ศึกวันทรงชัย 2 เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!!

ส่วนหญิงเหล็ก รสนา โตสิตระกูล คว้า เบอร์ 7 มาครอง ตามด้วยตัวเก็งที่ชักเริ่มๆ ตัวเกร็ง ขึ้นมามั่งแล้ว นั่นก็คือบุรุษผู้กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี คุณน้า ชัชชาติ ที่จับได้ เบอร์ 8 ส่วนอดีตผู้บังคับฝูงบินที่ร้านขนมจีนยายเป้ากระเด้าหม้อส่งเข้าประกวด อย่าง ศิธา ทิวารี ไล่ตามมาด้วย เบอร์ 11 ฯลฯ...

------------------------------------------------

งานนี้...ก็เลยพอจะมีสีสัน บรรยากาศ น่าตื่นตา ตื่นใจ และตื่นเต้ลล์ล์ล์ ได้พอสมควร เพราะประเภทที่เคย นอนมา ตามโผ ตามผลสำรวจของสำนักไหนต่อสำนักไหน อย่างคุณน้า “ชัชชาติ” เอาไป-เอามาแล้ว ย่อมมีสิทธิ์ แผ่วปลาย ได้เหมือนกัน หรืออาจต้องนิมนต์พระมาสวดนำหน้า ในช่วงโค้งสุดท้าย โค้งวัดเบญจะ หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจสรุปได้ เพราะบรรดา เบอร์ ต่างๆ ต่างเริ่มออกแรงเร่งสปีด เริ่มซอยยิกๆ กันมั่งแล้ว ไม่ได้คิดจะปล่อยๆ ลอยชาย เหมือนช่วงที่ยังไม่ได้รับสมัคร ยังไม่ได้จับเบอร์ อย่างเช่นหญิงเหล็ก รสนา โตสิตระกูล ที่คลอดมาตรการและนโยบายออกมาถึง 8 ข้อ แบบสดๆ ร้อนๆ ที่พอจะสรุปรวมความได้ว่า ถ้าลอง ไม่โกง ซะอย่าง!!! ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมมีอันหายห่วง หมดกังวล ในทุกๆ เรื่อง ทุกๆ กรณี...

-------------------------------------------------

ส่วน ผู้ว่าฯ อัศวิน และรองผู้ว่าฯ สกลธี ก็คงประมาทมิได้...เพียงแต่บรรดาเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ กทม. อาจต้องสับสนนิดๆ หน่อยๆ ว่าจะแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย ไปช่วยใครกันดี??? เพราะขณะที่ ผู้ว่าฯ อัศวิน นั้นไม่มี พรรค มีแต่ พวก แต่รองผู้ว่าฯ สกลธี ก็น่าจะยังพอมีฐานคะแนน ช่วงครั้งที่ยังอยู่พรรคประชาธิกัด หลงเหลืออยู่หรือไม่ อย่างไร ก็ยังไม่แน่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือฐานเสียงประชาธิกัดอย่างเป็นทางการ คงหนีไม่พ้นต้องหันไปเทคะแนนให้กับ ด๊อกเตอร์เอ้ กันเป็นหลัก ดังนั้น...เมื่อบวกกับฝีไม้ลายมือ ขีดความสามารถ วิสัยทัศน์ มโนทัศน์ และจินตนาการที่ยาวไกลไปถึง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ โน่นเลย ไม่ว่าใครก็ใคร ก็คงมิอาจละสายตาจาก ด๊อกเตอร์เอ้ ได้โดยเด็ดขาด...

----------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้...ตัวเก็ง อย่างคุณน้า ชัชชาติ ยังไงๆ ย่อมน่าจะ ตัวเกร็ง ขึ้นมามั่งไม่มาก-ก็น้อย จะแค่โชว์กล้าม โชว์การหิ้วถุงแกง แบบเก่าๆ เดิมๆ คงมิได้อีกต่อไปแล้ว อย่างน้อย...ก็น่าจะฝึกฝน ฝึกหัด ลีลาการ ล้วงท่อ จากอดีตผู้ว่าฯ หรือจากหนึ่งในทีมงานของตัวเอง อย่าง ด๊อกเตอร์พิจิต เอาไว้มั่ง ว่าจะควานยังไง จะถลกแขนเสื้อแบบไหน อย่างไร มันถึงจะดูเก๋ ดูเท่ ไม่ต้องไปนิมนต์พระมาสวดนำหน้า ก่อนแบกขึ้นเมรุ กันในช่วงโค้งสุดท้าย...

-------------------------------------------------------

อีกทั้งโดยฐานเสียง ฐานคะแนน ก็อาจถูกหั่น ถูกแบ่ง โดยการชนโน่น ชนนี่ ของ วิโรจน์ ชนดะ ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ โดยเฉพาะฐานเสียงประเภท กะหรี่สนามหลวง ที่ย่อมต้องอยากให้มีการ ทวงคืนสนามหลวง เพื่ออาศัยเป็นพื้นที่ในการประกอบการ ประกอบกาม ได้แบบสบายๆ ไม่ก็บรรดาคนรุ่นใหม่ประเภทเกลียดเจ้า ไม่เอาเจ้า ทั้งหลาย โดยเฉพาะที่เคยผ่านการ เผาไทย กันมาแล้วก่อนหน้านี้ หรือก่อนหน้าที่คุณน้า ชัชชาติ จะทิ้งตำแหน่ง ฐานะ ว่าที่นายกฯ แห่งพรรคเผาไทยมามุ่งตรงต่อการลงรับสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.กันแทนที่...

------------------------------------------------------

หรือแม้แต่อดีตผู้บังคับฝูงบิน อย่าง ศิธา ทิวารี ก็เถอะ...การตัดสินใจแยกตัว แยกห่าง ออกมาจาก ครอบครัวเผาไทย แล้วหันมาเดินตามคุณเจ๊ สุดาหน่อย ไปรับประทานขนมจีนยายเป้ากระเด้าหม้ออย่างสุดแสนเอร็ดอร่อย ก็ย่อมส่งผลให้ฐานเสียง ฐานคะแนน คร่อมกันไป-คร่อมกันมา กับฐานคะแนนของคุณน้า ชัชชาติ อย่างมิพึงต้องสงสัย หรือในขณะที่ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ อย่าง อัศวิน, สกลธี และ ด๊อกเตอร์เอ้ อาจต้องแบ่งคะแนน ตัดคะแนน กันเอง ตัวเก็งและตัวเกร็ง อย่างคุณน้า ชัชชาติ ก็อาจต้องถูกหั่น ถูกแบ่งคะแนนเสียง ไม่ว่าโดย วิโรจน์ ชนดะ หรือโดย ศิธา กระเด้าหม้อ ได้เช่นกัน ดังนั้น...อะไรที่ดู นอนมา แบบสบายๆ อาจต้องเจอ พระ ในช่วงโค้งสุดท้ายได้เสมอๆ...

-----------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้... แม้แต่ประเภท ม้านอกสายตา อย่างหญิงเหล็ก รสนา โตสิตระกูล ก็ย่อมประมาทมิได้เช่นเดียวกัน เพราะโดยลูกฮึด ลูกบ้า ลูกเอาจริง-เอาจัง ของผู้สมัครรายนี้ ไม่ว่าใครก็ใครคงมิอาจปฏิเสธได้โดยเด็ดขาด ถึงความยืนหยัด มั่นคงถาวร อย่างชนิดแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด การโรมรัน พันตู ระหว่างเบอร์ 1 เบอร์ 3 เบอร์ 4 เบอร์ 6 เบอร์ 7 เบอร์ 8 และเบอร์ 11 จึงเป็นอะไรที่อาจเรียกเสียงซู้ดซ้าด ซี้ดๆ ซ้าดๆ ขึ้นมาได้มั่ง แม้จะ แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ กันมาประมาณ 7 ปี 8 ปีมาแล้วก็ตาม ดังนั้น...ใครจะมี รสนิยม แบบไหน อย่างไร คงต้องหันไป เขย่าประชาธิปไตยภายในมือของท่าน เอาเองก็แล้วกัน...

--------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Charles M. Schulz...“There is no greater burden than great potential.- การมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่นั้น เป็นภาระอันหนักหน่วงที่มิมีสิ่งใดเสมอเหมือน...”

-----------------------------------------------------