การเมืองไทยที่ยังคงมืดๆ มัวๆ อยู่เช่นเดิม

อายุ-อานามห่างจากกันไม่รู้จะกี่สิบต่อกี่สิบปี แถมหลังๆ นี้...ยังออกจะ รีดไม่เรียบ ซะอีกต่างหาก เพราะค่อนข้างจะยับเยิน ยับยุ่ย อันเนื่องมาจากการ อยู่ยาวว์ว์ว์ ประมาณกว่า 7 ปี หรือเกือบจะ 8 ปี เข้าไปแล้ว แค่เฉพาะประคองตัวรอดต่อไปให้ครบเทอม ก็ย่อมเป็นอะไรที่ยุ่งฉิบหาย ยุ่งตายห่ะ พอสมควรแล้ว...

---------------------------------------------

คือถ้าจะว่ากันถึงลำหัก-ลำโค่น...อาจต้องเอาไปวัด เอาไปเปรียบ กับประเภทคุณน้อง พิธา มัวเกลีย หรือ เมียกลัว แห่งพรรคก้าวสะเปะสะปะ หรือพรรคก้าวไกล อะไรไปโน่น เพราะโดยอายุ-อานาม โดยความสดใส เต่งตึง คงไม่ถึงกับผิดแผกแตกต่างไปจากกันและกันมากมายซักเท่าไหร่ แถมด้วยความพยายามแสดงตัวในฐานะคนหนุ่ม คนรุ่นใหม่ โอกาสที่พรรคพรรคนี้จะกวาดคะแนนเสียง คะแนนนิยม จากบรรดาพวก กิ้งก่า หรือพวก กะปอม ทั้งหลาย จนอาจไล่หลังตามหายใจรดต้นคอพรรค เผาไทย มาติดๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย อีกทั้งโดยความกล้าหาญ กล้าสู้ กล้าเอาชนะ ก็ใช่ว่าจะน้อยๆ ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่แต่เฉพาะ มัวเกลีย แต่เพียงเท่านั้น กระทั่งผู้นำโลก ผู้นำมหาอำนาจ อย่าง ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ก็เคยถูก ขู่ กลางอากาศ มาแล้วเห็นๆ...

---------------------------------------------------

การเปรียบมวย เปรียบช่วงชก ระหว่างคุณน้อง พิธา กับคุณน้อง อุ๊งอิ๊ง จึงออกจะเหมาะกว่า สอดคล้องกับวัย กับอายุ-อานาม หรือกับศิลปะ ลีลา ฝีมือความสามารถของบรรดา คนรุ่นใหม่ ได้มากกว่า ที่จะเอาไปเปรียบ ไปเทียบ กับมวยแก่ มวยชรา ประเภท บิ๊กตู่, บิ๊กป้อม และ บิ๊กป๊อก ที่ล้วนแต่ “รีดไม่เรียบ” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งประเภท บิ๊กป้อม ด้วยแล้ว แค่จะเดิน จะเหิน ก็แทบจะไปไม่ไหว ถ้าไม่มีใครคอยให้เกาะ ให้แกะ อยู่ข้างๆ แต่สำหรับมวยที่อาจจะเหี่ยวๆ ลงไปมั่งแล้วอย่างคุณเจ๊ สุดาหน่อย ก็ยังคงมิอาจประมาทได้ แม้จะซูบๆ โทรมๆ ลงไปตามวัย ตามสังขาร แต่ก็ยังฟิตปึ๋ง ฟิตปั๋ง อยู่ตามสมควร ชนิดถึงขั้น ยายเป้ากระเด้าหม้อ (กินขนมจีน) ก็ยังเคยมาแล้ว การแยกตัว แยกวง ออกมาเป็นอิสระเสรีจากพรรค เผาไทย เพื่อที่จะรับมือกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ หรือแม้แต่เลือกผู้ว่าฯ กทม.คราวนี้ก็เถอะ ย่อมแสดงให้เห็นถึงความเอาจริง เอาจัง และ เอาแน่ อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย...

-------------------------------------------------

ส่วนบรรดาพรรคฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายที่ เอาบิ๊กตู่ มาโดยตลอด...คงต้องยอมรับว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงนั้น ก็ออกจะลดความน่ากลัว น่าเกรง ลงไปมิใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นพรรคแกนนำอย่าง พปชร. หรือ พลังประชารัฐ ที่แตกกระฉาน ซ่านเซ็น จนแทบไม่รู้ไผ-เป็น-ไผ ใคร-เป็น-ใคร เอาเลยในทุกวันนี้ มีทั้งแยกวงออกไปอยู่กับ แรมโบ้-แรมบ้า หรือหลุดออกเป็นยวงๆ ไปอยู่กับ ผู้กองแป้ง โดยจะยัง เอาบิ๊กตู่ หรือไม่ อย่างไร ก็ยังไม่แน่ มีทั้งแตกกระจายไปปักหลักอยู่กับพวก สี่กุมาร ที่น่าจะ เอาสมคิด มากกว่าคิดจะ เอาบิ๊กตู่ อีกต่อไป แถมในช่วงปลายๆ หลังจากนี้ ช่วงยุบสภาฯ หรือช่วงครบเทอม ก็แล้วแต่ ยังอาจหลุดออกมาอีกเป็นกระบิๆ ไม่ว่าจะเป็นประเภท เรียงหิน หรือประเภท ซีทีเอ็กซ์ ฯลฯ ก็แล้วแต่ โดยตบะ บารมี โดยสง่า ราศี จึงแทบไม่ได้ถือเป็น มวยแม่เหล็ก ใดๆ อีกต่อไป...

----------------------------------------------------

ส่วน ประชาธิกัด นั้น...ยังคงเลือดไหลไม่หยุด โอกาสที่คุณพี่ อู๊ดด้า-จุรินทร์ ผู้ยังคงเพียรพยายามรักษาความเต่งตึงจนนวลผ่องเสนาณรงค์ไปทั้งใบหน้า จะผงาดขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีแห่งสุโขทัยธรรมาธิราช คงน่าจะยากเอามากๆ ที่ออกจะมีลำหัก-ลำโค่น กว่าใครเขาเพื่อน คงหนีไม่พ้นไปจากพรรค เสี่ยหนู ภายใต้การอุปถัมภ์ ค้ำชู ของสมาชิกในครอบครัวอย่างคุณน้า เนวิน เขานั่นแหละ ที่พอจะมีแรง แซงโค้ง อยู่มั่งตามสมควร แต่ก็ด้วยเหตุเพราะอุปนิสัยและวาสนา ที่พร้อมจะพลิกซ้าย-พลิกขวา พลิกไป-พลิกมาได้ทุกเมื่อ เพื่อให้มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลเท่านั้นเอง ก็เลยยังไม่ถึงกับขึ้นชั้น ขึ้นแท่น พอที่จะเอามาเปรียบมวย มาวัดช่วงชก ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ถนัดๆ ซักเท่าไหร่...

-------------------------------------------------------

ส่วนที่แตกออกไปเป็นพรรคกล้า พรรคไทยภักดีของ คุณหมอวรงค์ ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรต่างๆ นั้น ก็คงไม่ต่างไปจากดอกไม้หลายหลากสี ที่เอาไว้ แซมแจกัน กันไปตามสภาพ โดยสีสัน บรรยากาศ ของการเลือกตั้งครั้งใหม่ จึงมี จุดเด่น หรือ จุดที่น่าสนใจ อยู่ที่ความเอาจริง-เอาจัง และ เอาแน่ ของคุณน้อง อุ๊งอิ๊ง เธอนั่นแหละ ว่าจะสามารถฝ่าด่านแต่ละด่าน ไปจนถึงจุดที่ตั้งเป้า ตั้งวัตถุประสงค์ เอาไว้ได้หรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะความเพียรพยายามที่จะ หามพ่อกลับบ้าน ให้จงได้!!! โดยถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย วัตถุประสงค์ของเธอจริงๆ แล้ว ไม่ว่าเธอจะเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นสาวเป็นแส้ หรือเป็นอะไรที่ยังคงสดใสและเต่งตึงก็ตาม แต่โอกาสที่ การเมืองไทย อาจมีอันต้องหวนคืน ย้อนกลับไปสู่อดีต ไปสู่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน กันอีกครั้ง อีกครา ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

---------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก George Santayana... “Those who cannot remember the past are condemned to repeat it.- ผู้ใดที่ไม่จดจำอดีต...ผู้นั้นมีกรรมจำต้องย้อนรอยอดีต...”

----------------------------------------------------