เมือง-คนเตรียมรับมือเจ็ดปีมฤตยูผู้อาเพศย้ายจากเมษเข้าพฤษภ

มฤตยูจรเข้าเดินในราศีพฤษภระหว่าง8กรกฎาคม2565-18กรกฎาคม2572(มีเดินผิดปกติ)

หลังจากเดินอยู่ในราศีเมษมาตั้งแต่ประมาณ6มีนาคม 2559(เข้าเมษชิมลางรอบแรกประมาณกลางกรกฎาคม 2558) ครั้นประมาณ 8กรกฎาคม 2565 มฤตยูจร(0)จะย้ายเข้าไปเดินในราศีพฤษภ และจะอยู่ในราศีนี้ไปจนถึงประมาณ18กรกฎาคม 2572 หรือประมาณเจ็ดปี

ในบรรดาดาวดี-ร้ายทุกดวงที่จะมีผลทั้งต่อทั้งเมืองและคนทุกลัคนาราศีได้ตลอดเวลานั้น มฤตยูจรก็จะร่วมมีผลด้วยในแบบอาเพศคือคาดหมายได้ยาก-ไม่คาดคิด-ล้อคถล่ม-ปฏิวัติใหญ่ที่ผลสามารถออกได้ทั้งร้ายดี ผู้เขียนจึงขอแนะนำให้รู้จักและรู้อาการของดาวดวงนี้เป็นการปูพื้นก่อนโดยอ้างอิงจากหนังสือโหราศาสตร์ปริทรรศน์ เล่ม๒ ครหวินิจฉัย ของ อ.เทพย์ สาริกบุตร ผู้ล่วงลับ ดังนี้

มฤตยู-หรือยูเรนัส เป็นดาวที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น อยู่ไกลจากพระเสาร์ออกไป เป็นดาวเคราะห์ดวงที่เจ็ดในระบบสุริยะ ค้นพบโดยเซอร์วิลเลี่ยม เฮอร์เชล(Sir William Herschel เมื่อคืนวันที่13มีนาคม 2324 คือพบก่อนวางเสาหลักเมืองรัตนโกสินทร์ประมาณหนึ่งปี

จึงขณะคณะพระยาโหราธิบดี พาข้าราชการกรมโหรและชีพ่อพราหมณ์กำลังหาฤกษ์เพื่อวางเสาหลักเมืองรัตนโกสินทร์นั้นยังไม่มีการนำมฤตยูมาใช้

ต่อมาโหรไทยที่นำมฤตยูมาใช้ครั้งแรก คือนายมี ลงกาใหม่ หรือหมื่นพรหมสมพัตสร ซึ่งเป็นทั้งโหร- กวี(ผู้แต่งนิราศพระแท่นดงรัง)- จิตรกร -นายอากร ในรัชสมัยรัชกาลที่สี่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทางโหราศาสตร์-สัญลักษณ์ของมฤตยูคือ0เป็นอากาศธาตุ ปกติเดินทวนเข็มนาฬิกาเป็นหลัก(มีเดินผิดปกติ)จัดอยู่ในกลุ่มดาวร้ายคือบาปเคราะห์ แต่ก็เหมือนดาวอื่นๆที่ให้ผลต่อทุกดวงชะตาได้ทั้งดีและร้าย เพียงแต่ด้านดีนั้นกว่าจะได้ต้องผ่านเรื่องร้ายก่อน คือออกแนวร้ายแล้วดีหรือดีแล้วร้าย

ภาพจักราศีเมษถึงมีน

มฤตยูเป็นเจ้าของภัยอาเพศ เพราะคาดหมายผลได้ยาก เป็นสิ่งที่เกิดผิดปกติ ตามคำกล่าวที่ว่าดูภัยอาเพศให้ดูมฤตยู

มฤตยูเป็นเจ้าของการปฎิวัติและนักปฏิวัติเพราะไม่พอใจสิ่งเก่าๆ แต่ต้องการสิ่งใหม่ๆเสมอ พร้อมสะสมสมพลังของการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้ที่แล้วก็จะระเบิดกวาดสิ่งเก่าทั้งดี-ร้าย แล้วสถาปนาสิ่งใหม่มาแทน

มฤตยูเป็นเจ้าของสายฟ้า แบบสว่างวาบเข้ามาในสมอง คล้ายๆเซ่อร์ไอแซคนิวตัน เห็นแอบเปิ้ลหล่นจากต้น แล้วตั้งคำถามว่าทำไมแอบเปิ้ลไม่ลอยขึ้นจนค้นพบแรงโน้มถ่วงยูเรก้า

ซึ่งสายฟ้านี้สร้างความพินาศได้ แต่หลังจากนั้นจะทำให้เกิดวิวิฒนาการสิ่งใหม่มาแทน จึงเป็นเจ้าแห่งศาสตร์ล้ำยุค สิ่งใหม่ นวัตกรรมที่จะล้มศาสตร์เก่าๆ

มฤตยูเป็นเจ้าของแปลกประหลาด มหัศจรรย์ สิ่งใหม่ๆล้ำสมัย แปลก แหวกแนว ล้ำเลิศ แต่หากคนตามไม่ทันจะมองเป็นเรื่องวิตถาร

มฤตยูเป็นเจ้าของภัยพิบัติขนาดใหญ่-เช่นโรคระบาดที่จะเกิดแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่รู้ที่มาที่ไปที่ต้องใช้ความรู้สมัยใหม่-ล้ำสมัยแก้ปัญหา

โดยสรุป-ด้านร้าย- มฤตยูบังคับถึงเหตุร้าย เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิด การผลัดเปลี่ยนขนาดใหญ่การพลัดพรากจากกัน การฆ่าหรือทำร้ายตนเอง ความเศร้าโศก การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด ความเสียใจ การต้องเนรเทศ การมีศัตรูหรือ โชคอันไม่แน่นอน ความรุนแรงที่แลไม่เห็น ความคิดวิตถาร ขัดแย้งกับผู้อื่นร่ำไป ละเลยกฎหมาย ระเบียบประเพณี เจ้าอารมณ์ รุนแรง หยาบช้า ก่อการขัดขืน จิตใจใฝ่ต่ำ ชอบสิ่งชั่วร้าย ความนึกคิดเลื่อนลอย หลงดำเนินทางผิด วิถีไม่แน่นอน แปลกเพื่อน กระทำโดยถูกยุยง

ด้านดี-มฤตยูเป็นเจ้าของความล้ำเลิศ ล้ำสมัย เก่งในการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ มีแนวความคิดใหม่เสมอ ชอบเป็นผู้ริเริ่มก่อการ ต้องการก้าวหน้าร่ำไป

การแสดงอาการของมฤตยู-เนื่องจากมฤตยูจรเดินช้ามาก เข้าไปเดินราศีใดจะใช้เวลา7ปี โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ผู้ล่วงลับจึงสอนไว้ว่า มฤตยูนี้ใช้ไว้ดูบ้านเมืองของ(เรื่อง)ใหญ่โต ที่ว่าชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน

โดยก่อนจะเกิดการปะทุหรือระเบิดใหญ่ในแต่ละเรื่องที่มฤตยูจรจะส่งผลนั้นพอจะสังเกตุอาการได้คือจะมีการสะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงก่อน เมื่อได้ที่แล้วก็จะระเบิดกวาดล้างสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่ขึ้นมาแทน

หากเป็นดวงชะตาคนทุกลัคนาราศี ถ้าอยู่ได้หรืออายุยืนยาวถึง84ปีครบหนึ่งรอบที่มฤตยูเดิน หรือจรไปครบสิบสองราศี หรือครบสิบสองเรื่องของชีวิตทางโหร จึงแต่ละคนจะได้รับผลจากมฤตยูที่จะปฎิวัติใหญ่เรื่องต่างๆของชีวิตเพียงครั้งเดียว ยกเว้นท่านที่อายุยืนยาวกว่า84ปี

ส่วนเมืองรัตนโกสินทร์ที่ขณะนี้อายุย่าง241ปีนั้นวินาทีที่ลงเสาหลักเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่21 เมษายน 2325เวลา06.54น.มฤตยูกำลังเดินอยู่ในราศีมิถุน

หลังจากนั้นมฤตยูจรเข้าได้เดินเข้าราศีพฤษภอาณาเขตของเศรษฐกิจ-การทำมาหาได้ของเมืองรอบแรก ระหว่าง25มิถุนายน 2399-ประมาณมกราคม2406

รอบที่สองระหว่าง2กรกฎาคม2482-14กรกฎาคม2489และ

ระหว่าง8กรกฎาคม2565-18กรกฎาคม2572มฤตยูจร(0)จะเดินเข้าราศีพฤษภซึ่งเป็นอาณาเขตของเศรษฐกิจ-การทำมาหาได้ของเมืองเป็นรอบที่สาม

จึงตั้งแต่ประมาณกลางปีนี้เป็นต้นไป เมืองจะเดินหน้าเข้าสู่เจ็ดปีของการปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจเป็นรอบที่สาม(ดูจากอาการของมฤตยู)

ส่วนเจ็ดปีของรอบนี้คาดว่าลีลาจะเป็นอย่างไร และผลต่อเมืองจะออกมาดีหรือร้าย โปรดติดตามได้ในสองตอนต่อจากนี้ไป

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อริยสัจ 4...หลักการดีที่ควรใช้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้คนนับถือศาสนาพุทธมากกว่า 92% และในคำสอนของศาสนาพุธก็มีอริยสัจ 4 เป็นหลักที่ใช้ในการแก้ปัญหาที่ยุ่งเหยิงไปสู่ความสงบ

โชคดี...ที่ตายก่อน!!!

เห็นข่าวคราวว่าด้วย หลานสาว ชาวไทยรายหนึ่ง...ซึ่งน่าจะเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้โดดเด่น โด่งดัง ใดๆ มาก่อนเลย แต่เมื่อเธอโพสต์คลิปวิดีโอ โดยตัวเธอเองนั่ง

ปรับฮวงจุ้ยหรือ?

ไม่รู้จะเป็นเรื่องฮวงจุ้ยหรือกลัวฟ้า กลัวฝน กลัวไฟจะชอร์ตกันแน่ เพราะตั้งแต่ ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่

หรือจะรอให้ประเทศไทยเป็นรัฐล้มเหลว

สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเรามีอาการน่าเป็นห่วง เพราะคนรักชาติที่มีอยู่มากกว่าคนชังชาติทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นคนหมู่มากที่นิ่งเฉย (Passive Majority) ทำได้อย่างมากก็คือ