สังหารหมู่ที่ Bucha คือจุด เปลี่ยนแนวรบยูเครนครั้งใหม่

สงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 47 วันนี้...ยังห่างไกลจากการเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อหาทางต่อรองสงบศึก

เพราะต่างฝ่ายต่างโหมสรรพกำลังในการสู้รบเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในสนามรบ มากกว่าที่จะแลกเปลี่ยนเงื่อนไขเพื่อให้สงครามยุติลง

วันศุกร์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปส่ง Ursula von  de Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ  Joseph Borrell ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงไปถึงกรุงเคียฟ

ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนมาต้อนรับอย่างอบอุ่น

และพาอาคันตุกะไปเมือง Bucha เพื่อให้เห็นถึงสภาพของเมืองที่ถูกทหารรัสเซียทำลายอย่างหนักหน่วง

รวมถึงจุดที่ยูเครนอ้างว่าทหารรัสเซียได้ก่อการสังหารหมู่ชาวยูเครน ก่อนจะถอนทหารออกไปจากรอบๆ กรุงเคียฟ

(รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ อ้างกลับว่าเป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงที่มอสโกเรียกเป็นพวก “Neo-Nazis”  หรือ “นาซียุคใหม่” ที่ติดอาวุธและสังหารคนยูเครนเพื่อโยนบาปให้รัสเซีย)

ในจังหวะเดียวกันนั้น รัสเซียก็จัดทัพใหม่ หลังจากถอนทหารออกจากรอบ ๆ กรุงเคียฟทางเหนือ ก็มุ่งพิชิตศึกทางตะวันออกโดยเฉพาะในภูมิภาค Donbas

บีบีซีอ้างแหล่งข่าวระดับสูงทางตะวันตกว่า รัสเซียได้จัดโครงสร้างการบังคับบัญชาการปฏิบัติการในยูเครนใหม่

โดยมอบหมายให้นายพลคนใหม่ ซึ่งมีประสบการณ์กว้างขวางเกี่ยวกับปฏิบัติการรบในซีเรียมาบัญชาการรบในสมรภูมิแห่งใหม่นี้

นายทหารที่ว่านี้คือ General Alexander  Dvornikov พล.อ.อเล็กซานเดอร์ ดวอร์นิคอฟ ผู้บัญชาการเขตการทหารทางตอนใต้ของรัสเซีย

เพราะมีประสบการณ์นำทัพในสงครามซีเรีย นายพลคนนี้จึงมีหน้าที่จะต้องปรับปรุงการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่ผ่านมาในสมรภูมิทางเหนือ, ตะวันออก และทางใต้ของยูเครน

นักวิเคราะห์ด้านการทหารตะวันตกบอกว่า ถ้าประธานาธิบดีปูตินไม่สั่งปรับเปลี่ยนยุทธวิธี ก็จะเป็นการยากที่จะประกาศชัยชนะในสนามรบก่อนจะเข้าสู่โต๊ะเจรจาได้

โดยเฉพาะถ้าเชื่อตามที่บางกระแสวิเคราะห์ว่า ปูตินต้องการจะประกาศปิดเกมรบในยูเครนให้ได้อย่างช้าที่สุดคือวันที่ 9 พฤษภาคมนี้

เพราะตรงกับวันที่รัสเซียได้รับชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง

ยูเครนเองก็มิใช่ว่าจะได้ทุกอย่างที่ต้องการจากโลกตะวันตก ที่ถูกร้องขอให้ส่งอาวุธและความช่วยเหลือต่างๆ  มาเพื่อต้านการรุกคืบรอบใหม่ของรัสเซีย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ดมิโทร คูเลบา แสดงความหงุดหงิดด้วยการวิพากษ์บางประเทศในยุโรปตะวันตกที่ยังลังเล ไม่ทำตามข้อเรียกร้องของยูเครนเรื่องการจัดหาความช่วยเหลือด้านอาวุธในการสู้รบกับรัสเซีย

เหตุเพราะกลัวว่าจะถูกดึงเข้าไปร่วมในสงครามครั้งนี้

รัฐมนตรีคูเลบาถึงกับออกมาแจ้งกับประเทศเหล่านี้ว่า  "ข้อเรียกร้องขอความช่วยเหลือของเราจากท่านนั้นเป็นเรื่องชอบธรรมและยุติธรรม...”

เพราะหากประเทศเหล่านี้จัดหาอาวุธมาให้ ชาวยูเครนก็พร้อมสละชีวิตของตนเพื่อปกป้องตนเอง

และมิใช่เพียงแค่ป้องกันยูเครนเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการช่วยปกป้องประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันตกด้วย

เพราะหากคนยูเครนได้อาวุธมา สงครามก็จะจำกัดอยู่แค่ในยูเครน ไม่ขยายวงไปสู่ประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันตก

เสมือนเป็นการบอกกล่าวว่า “เรากำลังรบเพื่อพวกท่านนะครับ”

คำกล่าวตรงไปตรงมาอย่างนี้เกิดขึ้นที่การประชุมระดับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

เป็นการหารือกันเรื่องการจัดหาความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนในรูปของระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ อาวุธต่อต้านยานเกราะ และความสนับสนุนด้านอื่นๆ

รมต.คูเลบาบอกว่า "ยิ่งมีอาวุธมาถึงยูเครนมากเท่าไร และเร็วแค่ไหน เราก็จะสามารถช่วยชีวิตประชาชนได้มากขึ้นเท่านั้น เมืองและหมู่บ้านต่างๆ ก็มีโอกาสรอดจากการถูกทำลาย และจะไม่มีเมืองที่ถูกกระทำอย่างเมืองบูชาอีก"

เขากล่าวขอบคุณชาติตะวันตกที่เพิ่มมาตรการลงโทษต่อรัสเซีย แต่ก็เรียกร้องให้มีการลงโทษเพิ่ม โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย รวมทั้งขอให้มีการตัดธนาคารทุกแห่งในรัสเซียออกจากระบบการเงินโลก หรือ SWIFT ตลอดจนห้ามท่าเรือทุกแห่งรับเรือขนส่งและสินค้าจากรัสเซียด้วย

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เราเห็นการขยับตัวของฟินแลนด์และสวีเดนที่แสดงเจตจำนงที่จะขอเข้าเป็นสมาชิก NATO

ทั้งๆ ที่เคยรักษาสถานะ “เป็นกลาง” อย่างที่รัสเซียเรียกร้องมาตลอด

แต่สองชาตินี้คงสรุปได้จากสงครามในยูเครนแล้วว่า คำว่า “การค้ำประกันความมั่นคงปลอดภัย” ของประเทศตนเองหลังรัสเซียบุกยูเครนต้องนิยามกันใหม่

และหากไม่มี “เกราะกำบัง” มาให้ความมั่นใจตนเอง คงจะทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงมากขึ้นอีก

ต่อมาวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนก็ประกาศว่าพร้อมจะยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป

และฟินแลนด์ยืนยันว่าจะสมัครเป็นสมาชิก NATO  ขณะที่สวีเดนก็แสดงความประสงค์ทำนองเดียวกัน

หากเป็นเช่นนี้รัสเซียก็ต้องคิดหนัก เพราะเท่ากับว่า  NATO และ EU ขยับเข้ามาประชิดติดชายแดนของตนมากขึ้น

ทั้งๆ ที่การเปิดศึกกับยูเครนก็เป็นเพราะต้องการจะสกัดไม่ให้ตะวันตกสยายปีกมาใกล้บ้านของตน!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ