ผมอยากเห็นปูตินกับเซเลนสกีเจอกัน ถกแถลงทางออกจากสงครามต่อชาวโลก

เซเลนสกีปราศรัยต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ เรียกร้องให้ส่งความช่วยเหลือมาอย่างเร่งด่วน..."ท่านต้องช่วยให้สงครามของรัสเซียในยูเครนยุติใน 24 ชั่วโมง"

และขอให้สหรัฐฯ "ปิดน่านฟ้า" อีกครั้งหนึ่ง

ถ้าทำเช่นนั้นไม่ได้.. ก็ขอให้สหรัฐฯ รีบส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะต่อสู้กับทหารรัสเซียที่กำลังถล่มเมืองหลวงเคียฟอย่างดุเดือดในขณะนี้

ผู้นำยูเครนปราศรัยผ่านจอขนาดใหญ่ในหอประชุมสไตล์โรงภาพยนตร์ภายใต้อาคาร Capitol ของตึกรัฐสภา

นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้นำต่างชาติปราศรัยต่อสภาทั้ง 2 ของสหรัฐฯ ผ่านระบบออนไลน์อย่างนี้

เซเลนสกีย้อนระลึกถึงความทรงจำของ Pearl Harbor และ 11 กันยายน 2001

เพราะเขารู้ว่าถ้าจะให้คนอเมริกันเข้าใจวิกฤตของยูเครนจริงๆ ต้องพูดถึงวิกฤตที่คนอเมริกันเคยเจอมาก่อน

"เขากำลังเจอกับ 9/11 ทุกวันมา 3 สัปดาห์แล้ว" เขาบอก

และเรียกร้องขอความช่วยเหลือด้วยวาทะที่เต็มไปด้วยอารมณ์ว่า "เราต้องการคุณตอนนี้"

และย้ำว่า “ผมขอให้ท่านทำมากกว่านี้”

เซเลนสกีสวมเสื้อยืดสีเขียวและนั่งติดกับธงชาติยูเครน

ใช้วาทะที่คนอเมริกันคุ้นเคย โดยยืมวลีจาก Dr.Martin Luther King Jr.- "I have a dream"

นอกจากนี้ยังขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติหาบริษัทในรัฐและเขตต่างๆ เพื่อส่งความช่วยเหลือไปยังยูเครนโดยตรงหากทำได้

คำปราศรัยยาว 18 นาที มีคลิปวิดีโอประกอบที่มีภาพกราฟฟิกและภาพสะเทือนใจที่แสดงภาพระเบิดในเมืองต่างๆ ทั่วยูเครน รวมถึงภาพพลเรือนที่ถูกสังหารโดยการโจมตีของรัสเซีย

เขาสรุปด้วยการพูดเป็นภาษาอังกฤษ ส่งสารตรงถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่า “การเป็นผู้นำโลกหมายถึงการเป็นผู้นำสันติภาพ”

ในคืนเดียวกันนั้น ปูตินประกาศว่ายังไงๆ รัสเซียจะไม่ก้มหัวให้ตะวันตก

และ "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" ของรัสเซียในยูเครนนั้นกำลัง “ประสบความสำเร็จ” และ “จะบรรลุเป้าหมาย”

เป็นตอนหนึ่งของคำกล่าวจากการกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งถ่ายทอดไปทั่วประเทศ

ปูตินยืนยันว่าตะวันตกกำลังพยายามครอบงำโลกและตัดแขน

เขาเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ ตะวันตกจะส่งอาวุธทำลายล้างสูงไปให้ยูเครนโดยมีเป้าหมายทำลายรัสเซีย

ปูตินย้ำว่าจะไม่ยอมให้ตะวันตกใช้ยูเครนเป็น “springboard” หรือ “หอกข้างแคร่” ที่จะคุกคามรัสเซียเป็นอันขาด

ปูตินอ้างว่าผู้นำชาติตะวันตกว่าให้เขาไม่มีทางเลือกในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี

แต่เขาก็ทิ้งท้ายว่ารัสเซียพร้อมที่จะเจรจาในเรื่องสถานะ “ที่เป็นกลางของยูเครน”

ปูตินยอมรับว่าการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซีย

แต่ก็ย้ำว่ารัสเซียจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้

“แน่นอนว่าสถานการณ์ ณ ปัจจุบันเป็นบททดสอบสำหรับเรา” ผู้นำเครมลินกล่าว

“เราจะผ่านไปได้อย่างมีศักดิ์ศรีและจะเอาชนะความยากลำบากเหล่านี้แน่นอน”

พอฟังปูตินเสร็จ ผมก็ได้ยินประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประกาศมอบความช่วยเหลือมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน

คำประกาศล่าสุดนี้ทำให้มูลค่าความช่วยเหลือทั้งหมดที่สหรัฐฯ ให้กับยูเครนเฉพาะในสัปดาห์นี้สูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 33,000 ล้านบาทแล้ว

ความช่วยเหลือชุดล่าสุดนี้มาในรูปของอาวุธล้วนๆ

เช่น ระบบต่อต้านขีปนาวุธ สติงเกอร์ 800 ชุด, ระบบต่อต้านยานเกราะ เอที-4 จำนวน 6,000 ชุด, ปืนจาเวลิน 2,000 ชุด, ปืนเบาต่อต้านยานเกราะ 1,000 ชุด, เครื่องยิงระเบิดหลายร้อยชุด รวมทั้งปืนกล ปืนยาว ปืนไรเฟิลและปืนพก กระสุนกว่า 20 ล้านชุด ตลอดจนอุปกรณ์ป้องกันตัวต่างๆ

อีกด้านหนึ่งเลขาธิการองค์การนาโต เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก พูดที่กรุงบรัสเซลล์ในวันเดียวกันว่า องค์การนาโตจะให้การสนับสนุนต่อยูเครนต่อไป

เป็นความช่วยเหลือทางทหาร การเงินและมนุษยธรรม

พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีประชาชนยูเครน

สโตลเทนเบิร์กบอกว่าขณะนี้มีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในยุโรป 100,000 คน และอีก 40,000 คนที่อยู่ภายใต้คำสั่งโดยตรงของนาโต

และสำทับว่ายังมีทหารของประเทศสมาชิกองค์การนาโตอีกหลายแสนคนที่ “เตรียมพร้อมรับคำสั่งตลอดเวลา”

ผมฟังผู้นำสหรัฐฯ, รัสเซีย, ยูเครนและนาโตพูดในวันเดียวกันแล้วไม่ได้รับรู้ถึงความคืบหน้าด้านการเจรจาเพื่อสันติภาพเลยแม้แต่น้อย

นั่นย่อมแปลว่าโอกาสที่สงครามจะลากยาวและความรุนแรงจะเพิ่มระดับขึ้นยังมีสูงอย่างยิ่ง

ถ้าอย่างนั้นที่รัสเซียเรียกร้องให้ยูเครนใช้ “โมเดลเป็นกลาง” แบบออสเตรียหรือสวีเดนมีความเป็นไปได้เพียงใด และมีความเสียหายอย่างไร...พรุ่งนี้วิเคราะห์ประเด็น “โอกาสแห่งสันติภาพ” ครับ.