ถ้ายึดกันตามปฏิทิน กรมปทุมวัน หลังเสร็จสิ้นการแต่งตั้งวาระเดือนเมษายน หรือวาระกลางปี ต่อไปก็จะเป็นคิวแต่งตั้ง ผบ.ตร. แทน ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2565 ในช่วงราวๆ ปลายเดือนสิงหาคม
โดยแคนดิเดตชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. ครั้งนี้มี 3 ราย เต็ง 1 บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. (นรต.38) เกษียณปี 2566 เต็ง 2 บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (นรต.40) เกษียณปี 2567 และเต็ง 3 บิ๊กหิน-พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณปี 2566
แต่ดูเหมือนตอนนี้เต็ง 2 อย่าง บิ๊กรอย เริ่มมีกระแสแรงมากขึ้น เพราะนอกจากผลงานด้านการปราบปรามยาเสพติดที่ได้รับมอบหมายกำลังเตะตาต้องใจผู้มีอำนาจแล้ว ผู้สนับสนุน ที่มีกำลังภายในสูงก็ขยับทิ้งน้ำหนักมามากขึ้น หลังจากวาระเดือนเมษาทุกอย่างไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ชื่อ บิ๊กรอย ดูจะไฉไลตามกลยุทธ์ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ศึกชิงเก้าอี้ครั้งนี้จึงน่าลุ้น น่าติดตามกันยาวๆ
เปิดตัวซะสวยหรูตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม บิ๊กดอน-พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ที่ได้รับมอบหมายจาก บิ๊กอุ้ย-พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ให้ทำหน้าที่โฆษกแถลงข่าวคดีการเสียชีวิตของ แตงโม น.ส.นิดา หรือภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์ นักแสดงสาวที่ตกเรือเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา จนสร้างความฮือฮาช่วงวันเปิดตัวที่ บิ๊กดอน ประกาศกลางห้องแถลงข่าว หลังถูกสื่อมวลชนซักถามประเด็นนายพลตำรวจอักษรย่อ น มีการขายข้อมูลลับทางคดีให้แก่บุคคลภายนอก "ผมสอบได้ที่หนึ่งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเป็นหัวหน้านายร้อยตำรวจ ผมมานั่งอยู่ตรงนี้ ผมเชื่อว่าเกียรติยศผมมีพอ ขอให้มั่นใจในการทำคดีนี้" แต่นับจากวันที่ประกาศใช้เกียรติเป็นเดิมพันคดี จนถึงป่านนี้ผ่านมาจะครบเดือนกับคดีแตงโม พนักงานสอบสวนยังไม่สรุปสำนวนคดี แล้วก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเห็นตา โฆษกดอน ออกมาแถลงข่าวคดีแตงโมอีกเลย มีเพียง บิ๊กอุ้ย ที่ให้สัมภาษณ์ทั้งประเด็นมีผู้ไปร้องให้คดีแตงโมเป็นคดีพิเศษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือประเด็นอื่นๆ ก็เห็น บิ๊กอุ้ย ฉายเดี่ยว จนงง สรุปแล้วตั้ง โฆษกคดีแตงโม มาเพื่อ?
จะบอกว่าคดีการเสียชีวิตของ แตงโม ใกล้จบ ใกล้สรุปสำนวนการสอบสวน ไม่มีข้อสงสัย ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะต้องให้ ตำรวจ หรือ บิ๊กดอน ในฐานะโฆษกคดีนี้ออกมาชี้แจงแถลงไขต่อสังคมอีกแล้วก็น่าแปลก เพราะดูเหมือนยิ่งนานวันที่ยังไม่สรุปสำนวนคดี ประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ดันผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และดู ตำรวจ เลือกที่จะนิ่ง เลือกที่จะไม่ตอบโต้ใดๆ ทั้งกับบุคคลหรือโซเชียล ก็เลยยิ่งทำให้ บิ๊กดอน ไม่มีบทบาทเข้าไปใหญ่ ยิ่ง ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ออกมาย้ำ คดีแตงโมอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนสรุปและยังไม่เรียบร้อย รอให้เอกสารจากผู้เชี่ยวชาญครบก่อนจึงจะสรุปได้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างนอกจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งฝากให้ทุกคนได้คิด “จะฟังอะไร จะตัดสินอะไร ให้ดูทุกองค์ประกอบ ต้องสอดคล้องไปด้วยกันได้ ถ้ามันขัดแย้งก็ไม่ใช่ อย่าเอาแต่สนุกสนาน" นั่นก็ดูเหมือนเป็นสัญญาณให้ตำรวจตั้งหน้าตั้งตาทำคดีอย่างเดียว ไม่ต้องออกมาปริปากใดๆ ต่อสังคม ให้เกิดประเด็น ให้สังคมต่อยอดคำอธิบายจนทุกอย่างวุ่นวายไปหมด
เป็นความสูญเสียอีกครั้งของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหตุการณ์ชุดลาดตระเวน บนถนนบาเจาะ-เขื่อนบางลาง หมู่ที่ 4 ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ถูกกับดักระเบิด ทำให้ ส.ต.อ.วิวัฒน์ รักชาติ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา กับ ส.ต.ต.ณัชพล พรหมณี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา เสียชีวิต ส่วน ส.ต.ท.ซูฟรีย์ นอระพา ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ยะรม ได้รับบาดเจ็บ และ ส.ต.ต.อัสราวุฒิ ราป้อม ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตาได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งเหตุการณ์ ด.ต.ทวีทรัพย์ วาณิชชาติ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ ไล่ตามรถต้องสงสัยประสบอุบัติเหตุชนราวสะพานต่างระดับตัดถนนเพชรเกษม พระประโทน-บ้านแพ้ว ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต และมี ส.ต.ต.ทศพร สุสัณกุลธร ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย ผบ.ปั๊ด ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวที่เกิดการสูญเสียและได้รับบาดเจ็บ พร้อมให้กองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล เร่งดำเนินการปูนบำเหน็จและสิทธิต่างๆ ให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่
เข้าฤดูกาล เกณฑ์ทหาร ตามวงรอบปกติ แม้ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลยอดความต้องการทหารกองประจำการต่อสาธารณชน แต่ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนคนตามภารกิจที่ดำรงอยู่ การประชาสัมพันธ์ของกองทัพบกส่วนใหญ่ เน้นหนักไปที่การเชิญชวนชายไทยมาสมัครเป็นทหารเพื่อลดยอดการจับใบดำ-ใบแดง งดสีสันคัลเลอร์ที่จะกระทบต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ หลังจากผ่านพ้นวันที่ 20 เม.ย.ไปแล้ว จะเข้าสู่ช่วงทหารใหม่เข้ารายงานตัวและเข้าสู่การฝึกตามลำดับต่อไป ในส่วนของ “กองทัพเรือ” ดันมีข่าวกระหึ่มถึงการปรับแนวทางฝึกทหารใหม่ที่ยังทำกันไม่เสร็จ กล่าวคือจากปี 2562 ที่ บิ๊กลือ-พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ สั่งยุบ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ เพราะมองว่าเป็นแดนสนธยา ส่งทหารใหม่แยกฝึกตามหน่วย มาปี 2565 บิ๊กเฒ่า-พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. มีนโยบายกลับไปใช้การฝึกรวมการแบบเดิม
ร่องรอยการ ขุดรากถอนโคน ล้างระบบ กองทัพ...ลือ นอกจากจะเห็นได้จากการปรับย้ายนายทหารในโผที่ผ่านมาแล้ว ยังเห็นจากการขยับปรับแก้ไขในหลายเรื่องที่บิ๊กลือทำไว้ การที่ ผบ.ทร.ส่ง บิ๊กโอ๋-พล.ร.ท.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ มานั่งเป็นเจ้ากรมยุทธศึกษา ทร. ก็เพื่อภารกิจในการรื้อฟื้น ศูนย์ฝึกทหารใหม่ ขึ้นมา แต่การจะโอนอัตรากรมรบพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ที่เป็นอัตราเดิมของ ผบ.ศูนย์ฝึกทหารใหม่กลับมา คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการเดินหน้า กรมมนุษย์กบ เดินหน้ามาไกลแล้ว แต่ถึงอย่างไรเป้าหมายล้างคราบไคลคงต้องการทำให้สำเร็จ แต่การตัดสินใจต่างๆ ก็คงต้องระมัดระวัง ด้วยการดูว่าจะใช้วิธีไหน และจะทันกำหนดเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามาหรือไม่ และเป็นช่วงเวลาพิสูจน์ฝีมือ “บิ๊กโอ๋” แคนดิเดต 5 เสือ ทร.ในอนาคต ว่าจะเด้งรับคำสั่งได้ผลงานไปตุนไว้ที่หน้าตัก ตีคู่มากับ บิ๊กดุง-พล.ร.ท.อะดุง พันธุ์เอี่ยม เจ้ากรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทร. ที่อยู่ข้างกาย “บิ๊กเฒ่า” เกือบทุกงานหรือไม่
แต่ที่ต้องลุ้นคือ 2 โครงการใหญ่ ที่กำลังมีเรื่อง ฮอต รับเดือน เม.ย. ไล่ตั้งแต่โครงการจัดหา เรือดำน้ำจีน ที่บริษัทยังไม่สามารถเจรจาหาเครื่องยนต์เยอรมันมาใส่ได้ตามสัญญา แว่วว่าตัวแทนของรัฐวิสาหกิจจีนที่ทำสัญญากับ ทร. จะเดินทางมาเจรจา และมีแนวโน้มว่า “ยาก” ที่จะได้เครื่องยนต์เยอรมัน อยู่ที่ว่า ทร.จะยกเลิกสัญญาแล้วรับเงินงวดประมาณ 7 พันล้านคืน และใช้เงินที่ได้รับคืนไปซ่อมปรับคืนสภาพเรือดำน้ำฟรีมือสอง 2 ลำที่จีนจะให้ไทยตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีโครงการจัดหา อากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV ที่เดิมล็อกไว้ที่ประเทศจีน ในที่สุดก็มีข่าวยืนยันหลายทางว่า ทร.เลือกจากอิสราเอล แต่ต้องผ่านขั้นตอนคณะกรรมการมาตรฐานยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมอีกชั้น ที่อาจมี เซอร์ไพรส์ เพราะจะว่าไปเรื่องอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ ในที่สุดอาจต้องรอไฟเขียวจากรัฐบาล
สรุปจบ “ท็อปนิวส์” กับกองทัพบกจูบปาก ทำงานร่วมกันผลิตข่าวต่อไป หลังจากเกิดปมปัญหาการนำเสนอข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน จน บิ๊กตี๋-พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 ต้อง หลุดเก้าอี้ เพื่อจบปัญหา โดยที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.สะบัดปากกาลงนามให้พ้นจากตำแหน่งด้วยตนเอง ตามมาด้วยคำแถลงของ ทบ.ขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น พร้อมสัญญาว่าจะดำรงแนวทางสร้างความสมดุลในการนำเสนอข่าว เป็นทีวีสาธารณะเพื่อประชาชนและความมั่นคง ท่ามกลางควันไฟเบื้องหลังที่อ้างถึงเหล่าบรรดา “ลุงๆ” เข้ามาล้วงลึก จนในที่สุดนำไปสู่การตัดสินใจตัด “อวัยวะ” เพื่อรักษา “ร่างกาย” ครั้งนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สามารถ' จนมุมเชียงราย! ตำรวจรวบส่งตัวดีเอสไอ
นักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ได้ควบคุมตัวนายสามารถแล้ว
หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน
นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด
4 กลุ่มชั่วน่ากลัวเป็นนักหนา กลุ่มที่ 5 ยิ่งน่าสยอง
ณ เวลานี้ หลายคนมองประเทศไทยด้วยความห่วงใยว่า ประเทศไทยของเราที่เป็นที่ชื่นชมของชาวโลก ทั้งการลงทุน การทำมาค้าขาย การเข้ามาพำนักยามชรา และการมาท่องเที่ยว
ลิ้นงู...ที่อยู่ในปากงู!!!
ถึงแม้นจะพะงาบๆ อยู่ห่างๆ...ไม่มีโอกาสได้ลงลึก เจาะลึก ในรายละเอียด ด้วยเหตุเพราะสุขภาพ สังขาร ร่างกาย และอาจด้วยความห่างเหิน ห่างหาย กับใครต่อใครมานานแสนนาน
ตั้ง 'นายพัน' สีกากีเริ่ม
อะไรจะเร็วขนาดนั้น! โผแต่งตั้ง "ตำรวจ" ระดับ "นายพันสีกากี" เริ่มขยับนับหนึ่งกันแล้ว ทั้งๆ ที่ระดับ "นายพล" ล็อตแรก ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)
ลัคนาตุลกับเค้าโครงชีวิตปี2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีที่มีระยะแตกแยกพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก-การเงิน