ต้องเรียกมันว่า “ศึกชิง Donbas” เมื่อสงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 51 วันนี้
เพราะเราเห็นทั้ง 2 ฝ่ายระดมสรรพกำลังทุกๆ ด้านเพื่อเตรียมเปิดแนวรบใหม่ทางด้านตะวันออกอย่างดุเดือด
ทางการยูเครนประกาศให้คนของตนอพยพออกจากเมืองทางตะวันออกโดยด่วน เพราะหากยังอยู่ในบริเวณนั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของการสู้รบ
เพราะไม่มีใครรับรองความปลอดภัยของใครได้อีกต่อไป
ด้านรัสเซียก็มีการปรับทัพครั้งใหญ่หลังจากถอยร่นจากด้านเหนือรอบๆ กรุงเคียฟแล้ว ก็เตรียมมาปักหลักทางตะวันออกและทางใต้
ประธานาธิบดีปูตินตั้งผู้บัญชาการรบคนใหม่ไปนำทัพในยูเครนหลังจากที่หน่วยรบชุดแรกไม่อาจจะบรรลุเป้าหมายของการยึดเมืองหลวงและด้านเหนือทั้งหมดได้ภายใน 72 ชั่วโมงแรก หลังเปิดฉากสงครามเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นายพลคนใหม่ชื่อพลเอก Alexander Dvornikov ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพทางใต้ของรัสเซีย
นักรบวัย 60 คนนี้เคยสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในครั้งที่นำหน่วยรบรัสเซียที่ซีเรีย
มีชื่อด้านกร้าวและดุ พร้อมจะใช้ทุกวิถีในสนามรบเพื่อบดขยี้ศัตรู
แต่สงครามในซีเรียกับยูเครนมีความแตกต่างกันในหลายด้าน
อะไรที่เคยเป็นความสำเร็จในอดีตจะรับประกันความสำเร็จในสมรภูมิที่มีปัจจัยแห่งเซอร์ไพรส์หลายๆ ด้านหรือไม่ ไม่มีใครรับรองได้
แต่ที่แน่ๆ คือ ทั้งยูเครนและรัสเซียส่งกำลังเสริมเข้ามายังยูเครนตะวันออกอย่างไม่ยั้งมือ
แต่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็สรุปตรงกันว่า นี่กำลังจะเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสู้รบกันมากว่าเดือนครึ่งแล้ว
ขณะที่สงครามด้านเศรษฐกิจ, ไซเบอร์, ข่าวสารยังเดินหน้าเพิ่มความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
และจำนวนผู้ลี้ภัยยูเครนที่หนีตายทุกวันยังเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะมีโอกาสสงบ
เพราะยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะบอกว่าจะมีการเจรจาเพื่อนำไปสู่การหยุดยิงทั่วประเทศแต่ประการใดเลย
นักวิเคราะห์ทางทหารเห็นตรงกันว่า เป้าหมายหลักของรัสเซียในตอนนี้คือการยึดพื้นที่ทางตะวันออกของภูมิภาค Donbas ที่มอสโกยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างถนัดถนี่นัก
มีความแตกต่างไปจากการศึกระยะแรกของความขัดแย้งที่เข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 อย่างเห็นได้ชัด
การเปลี่ยนแปลงสภาพสงครามที่ว่านี้บังคับให้ยูเครนต้องสู้รบตามแบบแผนที่ใช้รถถัง ปืนใหญ่ และเครื่องบิน
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปะทะกันบนพื้นราบที่แห้งแล้ง เป็นผลให้ฝ่ายรัสเซียใช้ประโยชน์จากความเหนือกว่าในด้านยุทโธปกรณ์
แต่กระนั้น ทหารรัสเซียก็ต้องเผชิญกับแรงต่อต้านของทหารยูเครนอย่างหนักในหลายๆ สนามรบ
ทหารยูเครนสร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็นด้วยการแสดงความอึด, ปรับตัว และใช้ยุทธวิธีแบบบ้านๆ ต้านทหารรัสเซียที่หลายหน่วยมีความไม่คุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศและการใช้อาวุธในสมรภูมิ
มาคราวนี้รัสเซียย่อมไม่ยอมจะทำความผิดพลาดซ้ำสอง
หน่วยเสริมของรัสเซียเริ่มทยอยมาอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นรถถังและหน่วยปืนใหญ่ รวมถึงกองกำลังที่ถอนจากพื้นที่รอบๆ เคียฟ เพื่อเตรียมการสำหรับการโจมตีทางเหนือของเมือง Izyum ของยูเครน
ใครดูทีวีรัสเซียก็จะสังเกตได้จากภาพที่แสดงให้เห็นว่ากองทัพรัสเซียเริ่มเคลื่อนทัพไปยังภูมิภาค Donbas จากพื้นที่ทางตอนเหนือของยูเครน
การปะทะกันตามแนวติดต่อใน Donbas และพื้นที่ใกล้เคียงเกิดขึ้นอย่างดุเดือดทุกวัน
เห็นได้ชัดว่ากองกำลังของรัสเซียพยายามจะดันไปทางใต้ของ Izyum เพื่อสร้างความได้เปรียบทางยุทธการภาคพื้นดิน
ฝ่ายยูเครนและตะวันตกบอกว่าแนวรบใหม่จะระเบิดอย่างเต็มที่เมื่อใดย่อมขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของฝั่งมอสโก
เชื่อกันว่าหลังจากการปรับแผนและสรุปบทเรียนจากการทำศึกมาหลายสัปดาห์แล้ว ทหารรัสเซียกดดันให้มีการรุกอย่างรวดเร็วด้วยกองกำลังที่มีอยู่
หรือรอ 2-3 สัปดาห์เพื่อจัดทัพใหม่ให้สอดคล้องกับแผนการรุกในรูปแบบที่จะไม่ทำความผิดพลาดซ้ำความล้มเหลวเดิม
เจ้าหน้าที่ยูเครนวิเคราะห์ว่า เป้าหมายของมอสโกน่าจะไปไกลกว่าแค่การยึดภูมิภาค Donbas
มีความเป็นไปได้ว่าปูตินจะพยายามที่จะทำลายล้างหน่วยรบที่แกร่งกล้าที่สุดของยูเครนในสมรภูมิ Donbas จากนั้นจึงจะกรีฑาทัพเพื่อยึดส่วนที่เหลือของประเทศ
นั่นหมายรวมถึงเมื่องหลวงกรุง Kyiv ด้วย
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องให้ตะวันตกเร่งส่งความช่วยเหลือทางด้านอาวุธมาให้กับหน่วยรบยูเครนก่อนการสู้รบรอบใหม่จะตูมตามขึ้น
เขาเชื่อว่าปูตินยังไม่ได้ละทิ้งความทะเยอทะยานที่จะปราบยูเครนให้ราบคาบ
“รัสเซียยังคิดฝันในภาพลวงตาของตัวเอง โดยพยายามจะจัดทัพใหม่เพื่อจะปราบเราให้สิ้นซาก
และนั่นหมายความว่าเราต้องการเห็นตะวันเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรให้หนักขึ้นและส่งอาวุธมาให้เราอย่างเร่งรัดและหนักหน่วงขึ้น” ผู้นำยูเครนวาดภาพให้เห็นชัดเจน
อย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน Dmytro Kuleba บอกกับรัฐมนตรีต่างประเทศนาโตในวันไปประชุมร่วมกันที่กรุงบรัสเซลส์ว่า
“เราต้องการ 3 อย่าง : อาวุธ, อาวุธและอาวุธ”
พร้อมตอกย้ำว่า “เราเพียงต้องการอาวุธจากท่านเท่านั้น ส่วนชาวยูเครนพร้อมสละชีพเพื่อรักษาอธิปไตยและเสรีภาพของเรา...และถ้าท่านช่วยเรายันรัสเซียเอาไว้ในบ้านเราได้ สงครามก็จะจำกัดวงอยู่ในยูเครนเท่านั้น ท่านทั้งหลายก็จะได้ปลอดภัย ไม่ต้องทำสงคราม..."
สงครามครั้งหน้านี้ใหญ่หลวงนัก–สำหรับทุกฝ่ายในความขัดแย้งครั้งนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ