หลังจากเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พรรคเศรษฐกิจไทยประชุมเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคไปเรียบร้อย โดยมี "บิ๊กน้อย" พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค และมี "ผู้กองนัส" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เป็นเลขาธิการพรรค
ขณะที่วันก่อนมีการแต่งตั้ง "โฆษกพรรค" โดยมอบหมายให้ "ดร.เอ" สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 8 อ.สัตหีบ มารับภารกิจดังกล่าว
หลายคนเซอร์ไพรส์ เพราะ "ดร.เอ" ไม่เคยออกมาตอบโต้ประเด็นทางการเมือง เหตุใดจึงได้รับภารกิจโทรโข่งพรรคเศรษฐกิจไทย แต่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร หากใครได้ติดตามเจ้าของคอนเซ็ปต์ "ผู้แทนบ้านบ้าน" มาสักระยะ จะรู้ว่าเป็น "คนมีของ" พูดจาคล่องแคล่ว ฉะฉาน
เป็น ส.ส.รุ่นใหม่ที่ลุกขึ้นอภิปรายบ่อย โดยเฉพาะการตั้งกระทู้สอบถามนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่นๆ เพื่้อแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน
นอกจากนี้ ครั้งหนึ่งยังเคยอภิปรายการจัดทำงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ก่อนจะมีประโยคเด็ดที่ใครหลายคนจำได้ "กองทัพสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่กองทัพปกป้องสิ่งที่จะสร้างได้ให้กับประเทศ"
"ดร.เอ" อาจไม่ได้เป็นทหาร แต่มีดีเอ็นอีของท็อปบูตอยู่เต็มตัว เพราะคุณพ่อคือ พล.ร.ท.จำรัส เผือกประพันธุ์ เป็นอดีตนายทหารของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และเป็นเพื่อนสนิท ตท.11 ของ "บิ๊กน้อย" ขณะเดียวกันยังนั่งเป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎรด้วย
สองบ้านนี้มีความสนิทสนมกัน ก่อนหน้านี้เจอกันทุกปี "ดร.เอ" เรียก พล.อ.วิชญ์ ว่า "ลุงน้อย" ทุกคำ ขณะที่เรื่องตำแหน่งโทรโข่งพรรคเศรษฐกิจไทย "ลุงน้อย" ก็บอก "หลานเอ" ไว้ล่วงหน้ามาเป็นเดือนแล้ว
"บิ๊กน้อย" ไม่ได้เอา "ดร.เอ" มาฟาดฟันแบบสายบู๊ แต่ต้องการใช้ความรู้ความสามารถมาเป็นกระบอกเสียงให้กับพรรค
เป็นสายข้อมูล แต่เดือดในเนื้อหา.
ฌ.เฌอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใช้ซื้อข้าวมาแล้ว
ตั้งแต่ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม อดีตที่ปรึกษาของนายกฯ หายไปด้วย
อ่อนกว่าวัย
ไม่น่าเชื่อในวันที่ 13 ม.ค. 2568 รัฐมนตรี 17 สมัย อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข จะมีอายุครบ 70 ปี เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนกับคนอายุประมาณ 50 ปีเศษเท่านั้น
ขอติดทีมชาติไทย
นักการเมืองไทยรุ่นเก๋าหลายคนบ่นอุบ ยอมรับว่าเปลี่ยนยุคไปไว มีสส.หน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่วนสส.รุ่นใหญ่นับวันก็จะมีแต่คนโบกมืออำลาวงการ ส่วนใครที่ยังใจรักก็อยู่ทำงานต่อแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็ออกไปนั่งดูอยู่ห่างๆ แทน
'ลูกชิ้นปลาหมอคางดำ'
เริ่มแล้วกับงานวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ทางรัฐสภาได้จัดงานภายใต้คอนเซปต์ "กินลม ชมสภา" สู่รัฐธรรมนูญในฝัน ระหว่างวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ซึ่งในวันแรกบรรยากาศสดใส เหล่าข้าราชการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งร้านขายของกันภายในงาน
แชร์กันใส่เครื่องแต่งตัว
ว่าด้วยเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ของผู้นำประเทศ อย่าง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะเน้นใส่ผ้าไทยตามสไตล์เจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์
ถามเรื่องวัดแล้ว
เป็นผู้ใหญ่ใจดี สำหรับ อ.ชู-ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายประจำรัฐบาลและประจำค่ายเพื่อไทย