พอเกิดสงครามยูเครนเราก็เริ่มเห็นการ “ปรับทัพ” ทางด้านการทูตระหว่างประเทศขนานใหญ่
ใครอยู่ข้างรัสเซีย, ใครอยู่ข้างสหรัฐฯ, ใครอยู่ข้างยูเครน...เป็นคำถามที่ร้อนแรงและมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นทันตาเห็น
และเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียไปเยือนอินเดียพร้อมประกาศกระชับมิตรกันอย่างออกหน้าออกตา เราก็เห็นความย้อนแย้งทันที
อินเดียเป็นหนึ่งในสมาชิก Quad จตุภาคีที่สหรัฐฯ เป็นแกนนำ มีสมาชิกคือ อเมริกา, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลียและอินเดีย
สหรัฐฯ เรียกย่านนี้ว่า Indo-Pacific แทน Asia-Pacific เพราะต้องการดึงอินเดียมาเสริมกำลังต่อต้านจีน
แต่อินเดียก็ใกล้ชิดกับรัสเซียมายาวนาน
เมื่อเกิดสงครามยูเครน รัสเซียถูกสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตกคว่ำบาตร มอสโกก็วิ่งหาเพื่อน
นอกจากจีนแล้วรัสเซียก็มองไปที่อินเดีย
แม้ว่าจีนกับอินเดียจะมีความระหองระแหงกันอยู่เดิม แต่วิกฤตครั้งนี้ก็ทำให้เกิด “สมการใหม่” ของความสัมพันธ์ของยักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่างเห็นได้ชัด
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียบินไปอินเดียอย่างเปิดเผย
และประกาศว่าจะขายทุกอย่างที่อินเดียต้องการ...รวมถึงก๊าซที่จะลดราคาให้พิเศษอีกด้วย
อีกทั้งยังสร้างความฮือฮาด้วยการบอกว่าจะจ่ายเป็นเงินสกุลรูปีของอินเดีย หรือรูเบิลของรัสเซียก็ได้
ไม่ต้องง้อดอลลาร์ของสหรัฐฯ หรือยูโรของยุโรปอีกต่อไป
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ บอกกับเอส. ไจชันการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียว่า มอสโกรู้สึกขอบคุณสำหรับ “จุดยืนที่เป็นกลาง” ของนิวเดลีต่อวิกฤตยูเครน
ในขณะที่ตะวันตกพยายามโดดเดี่ยวรัสเซียเพราะสงคราม
“เราซาบซึ้งที่อินเดียรับฟังข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่ใช่แค่เพียงฝ่ายเดียว” ลาฟรอฟกล่าวระหว่างการเยือนเมืองหลวงของอินเดียเป็นเวลา 2 วันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐมนตรีรัสเซียบอกผู้สื่อข่าวหลังการประชุมกับรัฐมนตรีอินเดียว่า "ดูเหมือนโลกตะวันตกคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ทั้งๆ ที่รัสเซียเพียงแต่เริ่มพยายาม...ปกป้องผลประโยชน์ของตน"
ลาฟรอฟบอกว่ามอสโกกำลังศึกษาร่างสันติภาพของยูเครน
“เรากำลังหาคำตอบ” และยอมรับว่าการเจรจามี “ความคืบหน้าบางอย่าง”
การเยือนอินเดียของลาฟรอฟเป็นความเคลื่อนไหวที่มีความหมายมากกว่าปกติ
เพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่รัสเซียอาวุโสที่สุดที่ไปเยือนนิวเดลี นับตั้งแต่เครมลินสั่ง "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" ในยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
เพราะเป็นช่วงจังหวะที่มหาอำนาจตะวันตกพยายามเกลี้ยกล่อมอินเดียมาเป็นพวก
จุดยืนของอินเดียกรณีสงครามยูเครนเป็นเช่นไร?
จนถึงตอนนี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ก็ยังยึดมั่นในถ้อยแถลงที่เรียกร้องให้ยุติความรุนแรง
แต่อินเดียไม่ประณามการรุกเข้ายูเครนของรัสเซีย
ด้วยการงดออกเสียงในการลงมติสำคัญของสหประชาชาติเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ครั้งนี้
รัฐมนตรีอินเดียไจซานการ์บอกลาฟฟรอฟว่า การพบปะของทั้ง 2 เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่ "ยากลำยาก"
“อย่างที่คุณทราบ อินเดียสนับสนุนการแก้ไขความแตกต่างและข้อพิพาทผ่านการเจรจาและการทูตมาโดยตลอด” คือคำกล่าวที่ตอกย้ำถึงการ “ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” ของอินเดีย
จากอินเดีย ลาฟรอฟก็บินไปเป็นเวลา 2 วัน
จีนก็แสดงจุดยืนเรื่องสงครามยูเครนเหมือนอินเดีย นั่นคือไม่ประณาม และยิ่งกว่านั้นยังแสดงความแน่นแฟ้นกับรัสเซียมากกว่าอินเดียด้วยซ้ำ
ที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าการพบปะของ 2 รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและอินเดียคือ การจับมือของรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกับจีนในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ พบกับไจซานการ์ เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของการหยุดยิงทันทีในยูเครน รวมถึงการหวนคืนสู่การทูตและการเจรจา
การเยือนอินเดียของลาฟรอฟมาใกล้เคียงกับการมาถึงของรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ Liz Truss และ Daleep Singh รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
เห็นได้ชัดว่าพันธมิตรตะวันตกต้องการหว่านล้อมให้อินเดียทำอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนมากกว่านี้
แต่ก็ระแวดระวังมากที่จะไม่ถูกมองว่าเป็นการเข้ามาแทรกแซงกระบวนการตัดสินใจของนิวเดลี
ซิงห์บอกว่าสหรัฐฯ จะไม่ขีด "เส้นสีแดง" สำหรับการนำเข้าพลังงานของอินเดียจากรัสเซีย
แต่ย้ำว่าถ้าอินเดียจะทำอย่างนั้นก็ไม่ว่าอะไร เพียงขออย่าให้มีสัญญาณว่าจะมีการ “เร่งรัด” ให้เร็วกว่าที่ควรจะเป็น
นั่นหมายความว่าสหรัฐฯ และอังกฤษไม่อยากเห็นอินเดียแสดงความ “กระตือรือร้น” ที่จะตอบรับการแสดงความสนิทชิดเชื้อจากมอสโกมากและเร็วเกินไปนัก
รัฐมนตรีทรัสของอังกฤษบอกนักข่าวว่า เธอ "จะไม่บอกอินเดียว่าต้องทำอย่างไร"
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ พูดเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ว่าเดียเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม Quad ที่ "ค่อนข้างสั่นคลอน" ในการต่อต้านรัสเซีย
ไบเดนใช้คำว่า shaky กับอินเดีย
นั่นแปลว่าวอชิงตันมีความหงุดหงิดกับท่าทีของอินเดียที่ไม่ออกมาต่อต้านรัสเซียในเรื่องนี้อย่างแจ้งชัดแบบที่ไบเดนอยากเห็นและอยากได้ยิน
ไบเดนบอกว่า “ญี่ปุ่นแข็งแกร่งมาก เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ในแง่ของการจัดการกับการรุกรานของปูติน”
ในการประชุมออนไลน์ของผู้นำ Quad เมื่อต้นเดือนมีนาคม ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้อินเดียเข้าร่วมการประณามรัสเซียในกรณีนี้
แต่นายกฯ โมดีตอกย้ำว่า “ความจำเป็นต้องกลับไปสู่เส้นทางแห่งการเจรจาและการทูต"
เมื่อเดือนก่อนโมดีประชุมสุดยอดร่วมกับนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และสกอตต์ มอร์ริสัน ผู้นำออสเตรเลีย
หัวข้อเรื่องสงครามก็เป็นประเด็นหลักของการระดมสมองกันอีกครั้งหนึ่ง
รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียรายงานรัฐสภาว่า รัฐบาลกำลังตรวจสอบแง่มุมต่างๆ ของการค้าทวิภาคีกับรัสเซีย
รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน
เพื่อดูว่าจะเอาชนะ “ความท้าทาย” ได้อย่างไร
สะท้อนว่ามีการพูดจากับรัสเซียเรื่องการเพิ่มการค้ารูปี-รูเบิลเพื่อเป็นทางเลือกแทนกลไกการชำระเงินระหว่างประเทศที่ถูกจำกัดเพราะการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของตะวันตกต่อรัสเซีย
รัฐมนตรีไจซานการ์ชี้ว่า อินเดียนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย “น้อยมาก"
คือเท่ากับ 1% ของน้ำมันนำเข้าทั้งประเทศ
รัสเซียได้เสนอขายน้ำมันดิบให้กับอินเดียในราคาลดพิเศษ
สงคราม, น้ำมัน, มิตรภาพนั้นสามารถผันแปรได้ตามระดับการปรับเปลี่ยนของสมการผลประโยชน์ของแต่ละประเทศจริงๆ
นี่คือสัจธรรมของโลกที่ไม่อาจปฏิเสธได้!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ