระทรวงกลาโหมจะไม่เปลี่ยนแปลงจากนี้ โดยสัปดาห์หน้า บิ๊กหน่อย-พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม คงจะลงนามอนุมัติตามที่ ทร.เสนอมา แต่ก็เชื่อว่าหลังจากนี้ต้องเจอการ “ขุด” จาก โจ้-ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ต่อไป ไม่จบง่ายๆ และอาจจะลากโยงไปสู่การอภิปรายในสภาตามสเตป เพราะเหล่าบรรดาข้อมูลด้านอาวุธต่างหลั่งไหลเข้าไปสู่ “โจ้ ยุทธพงศ์” ที่คุมพื้นที่ข้อมูลซักฟอกมาหลายครั้ง โดยเฉพาะเรื่องเรือดำน้ำที่กัดไม่ปล่อย แถมมีมือดีส่งข้อมูลให้เป็นระลอก ทำให้ “โจ้” มีราคาในฐานะนักการเมืองสายตรวจสอบกองทัพมากขึ้น ๐

บิ๊กป้อง-พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อหารือข้อราชการกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในโอกาสนี้ได้ร่วมหารือเกี่ยวกับประเด็นการขยายความร่วมมือด้านการปฏิบัติการทางทหาร การแลกเปลี่ยนแนวคิดการปฏิบัติการของกำลังทางอากาศในภูมิภาค การพัฒนากำลังทางอากาศในอนาคต และการปฏิบัติการทางอากาศด้วยเครื่องบินขับไล่/โจมตี ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 มากขึ้นในการแสดงเจตจำนงของกองทัพอากาศไทย แถมมีข่าวว่าบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน ประกาศลดราคาเครื่องลงอีกพอสมควร อยู่ในระดับราคาที่ดีกว่าช่วงที่ “บิ๊กป้อง” ออกมาแถลงข่าวก่อนหน้า ดีล เครื่องบินรบฝูงใหม่จากค่าย มะกัน น่าจะใกล้ความเป็นจริง รอขั้นตอนสำคัญในช่วงงบ ผ่านรัฐสภาของไทย และการอนุมัติของสภาคองเกรสสหรัฐฯ จะผ่านฉลุยหรือไม่ ๐