แก้ปัญหาหนี้สินตำรวจ

โดยให้ บช.น., ภ.1-9, ก., ปส., ทท., สตม, สอท. และ ตชด. จัดทำแผนและมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมให้สอดคล้องเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์มากที่สุด รวมทั้งมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 17 เม.ย.65 เน้นความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง อาวุธปืนและเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด และสถานบริการ รวมถึงให้ความสำคัญกับการหลอกลวงทางออนไลน์ด้านการเงิน และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ สินค้าที่ผิดกฎหมาย และให้ทุกโรงพักจัดสายตรวจทุกประเภทออกตรวจตราสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย และสถานที่ที่มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย และให้คำนึงถึงมาตรการทางสาธารณสุข ทั้งตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติและประชาชนทั่วไป ๐

ในส่วนโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0) ทาง ผบ.ปั๊ด ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง เพราะเป็นโครงการที่ถูกใจประชาชน แม้ช่วงหลังๆ แรงโปรโมตจะน้อยลงไปหน่อย เพราะ ตำรวจ ประเภท พรีเซนเตอร์ ไม่ค่อยโดดเด่นเหมือนบางยุคบางสมัย เมื่อครั้ง จูดี้-พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสมัย บิ๊กอวบ-พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็นรอง ผบ.ตร. ดูแลโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ แต่ยุคนี้ก็ไม่น้อยหน้า บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ก็สานต่องานไว้ได้อย่างดี มีเครื่องยืนยันผลงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา สงกรานต์ ปีนี้ทุกโรงพักเปิดให้ประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการฝากบ้าน 4.0 แจ้งความประสงค์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เม.ย.เป็นต้นมา โดยลงทะเบียนผ่าน Application “OBS” หรือสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ ซึ่ง ผบ.ปั๊ด สั่งการให้ หัวหน้าสถานีตำรวจ ต้องประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการของโครงการนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติรับทราบและเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ๐

เป็นอีกหนึ่งโครงการย่อยในช่วงสงกรานต์ บิ๊กหลวง-พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับโครงการอาชีวะจิตอาสาร่วมด้วยช่วยประชาชนเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทำโครงการ อาชีวะอาสาทำความดีช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 ดึงพลังด้านบวกของกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่มีทักษะ มีฝีมือ และที่สำคัญมีจิตอาสา มาช่วยกันร่วมสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม โดยตั้งจุดบริการประชาชน ตรวจเช็กสภาพรถ อาทิ กรุงเทพฯ ปั๊ม ปตท.รามอินทรา กม.14, นนทบุรี ปั๊ม ปตท.ไทรใหญ่, ปทุมธานี ปั๊ม ปตท.เชนตระกูล ถนนราชพฤกษ์ กม.35, สมุทรปราการ บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด อ.บางบ่อ, ฉะเชิงเทรา ปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนสิริโสธร อ.บ้านโพธิ์, ชลบุรี หน้าปั๊ม ปตท. (สหกรณ์การเกษตรบางละมุง) ถนนสุขุมวิท อ.บางละมุง, นครนายก ศูนย์ฝึกอาชีพผลิตภัณฑ์ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน จังหวัดนครนายก สี่แยกศูนย์พระเทพ ถนนเลี่ยงเมือง อ.เมืองนครนายก, นครราชสีมา ปั๊ม ปตท.ประเสริฐสินปิโตรเลียม ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา, อุบลราชธานี บริษัทอุบล-ตระการ ปิโตรเลียม จำกัด อ.เมืองอุบลราชธานี, ขอนแก่น ศูนย์ประตูเมือง หน้าสวนสาธารณะประตูเมือง, เชียงราย วัดร่องขุ่น อ.เมืองเชียงราย, เชียงใหม่ กองพลทหาราบที่ 7 อ.แม่ริม, นครสวรรค์ บริเวณจุดพักรถหน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์, พิษณุโลก บริษัท ศรีสุธาออยล์ จำกัด ถนนวงแหวนรอบเมืองพิษณุโลกด้านทิศใต้ อ.เมืองพิษณุโลก, นครปฐม หจก.อุดมชัยวิทย์ (สำนักงานใหญ่) ถนนเพชรเกษม อ.สามพราน, เพชรบุรี ป้อมตำรวจ แยกท่าศาลา ถนนเพชรเกษม อ.บ้านลาด, ภูเก็ต ด่านตรวจภูเก็ต ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง และสงขลา ปั๊ม ปตท. ถนนเลี่ยงเมือง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ เป็นต้น ๐

ยกมือสนับสนุนอีกหนึ่งโครงการ Money management and investment ของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่มี คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ ภริยา ผบ.ปั๊ด ในฐานะนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมกับ คุณพรรณวดี ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการหัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลท. เป็นหัวเรือใหญ่ พัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวตำรวจ เปิดอบรม จัดการเงินดี สุขใจไร้หนี้ มีพลังชีวิต ล่าสุดไปให้ความรู้กลุ่มนักเรียนนายสิบตำรวจ หรือที่เรียกว่ากลุ่ม ต้นน้ำ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่วัยเริ่มต้นการทำงาน เติมความรู้รากฐานด้านการเงิน ใส่วัคซีนป้องกันหนี้สิน ให้แก่นักเรียนนายสิบตำรวจ ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2 ถือเป็นการป้องกันปัญหาหนี้ตำรวจที่กำลังเป็นปัญหาให้ตำรวจ จนไม่สามารถทำงานดูแลทุกข์สุขของประชาชนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหากกลัดกระดุมเม็ดแรกดี ต่อไปปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ๐

เป็นนโยบายของ บิ๊กบี้-พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในการปรับปรุงงานสวัสดิการ ทบ. โดยเฉพาะสนามมวยลุมพินีที่ถูกมองเป็นแหล่งอบายมุข สถานที่ “สิงสถิต” ของเหล่าผีพนัน มาเป็นองค์กรหรือสถาบันที่เดินหน้าเรื่องการอนุรักษ์กีฬามวยไทยให้ได้ จนนำมาซึ่งการลงนามในบันทึกข้อตกลง หรือ MOU “ความร่วมมือเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนสนามมวยต้นแบบสู่การพัฒนามาตรฐานมวยไทย" ที่ทำกับการกีฬาแห่งประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากคณะทำงานที่มี บิ๊กแดง-พล.อ.สุชาติ แดงประไพ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี) น้องรักของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็นแม่งานใหญ่ พิจารณาแนวทางจนตกผลึกกลายเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ

ว่ากันว่า “บิ๊กแดง” พล.อ.สุชาติ เป็นน้องรัก ตท.23 ที่ “บิ๊กบี้” ไว้ใจตั้งแต่ติดยศ “ร้อยโท-ร้อยเอก” เพราะอยู่ในแผงบูรพาพยัคฆ์เดียวกัน ตั้งแต่ช่วงรับราชการที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 พัน 2 รอ.) ก่อนดึงตัวมานั่งคุม “สนามมวย” แม้ “บิ๊กแดง” ยังอยู่ที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย แต่ก็ต้อง “ข้ามวิก” มาช่วยงานเฉพาะกิจให้ “พี่บี้” แถมช่วงที่เกิดวิกฤต ททบ.5 ที่เกิดปัญหากับบริษัท ร่วมผลิต จากปมข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน จนกระทั่ง บิ๊กตี๋-พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการอำนวยการใหญ่ ททบ. 5 ก็มีชื่อ “บิ๊กแดง” ถูกส่งมานั่งขัดตาทัพไปก่อน แต่ในที่สุด "ไฟต์บังคับ" ตามธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมา ผบ.ทบ.ก็ต้องตัดสินใจส่ง พล.ท.วิสันติ สระศรีดา อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เพื่อน ตท.22 ไปนั่งบริหารแบบไร้รอยต่อ

บรรยากาศที่กระทรวงกลาโหม หลังจบงานสถาปนาครบรอบ 135 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คึกคักเป็นพิเศษหลังจากห่างหายกิจกรรม-งานพิธีในทำนองนี้ไปร่วม 1-2 ปี พอเสร็จสิ้นพิธี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ติดภารกิจแยกตัวกลับกองบัญชาการก่อน ส่วนที่เหลือทั้ง “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม “บิ๊กหน่อย” พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม 5 เสือ ทร., ทอ.ร่วมรับประทานอาหารกันแบบเต็มวง และน่าจะเป็นครั้งแรกที่เหล่าบรรดา “แคนดิเดต” ทั้งหลายมารวมตัวกัน แถมถูกจับจ้องจากสื่อกันหลายคู่ ไล่ตั้งแต่ บิ๊กจอร์ช-พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผช.ผบ.ทร. กับ เสธ.แจ๊ก-พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ เช่นเดียวกับ บิ๊กป้อม-พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. กับ พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา ผช.ผบ.ทอ. ส่วนบรรยากาศที่ วังเดิม กับ ตึกแปดแฉก ในช่วง 4-5 เดือนจะคึกคักหรืออึมครึม ต้องติดตามชม

กองทัพไทยจัดพิธีต้อนรับทหารจากกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 จำนวน 132 นาย ที่เสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (UNMISS) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมี พล.ท.ชิดชนก นุชฉายา เจ้ากรมยุทธการทหาร เป็นผู้แทนอ่านสารต้อนรับกำลังพลของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่สนามบินนานาชาติดอนเมืองกรุงเทพฯ สำหรับทหารไทยชุดนี้ไปปฏิบัติหน้าที่ในนามของสหประชาชาติ ระยะเวลากว่า 1 ปี 7 เดือน ในพื้นที่เมืองจูบา สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ซึ่งได้รับคำชื่นชมต่อผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา และวันที่ 6 เมษายน 2565 กองทัพไทยยังได้ส่งกำลังพล จำนวน 137 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่ผลัดที่ 3 ต่อไปในการพัฒนาซ่อมสร้างเส้นทาง สาธารณูปโภคต่างๆ และภารกิจในด้านงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ด้วย.