เพราะใจบอดหรือจงใจบิดเบือน

เมื่อมีการจัดกิจกรรมชุมนุมของพรรคการเมืองที่ทำให้เกิดการดรามากันทั้งเมืองเรื่องการสืบทอดอำนาจ เรื่องพันธุกรรม เรื่อง DNA และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวันชุมนุม สิ่งที่ผู้คนได้พบเห็นด้วยความประหลาดใจก็คือ

พรรคที่ว่านี้เขามีทั้งหัวหน้าพรรคและหัวหน้าครอบครัว และกิริยาที่คนคนหนึ่งปฏิบัติต่ออีกคนหนึ่งนั้น ผู้คนก็ตีความกันว่า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งทางพรรคดังกล่าวนี้จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคหรือหัวหน้าครอบครัวให้เป็นนายกรัฐมนตรี หรืออาจจะเสนอชื่อทั้งสองคน เพราะกฎหมายให้เสนอได้ถึงสามคน เมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องราวต่างๆ

ที่เป็นเหมือนบทละครก็เกิดขึ้นมากมายหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการสืบทอดอำนาจ เพราะในการเสวนาของกิจกรรมครั้งนี้สิ่งที่ประชาชนได้รับรู้จากถ้อยคำของหัวหน้าพรรคก็คือ เรื่องราวของ “พันธุกรรม” หรือในภาคภาษาอังกฤษก็คือ DNA คนไทยเคยเจอเรื่องพันธุกรรมมาแล้วครั้งหนึ่ง นั่นคือ “พี่คิด น้องทำ” และปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้คนไทยสยดสยองกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วรอบนี้จะเกิดปรากฏการณ์ “พ่อคิด ลูกทำ” อีกหรือไม่ และถ้าหากมันเกิดจริงขึ้นมา คนไทยจะต้องเจอกับอะไร ประเทศไทยของเราจะเป็นเช่นไร

ดูอาการนอบน้อมที่หัวหน้าตำแหน่งหนึ่งมีให้แก่หัวหน้าอีกตำแหน่งหนึ่ง คนเขาก็มองออกว่าสองตำแหน่ง “หัวหน้า” นี้ใครใหญ่กว่ากัน แม้จะมีความพยายามว่าเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ที่จะพูดต่อจากตน เหมือนการอาราธนาพระขึ้นเทศน์บนธรรมาสน์ ก็ยากที่คนจะเชื่อ ที่สำคัญคือมีคนพยายามอธิบายมากกว่าหนึ่งคน โดยที่คนหนึ่งบอกว่าเป็นการให้เกียรติเหมือนนิมนต์พระขึ้นธรรมาสน์ แต่อีกคนหนึ่งบอกว่าเป็นการแสดงอาการของการส่งมอบงาน ทำไมหนอ คิดจะอธิบายในลักษณะของการแก้ตัวทั้งที ทำไมไม่ปรึกษากันก่อน แล้วพูดให้ตรงกัน ความน่าเชื่อถือจะได้พอมีอยู่บ้าง แต่เมื่อสองคนพูดจาไม่ตรงกันเช่นนี้แล้วจะให้ประชาชนเชื่อใคร คนหนึ่งพูดจริง อีกคนหนึ่งพูดโกหก หรือว่าจริงๆ แล้วโกหกทั้งคู่ เพราะถ้าหากอนุมานจากการ์ตูนการเมืองในหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับ จะมีภาพ “พ่อกับลูกอยู่ชั้นบน และมีหมาชะเง้ออยู่ข้างล่าง” ที่แสดงถึงความเป็นคนละชั้น หรือภาพ “ฝูงหมาอยู่บนพื้น เป็นหมาขี้เรื้อน หมาอดโซ หน้าตาหน้าเกลียด กับหมาคุณหนูสวยงามสง่าอยู่บนแท่น” แบบนี้จะให้เราเข้าใจเป็นอื่นได้อย่างไร นอกจากความเป็นลูกเจ้าของคอก กับหมาในคอก ตามคำพูดของพ่อที่มีฐานะเป็นเจ้าของคอกหมา ที่เขาพูดเองว่าเขาเลี้ยงหมาไว้หลายตัว

พลันที่เธอเข้าสู่แวดวงทางการเมือง เรื่องอดีตที่ไม่งดงามของเธอก็ถูกนำออกมาเผยแพร่เตือนใจให้ประชาชนเก็บเอาไปคิดว่าคนเช่นนี้หรือจะมาเป็นผู้นำประเทศในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร แต่เธอก็ไม่ได้สนใจไยดี มิหนำซ้ำเธอยังใช้ยุทธศาสตร์ในการนำเสนอภาพลักษณ์ของคนมีวิสัยทัศน์ที่ใส่ใจปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ แต่การนำเสนอของเธออาจหลอกสาวกของเธอได้ แต่ไม่อาจหลอกคนส่วนใหญ่ที่ใจไม่มืดบอดได้ เธอบอกว่าพ่อเธอต้องระเห็จออกจากประเทศเพราะรัฐประหาร ผิดแล้วจ้ะ พ่อของเธอไปเองค่ะ และที่พ่อของเธอไปเร่ร่อนเป็นสัมภเวสีนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐประหารเลย แต่พ่อเธอทำผิดกฎหมาย โดนศาลตัดสินให้จำคุกหลายคดี ถ้าหากกลับมาติดคุกคงจะต้องถึงสิบปีแน่ๆ ดังนั้นจึงไม่ยอมกลับเข้ามา เพราะกลัวติดคุก ไม่มีใครห้าม และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารแต่อย่างใด

เธอพูดอย่างไม่อายปากว่า แปดปีของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ประเทศไทยถอยหลังไปมาก คำพูดนี้มันทำให้เราเห็นว่า DNA ที่เธอได้รับมาจากบรรพบุรุษนั้นแข็งแกร่งจริงๆ การเอาดีให้ตัว เอาชั่วให้คนอื่นนั้นถนัดนัก แต่ที่พูดนั้นมันไม่จริง มันเป็นความเท็จ ที่เอาไว้หลอกสาวกให้ภักดีต่อวงศ์ตระกูลของเธอตลอดไป เพราะในความเป็นจริงนั้น ในระยะเวลาแปดปีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มีทั้งการพัฒนาที่สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศไทย เรื่องเหล่านี้มีความจริงเชิงประจักษ์อยู่มากมายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

แค่คิดเรื่อง Logistics ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง การขนส่ง แนวความคิดเรื่อง “รถ ราง เรือ และเครื่องบิน” นั้น ได้รับการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก เป็นการพัฒนาที่ไม่เคยมีรัฐบาลใดสามารถทำได้ ทั้งการสร้างถนนเพิ่ม การสร้างทางรถไฟเพิ่ม มีทั้งรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง มีการทำความสะอาดคลองต่างๆ ให้เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางคมนาคม มีการปรับปรุงสนามบินหลายแห่ง และยังมีการสร้างสนามบินใหม่เพิ่มเติมด้วย มีการนำเอายุทธศาสตร์ PPP (Public-Private Partnership) มาใช้เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นการลดภาระทางด้านงบประมาณของรัฐบาล

รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญกับ “การมีบ้าน” ของประชาชน ได้มีการสร้างบ้านที่ทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Condo ทั้ง Townhouse ที่เป็นทั้งการปรับปรุงคลอง การกำจัดชุมชนแออัดให้เป็นชุมชนแห่งความสุข การทำให้คนในชุมชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้อยู่ในบรรยากาศที่สะอาดปลอดภัยและได้มีบ้านอยู่อย่างถูกกฎหมาย โครงการสร้างบ้านและพัฒนาชุมชนให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขนั้น รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์จัดให้มีโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปตามนโยบาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของนายกรัฐมนตรี

ก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เราต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีปัญหามากมายที่รัฐบาลที่กำกับโดยพ่อของเธอได้ทำเอาไว้ พลเอกประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีต้องเข้ามาแก้ไข บางอย่างต้องใช้เวลา ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ทันใจใครบางคน และยังมีส่วนที่ทำให้ต้องแบ่งปันทรัพยากรเพื่อการพัฒนามาทำเรื่องการแก้ไขด้วย เรื่องทั้งหมดนี้หากเธอและสาวกของเธอใจไม่บอด ไม่มีอคติก็จะมองเห็น และจะไม่กล่าวหาว่าแปดปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ประเทศไทยถอยหลัง เพราะที่จริงแล้วท่านต้องทำทั้งแก้ปัญหาและพัฒนา ที่สำคัญก็คือ “ด้วยความซื่อสัตย์ที่เราวางใจได้”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชาชนได้ประโยชน์อันใด

การอภิปรายไม่ไว้วางใจจบลงไปแล้ว การลงคะแนนไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจก็จบไปแล้ว หลายท่านบอกว่าผิดหวังกับการอภิปรายครั้งนี้

'กองทัพ' ในสมการบรรเทาสาธารณภัย

เสร็จสิ้นเรียบร้อยการแต่งตั้ง "นายพล" วาระเดือนเมษายน หรือ "นายพลแก้มลิง" ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยศ พล.ต.อ., ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ

คาดผลตรีเทพย้ายราศีต่อคนลัคนาสถิตกันย์

เดือนพฤษภาคมปี 2568 นี้ ดาวสำคัญทางโหรที่เรียกกันว่า ตรีเทพ อันได้แก่ พระราหูจร (8) เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา-ความมืด-อวิชชาหรือตัวแสบ-พระพฤหัสบดีจร (5) เจ้าแห่งปัญญาพิสุทธิ์หรือหัวหน้าดาวดีเทวดาประจำตัว

โปรดดูโพลก่อนด่า...ประชาพอใจ

ตลอดระยะเวลาที่แพทองธารดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเวลาประมาณครึ่งปี เธออาจจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ จนถึงระดับถูกด่าทอต่อว่ามากที่สุดของประเทศไทย