ก็เห็นใจ-เข้าใจ "ทุกฝ่าย" จริงๆ
อยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ ก็อยาก อยากให้เม็ดเงินสะพัดมากๆ ก็อยาก อยากให้พ่อค้า-แม่ขายพอลืมตา-อ้าปากได้บ้างก็อยาก
ขณะเดียวกัน.........
ก็ไม่อยากให้มั่วสุมชุมนุมดื่มกินกันมากๆ ไม่อยากให้เล่นสาดน้ำสงกรานต์กันมากๆ เพราะกลัวคลัสเตอร์โควิด
มันช่าง "ย้อนแย้ง" กันจริงๆ!
ฝรั่ง-ต่างชาติ ข้ามน้ำ-ข้ามทะเลมาไทยช่วงนี้ เสน่ห์ดึงดูดก็อยู่ที่ มาเล่นสาดน้ำสงกรานต์
ถ้ามาแล้ว "ห้ามเล่นสาดน้ำ" จะให้เขานั่งพับเพียบร้อยมาลัยอยู่แต่ในโรงแรม เขาด่าไม่เป็นไร แต่ต่อไปใครจะมา
พูดกันตรงๆ....
เอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ในความรับรู้ต่างชาติ คือการเล่นสาดน้ำ
ถ้าสงกรานต์ไม่สาดน้ำ ก็เหมือน "ต้มยำกุ้ง" ไม่มีข่า ไม่มีตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำมะนาว พริก ซึ่งนั่น มัน "น้ำล้างหัวล้าน" ไม่ใช่ "ต้มยำกุ้ง" ที่ต่างชาติโหยหา
ก็เข้าใจรัฐบาลนะ
อยากปล่อยให้เล่นก็อยาก ปล่อยแล้วกลัว "คลัสเตอร์โควิด" ก็กลัว ที่สำคัญ ถ้าเกิด ทั้งรัฐบาล-ทั้่งนายกฯ ไม่ได้ผุด-ไม่ได้เกิดจากงานนี้แน่!
"หนักหน้า" ไปตกอยู่ที่ฝ่ายปฏิบัติตามมาตรการแต่ละพื้นที่ ตึงไปก็ขาด หย่อนไปก็ติด กลางๆ ก็มีแต่เสมอตัวกับซวย
งานนี้แหละ คือการ "สอบไล่" ในวิชา "รัฐศาสตร์ผสมนิติศาสตร์" ของแต่ละผู้บริหารพื้นที่โดยตรง
เห็นเมื่อวาน โดยเฉพาะที่ "ถนนข้าวสาร" และที่ภูเก็ต ประชุมกันเครียด "ห้ามเล่นสาดน้ำ"
จะห้ามได้ขนาดไหน ดูภาพ-ข่าวจากสื่อเช้านี้ก็รู้!
แต่ผมว่านะ.....
มันช้าไปแล้วแหละต๋อย ถ้ามันจะติดจนเป็นคลัสเตอร์น่ะนะ มันติดเรียบร้อยตั้งแต่คืนแรก ที่ ๑๓ เมษานั่นแล้ว
ก็ "ทำใจ" กันซะเถอะ "เทศกาลสงกรานต์" น่ะ อย่าว่าแต่รัฐบาลห้ามเลย ต่อให้พระอินทร์เหาะลงมาเขียวๆ ก็ห้ามชาวบ้านรื่นเริงสงกรานต์ไม่ได้!
เพราะสงกรานต์ คือวัฒนธรรมบ่งบอกตัวตนคนไทยคู่ชาติไทย ห้ามโน่น-นี่ ห้ามได้ แต่จะให้ทุกคน "ฝืนประเพณี" มัน "ข่มขืนใจ" กันชัดๆ
ฉะนั้น จะเคร่งครัดมาตรการขนาดไหน ก็ว่าไป แต่หลักใหญ่ "ต้องเข้าใจ" ประเด็นนี้เป็นสำคัญ
ผมก็คุยเท่านี้ พอดี "โอลด์ บอย" ด้วยกัน สงกรานต์อยู่กะบ้าน ก็เลยไลน์ “คนรุ่นเก่า เล่าความหลัง“ มาให้ครึ้มใจกัน
.................
“คนรุ่นเก่า เล่าความหลัง"
ยุคประมาณ 2490 พ่อค้าชาวจีนได้ซื้อวังบูรพาภิรมย์มาทำเป็นศูนย์การค้าที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น เปิดดำเนินการปี 2499 ภายในศูนย์มีแม่เหล็กคือโรงหนัง 3 โรง คิงส์, ควีนส์, แกรนด์
ทั้ง 3 โรงฉายหนังฝรั่งจากอเมริกาเป็นหลัก เวลามีหนังเพลงเข้ามาฉาย เช่นหนังของ Elvis หรือเช่นที่โรงหนังคิงส์มีหนังเรื่อง เพลงลูกทุ่ง Your Cheating Heart เข้าฉาย
นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง เช่น 2 พี่น้อง โลห์และหลุยส์ ธุระวณิชย์, คุณจักริน รสนา, คุณรุ้งตะวัน วงศ์เกรียงไกร, คุณชูชีพ เขียวมณี ก็จะจัดรายการพิเศษรอบทุ่มรับหนังเข้าใหม่
จะมีวงคนตรีเช่น Johnny Guitar, Louis Guitar Blue, The Charming Boys, P.M. Pocket Music (เรื่องนี้วันหลังจะหาเวลามาเล่าให้ฟังใหม่ พีเอ็มย่อมาจาก พยงค์ มุกดา)
พอดนตรีเล่นเสร็จ ก็จะฉายหนัง บริเวณหน้าโรงก็จะมีคนมาขาย ข้าวโพดคั่ว, อ้อยควั่น, น้ำมะเน็ด (ที่มีจรวด) รอบพิเศษอย่างนี้ ค่าตั๋วประมาณ 10-15-20 บาท
รอบนี้ละที่เหล่าบรรดาจิ๊กโก๋ จิ๊กกี๋ สมัยนั้นจะมาชุมนุมกัน ผู้ชายกำลังเห่อ "เจมส์ ดีน" จะใช้น้ำมันใส่ผมยี่ห้อ ยาดเลย์ สีเหลือง ป้ายไปบนผม ผมเรียบเงาวับ ซ้อนมอเตอร์ไซค์มาดูหนังผมยังไม่ยุ่ง
ใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ ต้องยกปกขึ้นด้วยปิดคอด้านหลัง ใส่กางเกงขาลีบ ใส่รองเท้าหนังกลับคู่คล้ายๆ รองเท้าปีนเขา โห โคตรเท่ห์ไม่ลืมหูลืมตา
ผู้หญิงจะใส่กระโปรงบานลายดอกเลยเข่า ทำผมฟูๆ เลียนแบบดาราเหมือนกัน สาวๆ จะเอาเธอเป็นต้นแบบชื่อ "แพตตี้ ดุ๊ก"
ตอนนั้นเธอดังมาก ที่สำคัญปากจะต้องสีแดงแจ๋ ที่นี้วันเสาร์อาทิตย์จะเป็นที่ชุมนุมวัยรุ่น (สมัยนั้นวัยรุ่นจะอายุ 25 ขึ้นไป) เพราะวิทยุจะมีแต่ AM เปิดแต่เพลงฝรั่งเสียส่วนใหญ่
ดังนั้น คนสมัยนั้นฟังแต่เพลงฝรั่ง ร้องแต่เพลงฝรั่ง ชอบนักจัดรายการคนไหน ก็จะเขียนจดหมายไปขอเพลง (สมัยนั้นใครมีโทรศัพท์ ถือว่าทำบุญมาดีแต่ปางก่อน)
นักจัดรายการก็นกรู้ อ่านชื่อคนขอเพลงออกอากาศ เจ้าของจดหมายได้ยินชื่อตัวเองเป็นปลื้ม คุยให้เพื่อนฟังสามปีไม่เบื่อ
เมื่อฟังแต่เพลงฝรั่ง เวลาจะหาฟังก็ต้องอาศัย Juke Box ตู้เพลงนั่นแหละ เมื่อก่อนตามบาร์จะมีตั้งไว้ให้แก้เหงา
และที่วังบูรพานี้เอง มีร้านขายแผ่นเสียงเพลงฝรั่งที่กำลังฮิต เจ้านี้เขาเร็วที่สุด แผ่น 7 นิ้ว สปีด 45 หน้าละเพลง แผ่นหนึ่งสิบบาท แผ่นที่ดังๆ จะตรา RCA, A & M, Sun Record, Capital
คนมีตังค์ที่มีเครื่องเล่น ก็จะมาชุมนุมกันที่นี้ตั้งแต่สิบโมงเช้าวันอาทิตย์ เลือกแผ่นแล้วสังสรรค์กัน บางทีก็เอาแผ่นมาแลกกันฟัง ร้านชื่อ Black & White
ส่วนวังบูรพาด้านติดกับพาหุรัดก็มีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ชื่อเก๋เปิดดำเนินการพร้อมศูนย์ ในปี 2499 นั่นคือที่มาของห้าง Central ในปัจจุบัน สาขาบุกเบิกอยู่ตรงนั้น ปัจจุบันไม่อยู่แล้ว
ฝั่งตรงข้าม Central คืนวันเสาร์ ผู้คนก็จะมาเต้นรำกับพาตเนอร์สาวสวย เต้นจังหวะบอลรูมนะ ทางลงเป็นห้องเหมือนใต้ดินเลยชื่อ "นครถ้ำ" ดังอยู่นาน
เวลาหิวข้าวก็จะมากินข้าวมันไก่ เนื้ออบ ตรงข้ามโรงหนังควีนส์ ชื่อร้านควีนส์เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ไม่อยู่ เป็นร้านขายเพชรไปแล้ว ที่นี่ข้าวมันไก่ไหหลำของแท้ (เมื่อไหรจะถึงสยามวะ เหนื่อย)
ปลายปี 2503 ตรงประตูน้ำ มีโรงหนังใช้พัดลมอยู่ ชื่อ โรงหนังศรีเพชร ฉายหนังไทย ปิดปรับปรุงแล้วเปิดใหม่ติดแอร์เย็นฉ่ำ เก้าอี้นั่งนุ่มสบาย มีสองชั้น ชื่อโรงหนังพาราเมาท์ ประเดิมด้วยหนังของพาราเมาท์ แสดงโดย Elvis เรื่อง G.I.Blue
ช่วงนี้ละที่หลายคนถามช่วงปลุกใจรักชาติมีการบริจาคคนละบาทชาติอยู่รอด..ใช่แล้ว..เรื่องอมตะมหานิรันดรกาลเขาพระวิหาร เพราะปลายปี 2502 เขมรยื่นฟ้องไทยต่อศาลโลก
เรื่องเขาพระวิหาร มีการแต่งเพลงร้องกันยกใหญ่ เขาพระวิหารต้องเป็นของไทย แต่แล้วก็เป็นอย่างที่ทุกท่านทราบ ศาลโลกตัดสินในปี 2505 ให้เขาพระวิหารเป็นของเขมร
ตั้งแต่นั้นมาจนทุกวันนี้ เขาพระวิหารก็ยังเป็นของเขมร แต่มามีเรื่องมรดกโลกอีก
ห้าสิบปีผ่านไป เรามาพูดเรื่องเดิมอีก ไม่แน่อีกห้าสิบปี ปี 2600 เราอาจต้องมาเจรจาเรื่องนี้กันอีกก็เป็นได้ใครจะไปรู้
กลับมาเรื่องหนังเป็นที่นิยมกัน หนังดังต้องมีรอบพิเศษ โดยเฉพาะหนังไทย มีดนตรีมาแสดง เห็นโรงหนังขายดี เลยไปอีกไม่กี่ช่วงตึก สร้างมั่ง
ปลายปี 2504 เปิดมาหรูกว่าชื่อโรงหนังเมโทร ประเดิมด้วย "ซินแบดผจญภัย" คนเลยต้องวิ่งรอกไปมาระหว่างประตูน้ำกับวังบูรพาและเฉลิมไทย
อ๋อ ลืมบอก ที่วังบูรพาเป็นที่เดียวที่ท่านจะหาซื้อบุหรี่ต่างประเทศได้ สมัยนั้น มาร์โบโร่ยังไม่มี จะมี Winston ซองแดง, 555, Lucky, Pall Mall, Dunhill ที่ขายดีที่สุดสมัยนั้นคือ Salem ซองสีเขียว เย็นชื่นใจ
สมัยนั้น แค่ก้นกรองก็เป็นของใหม่ ใครสูบยืดน่าดู ยิ่งมีเมนทอลเย็นซ่านถูกใจ โดยเฉพาะสาวๆ จนถึงยุคเมียเช่า ก็กลายเป็นบุหรี่ยอดนิยมของเมียเช่า ทหารอเมริกันลาพักต้องซื้อจาก PX มาฝากทุกคน
สมัยนั้น การสูบบุหรี่เป็นการเข้าสังคมนะ ใครไม่สูบเชยน่าดู เข้าร้านเหล้า เข้าโรงหนัง นั่งรถเมล์ สูบกันสบายใจ "เหล้านอก" ถูกกฎหมาย แต่ "บุหรี่นอก" เป็นของผิดกฎหมายนะครับ ต้องแอบขาย
Cr: Bob Bkk.
นับจากนี้ไปอีก 5-12 ปี กรุงเทพฯ เรา จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง เห็นสิ่งปลูกสร้าง สิ่งก่อสร้าง แลนด์มาร์กใหม่ๆ ที่ทยอยเสร็จ
- “One Bangkok” Super Complex บริเวณสวนลุม รร.เตรียมทหารเก่า
- “Central Dusit Park” ดุสิตธานีเดิม
- All New ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ + สวนป่าเบญจกิติ 300 ไร่
- อุทยาน ร.๙ ข้างตำหนักจิตรลดา ยันนางเลิ้ง
- The Forestias ซูเปอร์พาวิลเลียน เมืองในป่า 400 ไร่ 1.25 แสนล้าน ย่าน ถ.บางนาตราด กม.7
- “Bangkok Mall” Super Complex + ขนส่งสายตะวันออก บริเวณสี่แยกบางนา
- The Mall รามคำแหง
- Emsphere ข้างๆ Emporium
- Siam One บริเวณสยามสแควร์ ตรงข้าม MBK
- All New สวนสยาม
- สถานีกลางบางซื่อ
- Hi-Speed Train | BKK - Rayong, BKK - Nhongkai, BKK - Chiangmai
- Condominium เกิดใหม่ ย่านสุขุมวิท เพชรบุรีตัดใหม่
- ตึกระฟ้าสูง 120 กว่าชั้น สูงที่สุดในเอเชีย หลัง Life Condo รัชดาภิเษก อโศก-ดินแดง พระราม ๙
- สะพานแขวนพระราม ๙ คู่ขนาน
- ถนนบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว
- อุโมงค์ลอดเจ้าพระยา บริเวณ ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ ไป ถ.สรรพาวุธ บางนา
- Toll Way พระราม ๒-มหาชัย-วังมะนาว
- ทางด่วน รัชวิภา-วงแหวนกาญจนาภิเษก ตะวันออก
- ทางด่วน ลำลูกกา-นครนายก
- ทางด่วน บางปะอิน-นครราชสีมา
- มอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี
- รถไฟฟ้าสาย สีแดง, สีทอง, ชมพู, เหลือง, ส้ม, น้ำตาล, ม่วงใต้ (ต่อขยายไป พระประแดง-ครุใน)
* หายใจไว้ อย่าหยุดนะ ....แล้วเราจะได้เห็นสิ่งดี ๆ อีกแยะของกรุงเทพ*
---------------------------------
อดีต-เป็นรากฐานปัจจุบัน, ปัจจุบัน-เป็นรากฐานอนาคต, อนาคต-เป็นรากฐานอดีต
แล้ว "รุ่นใหม่-รุ่นเก่า" มันอยู่ตรงไหน(วะ)?
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!!
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!! วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ทักษิณ 'รีเทิร์น' นั่งเมือง
วันนี้คุยเรื่อง "หัวเขียง-หัวขวด" พรรคเพื่อไทยกันต่อ ที่เสนอกฎหมายให้ "นักการเมือง" เข้าไป "ควบคุมกองทัพ"
ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?
"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ
'Grab rider ต้วง'
ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา
สมรภูมิ ประชาธิปไตย | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
สมรภูมิ ประชาธิปไตย จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 08 ธันวาคม 2567
'ดร.บุญส่ง-นพ.ระวี' ส่องจุดจบ! ระบอบทักษิณ ภาค 2 | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 07 ธันวาคม 2567