ประชาธิปไตยที่เขย่าลำบากยิ่งขึ้นทุกที

ว่าจะเลือกใครกันดี เพราะบรรดา ผลงาน ต่างๆ ที่อาจพอหลงเหลืออยู่บ้าง ในช่วงที่ผู้ว่าฯ กทม.มาจากการแต่งตั้งของ คสช.เขา จะถือเป็นฝีมือของผู้ว่าฯ หรือของรองผู้ว่าฯ ก็คงแยกแยะได้ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ เผลอๆ...ปวดหัวขึ้นมา อาจหันไปเขย่าประชาธิปไตย ให้กับคุณน้า ชัชชาติ กับ ด๊อกเตอร์เอ้ ไอน์สไตน์ หรือคุณ วิโรจน์ ชนดะ ฯลฯ เอาเลยก็ไม่แน่...

-------------------------------------------------

คือคล้ายๆ พรรคประเภทที่เอารัฐบาล หรือ เอาบิ๊กตู่ ในช่วงระหว่างนี้นั่นแหละ...ที่แทบไม่รู้ว่าควรจะเอาใคร-ไม่เอาใคร จะเอากับ พลังประชารัฐ หรือจะเอากับ แรมโบ้-แรมบ้า หรือจะต้องหันไปหา ผู้กองแป้ง แห่งพรรคเศรษฐกิจไทย ไปจน สี่กุมาร แห่งพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ก็พรรคกล้าที่เพิ่งแยกตัวออกมาจากประชาธิกัด หรือจะหันไปหาพรรคไทยภักดีของ คุณหมอวรงค์ ฯลฯลฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่ เอาบิ๊กตู่ หรือยังไม่ถึงกับคิดจะ ไม่เอาบิ๊กตู่ ไปด้วยกันทั้งนั้น แต่นับวัน-นานวันยิ่งออกจะหนักไปทาง ทางใคร-ก็ทางมัน ยิ่งเข้าไปทุกที...

---------------------------------------------------

พูดง่ายๆ ว่า...ด้วยเหตุเพราะผู้ที่เคยเป็นกองหนุน กองเชียร์ ให้กับ บิ๊กตู่ มาตั้งแต่เมื่อ 7 ปีเกือบ 8 ปีที่แล้ว มาถึงทุกวันนี้ออกจะแตกกระฉาน ซ่านเซ็น หรือ เสียงแตก ไปคนละทาง-สองทาง กลายสภาพเป็นกองเกิน กองหลอน ไปเป็นจำนวนมิใช่น้อย ก่อให้เกิดความปวดหัว เวียนเฮด ต่อบรรดาผู้ที่เชื่อมั่นคำสัญญา-ขอเวลาอีกไม่นาน อยู่ตามสมควร ส่งผลให้บรรดาฝ่ายตรงข้าม หรือผู้ที่ไม่คิดจะเอาบิ๊กตู่ทั้งหลาย เกิดความกล้า ความบังอาจ และความมั่นอก-มั่นใจ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะสามารถแลนด์สไลด์ สามารถแอฟวะลานช์ ภายใต้บารมี หัวหน้าครอบครัวคนใหม่ อย่างคุณน้อง อุ๊งอิ๊ง ได้ไม่ยาก...

---------------------------------------------------

ความปวดหัว เวียนเฮด อันเนื่องมาจากการ เอาบิ๊กตู่ ในตลอดระยะ 7-8 ปีที่ผ่านมาเลยกลายเป็นการเปิดช่อง เปิดโอกาส เอื้ออำนวยให้กับบรรดาฝ่ายตรงข้ามของ บิ๊กตู่ อยู่ไม่น้อย เหมือนกับการต้องเลือกระหว่างอดีตรองผู้ว่าฯ สกลธี กับอดีตผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง อะไรประมาณนั้น แม้ว่าไม่ถึงกับชื่นชมและหลงใหล ต่อกล้ามเป็นมัดๆ ของคุณน้า ชัชชาติ หรือยังคงมึนซ์ซ์ซ์ๆ อยู่กับความเป็น ด๊อกเตอร์เอ้ ไอน์สไตน์ ไปจนถึงความขนลุก ขนพอง ความสยดสยองต่อบุคลิกลีลาของคุณน้อง วิโรจน์ ชนดะ แต่ถ้าอะไรต่อมิอะไรมันยังไม่ถึงกับชัดเจน ยังคงอึมครึม มัวซัว ขมุกขมัว จนแทบไม่รู้ว่าไผเป็นไผ ฝ่ายใครเป็นฝ่ายใคร โอกาสเขย่าประชาธิปไตยไปในทางหนึ่ง-ทางใด ก็ออกจะเป็นอะไรที่ยุ่งยาก ลำบากเสียเหลือเกิน...

-------------------------------------------------

เผลอๆ...ถ้าดันมีผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ รายใหม่ ในนามของนาย ทนงทวย คงควรคอย ขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจเกิดการหันไปเทเสียง เทคะแนน แบบชนิดถล่มทลาย แลนด์สไลด์ แอฟวะลานช์ เอาเลยก็ไม่แน่!!! หรืออย่างที่คลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดีย เขาได้เผยแพร่จนมีใครต่อใครตามไป กดไลค์ เป็นล้านๆ ในช่วงระหว่างนี้นั่นแหละ อันเนื่องมาจากด้วยเหตุเพราะความปวดหัว เวียนเฮด ความรำคาญ ต่อบรรดา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่โทร.มารบกวน อ้างว่ามีพัสดุ มีอะไรที่เกี่ยวพันกับตัวตนของตน จนต้องตามไปเขย่าในแง่ใด แง่หนึ่ง อย่างมิอาจปฏิเสธได้ เลยต้องตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเสียง เรียงนาม ของตัวเอง ไปเป็นนาย ทนงทวย คงควรคอย เพื่อให้เกิดความยุ่งยาก ลำบาก เรียกผิด เรียกถูก สะกดผิด สะกดถูก จน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งหลาย ไม่อาจตามมารบกวนกันได้ง่ายๆ...

----------------------------------------------------

นี่แหละ...บรรยากาศเลือกตั้ง บรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยในบ้านเราทุกวันนี้ ไม่ว่าเลือกผู้ว่าฯ กทม. ไปจนถึงเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ก็แล้วแต่ ดูๆ...มันจะออกไปในแนวนี้ คือออกจะเป็นอะไรที่น่าปวดหัว เวียนเฮด น่าเบื่อ น่ารำคาญ ไม่น้อยไปกว่าการถูกรบกวน รังควาน ด้วยบรรดา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งหลาย จนต้องหันมาสร้าง เกราะคุ้มกันตัวเอง กันไปตามเรื่อง ตามราว ไม่งั้นโอกาสอยู่รอด ปลอดภัย ภายใต้ภาวะที่ คลื่นสึนามิ ลูกแล้ว ลูกเล่า กำลังทยอยซัดสาดเข้ามาสู่ประเทศ อันเนื่องมาจากความผันผวน ปรวนแปร ของโลกทั้งโลก คงทำให้ยิ่งอยู่ยากซ์ซ์ซ์ อยู่ลำบาก ยิ่งเข้าไปทุกที...

----------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Gay... “An open foe may prove a curse, but a pretended friend is worse.-ศัตรูที่เปิดเผย...อาจร้ายกาจ แต่มิตรที่เสแสร้ง...ร้ายกาจยิ่งกว่า...”

---------------------------------------------------