ยังไม่มีอะไรใหม่...สำหรับการเมืองไทย!!!

ไม่รู้ว่าไปถึงไหนกันมั่งแล้ว!!!...สำหรับการเมืองบ้านเรา คือคงต้องสารภาพแบบตรงไป-ตรงมานั่นแหละว่า แทบไม่ค่อยได้ตาม ไม่ได้เกิดแรงกระตุ้น แรงจูงใจใดๆ มากพอที่จะก่อให้เกิดความมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการ เจาะ-เกาะ-ติด เรื่องราวทำนองนี้ ไม่ว่าในแง่ความเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายแค้น-ฝ่ายค้าน ก็ตามที เพราะโดยทั่วๆ ไปแล้ว น่าจะหนักไปทาง แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง...

-------------------------------------------------

หรือไม่ถึงกับมีอะไรน่าตื่นเต้ลล์ล์ล์ เร้าอก-เร้าใจ แบบประเภทการบุกถล่มยูเครนของกองทัพหมีขาวรัสเซีย ที่ทำเอาแม้แต่เหยี่ยวข่าวชรา อย่างคุณปู่ สุทธิชัย หยุ่น ของหมู่เฮา แทบกลายเป็นคนหนุ่ม ผมดก ผมดำ ขึ้นมาโดยทันที ต้องลุกขึ้นมา อัปเดต สถานการณ์ความคืบหน้า แบบชนิดนาทีต่อนาที

หรืออาจระดับวินาทีเอาเลยก็ไม่แน่ หรือประเภทข่าวคุณน้องแตงโม คุณแม่น้องแตงโม ที่ทำเอาโลกเสมือนจริงสะเทือน เลื่อนลั่น ไม่น้อยทีเดียวเจียว อันเนื่องจากสีสัน บรรยากาศ แห่งความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ความเวทนาสงสาร เห็นอก-เห็นใจ ต่อชะตากรรมคุณน้องแตงโม หรือความเปรี้ยวมือ เปรี้ยวไม้ ต่อคุณน้องแม่น้องแตงโม ฯลฯ ก็ตามแต่...

------------------------------------------------

ในขณะที่การเมืองนั้น...ดูจะหนักไปทางกินข้ง กินข้าว กินมื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือหนักไปทางสังสรรค์ เฮฮา ในแวดวงกลุ่มคนฝ่ายเดียวกัน หรือฝ่ายใครก็ฝ่ายมัน ซะเป็นหลักใหญ่ โดยจะเพื่อช่วงชิงความเสียเปรียบ-ได้เปรียบ จากจำนวนเสียง ส.ส.เสียงสนับสนุนในรัฐสภาหรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่จะคิดๆ กันเอาเอง แต่โดยหลักๆ...เลยหนักไปทาง แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ หรือไม่ได้ก่อให้เกิดสีสัน เกิดการสร้างสรรค์ มากมายซักเท่าไหร่ แม้ว่าโดยสภาพแวดล้อมรอบบ้าน รอบเมือง หรือรอบโลกในช่วงนี้ ออกจะเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียว น่าสยดสยอง น่าขนลุก-ขนพองยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ว่าในแง่การเมือง เศรษฐกิจ สุขภาพ ไปจนถึงการทหารเอาเลยก็ว่าได้...

--------------------------------------------------

อย่างไรก็ตาม...ดูเหมือนว่า ไฮไลต์ ทางการเมือง ก็ยังคงพุ่งเป้าไปยังการอยู่-การไป การไป-ไม่ไป ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮานั่นแหละเป็นหลัก คือจะไปกันในเดือนพฤษภาฯ ไปเพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือจะไปกันในเดือนสิงหาฯ ไปเพราะการตีความ แปลความ ของศาลรัฐธรรมนูญ ในเรื่องการอยู่มาแล้ว 8 ปี หรือยังไม่ครบ 8 ปี อะไรประมาณนั้น ซึ่งก่อให้เกิดการยื้อยุด ฉุดดึง ฉุดกระชากลากถู ระหว่างฝ่ายใครก็ฝ่ายมัน อย่างชนิดน่าเหนื่อย น่าอเนจอนาถเวทนามิใช่น้อย เพราะระหว่างที่ยื้อกันไป-ยื้อกันมา แนวโน้มความเป็นไปของโลก มันจะไปถึงไหนต่อถึงไหนไปแล้วก็ไม่รู้...

-------------------------------------------------

คือคงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า...ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของบ้านเรานั้น ยังน่าจะอยู่ในระดับ 0.4 แม้ว่าความเคลื่อนไหวทางสังคมจะไปไกลถึงระดับ 4.0 หรือไม่ อย่างไร ก็ตามที หรือไม่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างภายในสังคมมันจะเต็มไปด้วยความ ทันสมัย เต็มไปด้วยรูปแบบใหม่ๆ แต่มันแทบไม่ได้ก่อให้เกิดเนื้อหาแห่งการ พัฒนา ไม่ว่าในทางทัศนคติ วิธีคิด แนวคิด แต่อย่างใด และภายใต้ลักษณะอาการทำนองนี้นี่เอง เลยส่งผลให้สิ่งที่เรียกว่า การเมือง มันเลยยังคงอยู่ที่ 0.4 หรือยังคงไม่คิดจะไปไหน ใครที่ เพื่อไทย ก็ยังคงเพื่อไทย แม้จะเกิดการ เผาไทย ให้เห็นกันสดๆ ซิงๆ มาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ส่วนใครที่คิดจะ ก้าวไกล ก็ยังก้าวแบบสะเปะสะปะ แบบถอยหน้า-ถอยหลัง โดยแทบไม่ได้อาศัย สติ-สัมปชัญญะ-และปัญญา เป็นพื้นฐานองค์ประกอบใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...

-------------------------------------------------

หรือด้วยเหตุเพราะภายใต้ระบอบการเมือง ที่มาจากประชาชน-โดยประชาชน-และเพื่อประชาชน หรือที่เรียกๆ ว่าระบอบ ประชาธิปไตย นั้น มันยังไม่ได้ประกอบไปด้วย ประชาชนผู้มีธรรม มากถึง 51 เปอร์เซ็นต์ หรือของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งโดยส่วนใหญ่ การยื้อกันไป-ยื้อกันมาระหว่าง ธรรมะกับอธรรม มันเลยส่งผลให้ผู้ที่อาสาเข้ามาแบกประเทศไทยเอาไว้บนบ่าอย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านก็เลยสามารถตีตั๋วยาวว์ว์ว์ มาถึง 7 ปีกว่าๆ เกือบๆ 8 ปีเข้าไปแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องออกเรี่ยว ออกแรง อะไรมาก แค่รู้จักวิธีเด้งเชือก ฉากหลบ มุดจั๊กกะแร้ฝ่ายตรงกันข้าม ออกมาเต้นย็อกๆ แย็กๆ กลางเวทีได้แบบไม่ถึงกับต้องเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า มากมายซักเท่าไหร่...ก็พอแล้ว!!!

----------------------------------------------------

เพราะภายใต้ฉากสถานการณ์ทำนองนี้...จะไปคิด เปลี่ยนม้ากลางลำธาร ก็คงลำบาก มีแต่ต้องคลุกเคล้า คลอเคลีย ไปกับ บิ๊กตู่ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่คิดจะ เผาไทย หรือไม่คิดจะ ก้าวสะเปะสะปะ จนอาจส่งผลให้ประเทศไทยตกหลุม ตกบ่อ หรือตกเหว เอาง่ายๆ ด้วยเหตุนี้...ตราบใดที่ ประชาชนผู้มีธรรม ยังมีไม่มากถึง 51 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ก็คงต้อง อยู่ๆ กันไป หรือคงต้อง แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ ไปจนกว่าจะเกิดแนวโน้มใหม่ๆ หรือเกิดฉากสถานการณ์แบบใหม่ อันเนื่องมาจาก...ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเป็นไป...นั่นแล...

---------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Prabhat Ranjan Sarkra (อีกครั้ง)... “ประชาธิปไตยจะประสบความสำเร็จ หากปัจจัยดังต่อไปนี้มีอยู่ท่ามกลางประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 51 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป นั่นคือ 1.ความรู้หนังสือ 2.ความตื่นตัวทางการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม และ 3.ความมีศีล-มีธรรม...”

---------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น