เมื่อทหารรัสเซียถอนตัวออกจากเมืองรอบๆ เมืองหลวงเคียฟของยูเครน ความจริงที่โหดร้ายก็ปรากฏ
นั่นคือการสังหารพลเมืองชาวยูเครนอย่างโหดเหี้ยมเป็นจำนวนมาก
ถนนชานเมืองที่ Bucha ทางตะวันตกของเมืองหลวงกลายเป็นหนึ่งในสุสานใหญ่แห่งสงคราม
ทั้งสุสานของเหยื่อการสังหารโหดและสุสานรถถังรัสเซียที่ถูกทำลาย
แค่เพียง 2-3 วันหลังจากกองกำลังรัสเซียชุดแรกเคลื่อนเข้าสู่ยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทหารรัสเซียก็ต้องเผชิญกับกองกำลังยูเครนที่ต่อต้านการรุกคืบอย่างดุเดือด
ผลก็คือคอลัมน์ของรถถังรัสเซียและหน่วยสนับสนุนรถหุ้มเกราะที่เคลื่อนผ่านเมือง Bucha ไปยังเมือง Kyiv ถูกถล่มโจมตีอย่างรุนแรง
เป็นสัญญาณแรกๆ ของการหยุดชะงักของแผนการบุกยึดกรุงเคียฟของรัสเซีย
ที่เดิมอาจจะวางแผนให้ “เผด็จศึก” ให้ได้ภายใน 3-7 วัน
แต่เอาเข้าจริงๆ ทหารรัสเซียก็ต้องเผชิญกับการต่อต้านที่มีประสิทธิภาพสูงเกินกว่าที่เหล่าบรรดาผู้บัญชาการเหล่าทัพรัสเซียได้ประเมินเอาไว้
นักข่าวหลายชุดรุดเข้าเมือง Bucha ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา...ทันทีที่ทหารรัสเซียคนสุดท้ายถอนตัวออก
รัสเซียบอกว่าการถอนทหารออกจากบริเวณรอบๆ กรุงเคียฟเป็นไปตามแผนเดิมอยู่แล้ว เพราะไม่เคยคิดจะยึดเมืองหลวงของยูเครนตั้งแต่ต้น
ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ด้านยูเครนเองอ้างว่าความจริงก็คือการต่อต้านของยูเครนที่ดุเดือดและจัดระบบอย่างดี นั่นคือเหตุผลหลักที่ทำให้ทหารรัสเซียถูกสกัดไว้นอกเมืองหลวง
นักข่าวที่เข้าไปถึงเมือง Bucha รายงานว่า ดูเหมือนทหารรัสเซียที่ถอนตัวออกจากเมืองนี้จะไร้ความปรานีต่อพลเมืองที่นี่โดยสิ้นเชิง
เพราะเห็นศพของประชาชนเกลื่อนถนนทั้งสองข้าง หลายภาพสยดสยองเกินกว่าที่จะเผยแพร่ในสื่อสาธารณะด้วยซ้ำ
ณ ถนนสายหนึ่ง เห็นอย่างน้อย 20 ศพนอนอยู่ทั้งสองข้างทาง
หลายคนถูกไพล่หลัง แสดงว่าถูกยิงขณะที่ไม่มีทางต่อสู้และป้องกันตัวเอง
มาพร้อมกับข่าวอันน่าตระหนกจากนายกเทศมนตรีที่นี่ว่าในไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ฝังอย่างน้อย 280-300 คนในหลุม หลังพบร่างไร้ชีวิตของชาวบ้านในย่านนั้น
ส่วนคนที่โชคดี ยังมีชีวิตรอดมาได้นั้นก็อยู่ในสภาพที่หวาดกลัวและหิวโหย
ผู้หญิงอายุมากคนหนึ่งบอกนักข่าวว่า “นี่เป็นขนมปังชิ้นแรกที่เรามีกินใน 38 วัน”
เธอชื่อมาเรีย มีสีหน้าหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา
เธอจ้องดูถุงพลาสติกที่มีขนมปังที่ดูด้วยมือที่สั่นเทา
รัฐบาลยูเครนกล่าวว่า มีหลักฐานมากมายที่ยืนยันว่าได้เกิดอาชญากรรมสงครามโดยฝีมือของกองกำลังรัสเซียในพื้นที่ตั้งแต่พวกเขารุกคืบเข้ามาใกล้หวังจะปิดล้อมกรุงเคียฟในวันแรกๆ
เมื่อวันเสาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครนแจ้งว่า กองกำลังของยูเครนได้ยึดพื้นที่ทั้งหมดรอบๆ กรุงเคียฟ เมืองหลวงกลับคืนมา หลังจากที่รัสเซียถอนกำลังออกจากที่นั่น
ประธานาธิบดีเซเลนสกีพูดกับประชาชนผ่านวิดีโอว่า รัสเซียได้ปรับแผนการรุกรานยูเครนอีกครั้งหลังจากที่พลาดพลั้ง ไม่อาจจะบรรลุเป้าหมาย “พิชิตยูเครนทั้งประเทศ” แบบสายฟ้าแลบได้
แผนยุทธการที่ปรับใหม่ของรัสเซียคือการพยายามยึดทางตอนใต้ของยูเครน รวมถึงภูมิภาค Donbas ทางตะวันออก
เซเลนสกีบอกว่ายูเครนยังไม่ได้รับระบบต่อต้านขีปนาวุธหรือเครื่องบินจากพันธมิตรตะวันตกเพียงพอ
ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพบปะเจรจาในระดับสูงสุดแบบตัวต่อตัวระหว่างเซเลนสกีกับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียที่ตุรกี
แต่ยังไม่มีการกำหนดวันเวลาที่แน่นอนแต่อย่างใด
เป็นไปได้ว่าปูตินกำลังรอจังหวะหรือซื้อเวลาเพื่อให้ทหารรัสเซียยึดครองด้านตะวันออกและทางใต้ของยูเครนให้สำเร็จเสียก่อน จึงจะยอมเจรจาต่อรองกับเซเลนสกี
หากจะอ่านเกมของปูตินในยามนี้คงจะเป็นการประเมินสถานการณ์การสู้รบของรัสเซียในยูเครนใหม่
ท่ามกลางการคาดการณ์ของฝ่ายข่าวกรองทางตะวันตกว่าปูตินมีความปรารถนาที่จะให้รัสเซียสามารถประกาศ “ชัยชนะ” ในยูเครนได้ ณ วันที่ 9 พฤษภาคมนี้
ทำไมต้องเป็นวันที่ 9 พฤษภาคม?
เพราะนั่นคือ “วันแห่งชัยชนะ” หรือ Victory Day ที่รัสเซียสามารถชนะสงครามกับนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 1945 หรือเมื่อ 75 ปีก่อน
เป็นวันที่ปูตินต้องการจะตอกย้ำถึงความสำเร็จของกองทัพรัสเซียในประวัติศาสตร์...และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ใน พ.ศ.นี้ต่อยูเครน
ที่เขาอ้างว่าได้ถูกอิทธิพลของ “นาซียุคใหม่” หรือ Neo-Nazis มาครอบงำเพื่อจะบ่อนทำลายความมั่นคงของรัสเซีย
ทั้งๆ ที่ตัวเซเลนสกีเองเป็นยิว ซึ่งเป็นเหยื่อการสังหารโหดของนาซีเยอรมันในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เอง
การ “สังหารหมู่” อย่างโหดเหี้ยมที่เมือง Bucha ใกล้กรุงเคียฟจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการสงครามยูเครนครั้งนี้อย่างมีนัยสำคัญยิ่ง
เพราะเริ่มมีการเรียกร้องไปยังประเทศตะวันตกว่านี่เป็นหลักฐานชัดแจ้งแล้วว่ายูเครนต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงจังและเร่งด่วนจากตะวันตก
และรัสเซียจะต้องตอบคำถามว่านี่คือ “อาชญากรรมสงคราม” ที่เป็นรูปธรรมที่สุดใช่หรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ