เมื่อวานเขียนถึงความสัมพันธ์ของรัสเซียกับสวีเดน...เมื่อสวีเดนกับฟินแลนด์ประกาศจะเข้าร่วม NATO ขณะที่สงครามยูเครนยังร้อนแรง
สวีเดนดำเนินนโยบาย “เป็นกลาง” มาตลอด ฟินแลนด์ก็เช่นกัน
เช่นเดียวกับสวีเดน ฟินแลนด์มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับรัสเซีย ภายใต้ Rurik ผู้ปกครองชาวไวกิ้งคนแรกของ Kievan Rus
ชนเผ่า Finnic ก็มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งรัฐรัสเซียแห่งแรกในเคียฟ
ฟินแลนด์ต่างจากสวีเดนตรงที่ว่า ฟินแลนด์มีพรมแดนติดกับรัสเซียเหมือนยูเครน
ฟินแลนด์อยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซียตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ถึงการปฏิวัติบอลเชวิค ปี 1917 อันเป็นตอนที่ได้รับเอกราช
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟินแลนด์ยังต้องสู้กับการรุกรานของสหภาพโซเวียตภายใต้การนำของโจเซฟ สตาลิน อย่างดุเดือด
ต้องสูญเสียพื้นที่ชายแดนไปให้รัสเซียมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ
ผลจากการถูกปกครองของรัสเซียภายใต้ซาร์และการรุกรานของสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ฟินแลนด์มีพรมแดนติดกับรัสเซีย 1,287 กิโลเมตร
จึงต้องใช้นโยบายต่างประเทศที่เป็นกลางอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1955
แต่ในความเป็นจริงนั้น นโยบาย “เป็นกลาง” ของฟินแลนด์มีขึ้นหลังการลงนามในข้อตกลงระหว่างฟินแลนด์กับสหภาพโซเวียตในปี 1948
ในข้อตกลงที่เรียกว่า “สนธิสัญญามิตรภาพ ความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” นั้น ฟินแลนด์สัญญาว่าจะไม่อนุญาตให้กองกำลังอื่นใดใช้อาณาเขตของตนโจมตีโซเวียต
ในสนธิสัญญาเดียวกันนั้น สหภาพโซเวียตให้คำมั่นที่จะไม่บุกฟินแลนด์
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฟินแลนด์ก็ยังคง “ความเป็นกลาง” โดยไม่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ NATO
แม้หลังจากสงครามเย็นสิ้นสุดลง ฟินแลนด์ก็พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับทั้งตะวันตกและรัสเซีย
ความคิดเห็นของประชาชนชาวฟินแลนด์ยังให้ความสำคัญกับความเป็นกลางมาตลอดเช่นกัน
แต่พอรัสเซียบุกยูเครน คำว่า “เป็นกลาง” ก็ถูกท้าทายในประเทศเอง
ไม่ต่างกับกระแสความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปในสวีเดน
โพลต่างๆ สะท้อนว่า ก่อนหน้านี้ประชาชนฟินแลนด์เคยเห็นด้วยกับการเข้าร่วม NATO เพียง 20 เปอร์เซ็นต์
ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังสงครามยูเครนระเบิด ความเห็นของประชาชนก็พุ่งไปที่ 60 เปอร์เซ็นต์
และบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างก็ออกมาประกาศสนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิก NATO ด้วย
“เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับการกระทำทุกประเภทจากรัสเซีย…ไม่มีทางอื่นใดที่จะรับประกันความมั่นคงได้นอกจากการป้องปรามและการป้องกันร่วมกันของ NATO ตามที่รับรองโดยมาตรา 5 ของ NATO” นายกรัฐมนตรีซานนา มาริน ของฟินแลนด์ประกาศอย่างเป็นทางการ
นั่นย่อมหมายถึงการที่ 2 ประเทศนี้ต้องการจะพึ่งพา “มาตรา 5” ของสนธิสัญญา NATO
ซึ่งระบุว่าหากประเทศสมาชิกใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี กลไก NATO ก็จะถือว่าเป็นการโจมตีประเทศสมาชิกทั้งหมด 30 ประเทศ
นั่นคือตัวเลขก่อนที่ฟินแลนด์และสวีเดนจะถูกรับเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ
การที่นายกรัฐมนตรีหญิงของทั้ง 2 ประเทศยืนแถลงข่าวเรื่องเดียวกันนี้พร้อมๆ กันเมื่อสัปดาห์ก่อน ย่อมหมายถึงการที่ได้ปรึกษาหารือกันแล้ว
เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซียในทะเลบอลติกกำลังเริ่มหวั่นไหวหนัก
เมื่อประเทศที่มีนโยบาย “เป็นกลาง” ตัดสินใจจะกระโดดเข้ากับ NATO ที่รัสเซียถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อตัวเองโดยตรง นั่นย่อมแปลว่า “ระเบียบความมั่นคงของยุโรป” สูตรเดิมต้องมีอันปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ
เป็นความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว
แต่ระหว่างที่ยังรอการยื่นใบสมัครจาก 2 ประเทศนี้ (ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำในเดือนมิถุนายนระหว่างการประชุมสุดยอดของ NATO ที่มาดริด, สเปน,) 2 ประเทศนี้จะมีความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ถูกโจมตีก่อน
เลขาธิการ NATO Jens Stoltenberg บอกว่า อาจจะต้องมี “มาตรการชั่วคราว” เพื่อคุ้มครอง 2 ประเทศนี้หากเกิดกรณีฉุกเฉิน
นี่ก็จะเป็นกรณีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศเช่นกัน
ที่ต้องมีความประหวั่นพรั่นพรึงถึงขนาดนี้ ก็เพราะรัสเซียตอบโต้ถ้อยแถลงของฟินแลนด์และสวีเดนเรื่องจะเข้าร่วม NATO อย่างทันท่วงที
นั่นคือการที่มอสโกบอกว่าจะเลิกใช้คำว่า “ภูมิภาคบอลติกที่ปลอดนิวเคลียร์”
มีความหมายว่า พร้อมจะส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปประจำการอยู่ในบริเวณนั้น
โดยมีดินแดน Kaliningrad ของรัสเซียที่ถูกล้อมรอบโดยประเทศต่างๆ รอบๆ ทะเลบอลติกเป็นฐานสำคัญของรัสเซียเพื่อยันอิทธิพลของ NATO
อีกทั้งยังมีคำแถลงจากรัสเซียว่า หากสหรัฐฯ และ NATO ส่งอาวุธมาช่วยยูเครน เส้นทางการลำเลียงอาวุธเหล่านั้นก็จะกลายเป็น “เป้าหมายทางทหาร” ที่รัสเซียสามารถจะโจมตีได้อย่างชอบธรรม
เพราะรัสเซียอ้างว่านั่นคือ “ภัยคุกคาม” ที่ NATO มีต่อรัสเซียอีกด้วย
โอกาสของการที่สงครามยูเครนจะขยายวงกลายเป็น “สงครามยุโรป” ก็ดูเหมือนจะเพิ่มดีกรีของความเป็นไปได้ขึ้นมาทันที!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ