ไทม์ไลน์ ผบ.ปั๊ดแม่ทัพใหญ่สีกากี

น่าจะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในการตั้ง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลเกี่ยวกับเทคโนโลยี จะคุ้มค่ากับการแยกตัวมาตั้งเป็น บช. ทำคดีเฉพาะด้านหรือไม่ รวมทั้งฝีมือ บิ๊กแจง-พล.ต.ท.กรไชย  คล้ายคลึง ผบช.สอท. เมื่อเจองานหิน เจองานยากๆ จะเอาอยู่หรือไม่ อย่างล่าสุด คดีแก๊งดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร ของผู้เสียหายที่ถือบัตรเดบิตและบัตรเครดิต สร้างความแตกตื่นให้ผู้คนในสังคมไทยที่มีบัญชีธนาคาร บัญชีบัตรเครดิต จะถูกคนร้ายดูดเงินไปหรือไม่ โดย บิ๊กแจง ส่ง พล.ต.ต.นิเวศน์  อาภาวศิน ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท.เป็นขุนศึกในการติดตามคนร้าย ที่ล่าสุดได้ประชุมร่วมกับตัวแทนธนาคาร และผู้แทนศูนย์ประสานงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ หาข้อมูลในการล่าตัวคนร้ายทั้งในและต่างประเทศ 

การเดินเครื่องไล่ล่าแก๊งดูดเงินของตำรวจไซเบอร์ เป็นการทำงานของหน่วยงานที่ถูกฝาถูกตัว รวมทั้งการมอบหมายให้ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง  ผบ.ตร.เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน  ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่คำสั่งที่ ผบ.ปั๊ด ให้ทุกกองบังคับการ (บก.) ทั่วประเทศ จัดตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีความผิดที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการกระทำผิด มีหน้าที่รับผิดชอบประสานงานให้คำแนะนำแก่พนักงานสอบสวน ผู้กำกับการ หัวหน้าสถานี หรือเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเสียเองในคดีที่พนักงานสอบสวนในสังกัดได้รับแจ้งไว้ กำลังมีแรงกระเพื่อมมาจากลูกน้องหลายพื้นที่ เพราะต่างตั้งคำถามให้แต่ละ บก.ทั่วประเทศตั้งคณะพนักงานสืบสวน แล้ว บช.ไซเบอร์ที่มี บก.สอท.1 ทำหน้าที่ทำงานส่วนกลางดูแลพื้นที่  บช.น., บก.สอท.2 ดูแลพื้นที่ บช.ภ.1, 2, 7 และ บก.สอท.3  ดูแลพื้นที่ บช.ภ.3 และ4, บก.สอท.4 ดูแลพื้นที่ บช.ภ.5 และ 6 รวมทั้ง บก.สอท.5 ดูแลพื้นที่ บช.ภ.8 และ 9 ซึ่งใน 5 บก. แยกย่อยเป็น 7 กองกำกับการ คือ ฝ่ายอำนวยการ กองกำกับการ 1 (คดีเกี่ยวกับทรัพย์) กองกำกับการ 2 (คดีเกี่ยวกับเพศ)  กองกำกับการ 3 (คดีอาชญากรรมคอมพิวเตอร์) กองกำกับการ 4 (คดีความมั่นคงและคดีอื่นๆ) กลุ่มงานสอบสวน และกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ มีไว้ทำไม?...เป็นคำถามที่น่าคิด 

ท่ามกลางมุมมองตำรวจในมุมลบๆ ก็มีตำรวจในมุมบวกๆ ให้ได้ยิ้ม ให้ได้ชื่นชม ที่สำคัญเป็นคำชื่นชมจากนักแสดงระดับโลก รัสเซลล์ โครว์ นักแสดงชื่อดังเจ้าของรางวัลออสการ์ ที่เดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ได้อัปทวีตส่วนตัว @russellcrowe ถ่ายภาพคู่กับ ด.ต.อนิรุต มะลี  ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.ห้วยขวาง ซึ่งเคยช่วยชีวิตหนุ่มเครียดกีตาร์หายใช้มีดจี้คอตัวเองบนโรงพัก เป็นข่าวดังเมื่อ 17  มิ.ย.60 โดย รัสเซลล์ โครว์ เคยรีทวีตข่าวนี้มาแล้วเมื่อวันที่  17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเขาทวีตข้อความว่า Met my hero  today. Police Officer Anirut! หรือแปลเป็นไทยว่า "วันนี้ผมได้พบวีรบุรุษของผมแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจอนิรุต" โดยทวีตนี้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ รัสเซลล์ โครว์ และทีมงานเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The  Greatest Beer Run Ever ที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงและกลายเป็นตำนาน หลังจากที่ชายคนหนึ่งยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อส่งเบียร์ให้เพื่อนที่เป็นทหารที่กำลังทำภารกิจในสงครามเวียดนาม ซึ่งใช้ไทยเป็นสถานที่หนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้

สอดคล้องกับช่วงผ่อนคลายมาตรการของรัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และเตรียมจะเปิดประเทศ  ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมาการพบปะพูดคุยในวงประชุมทหาร ทั้งประชุมผู้บัญชาการทางทหาร และการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพแบบเห็นตัวเป็นๆ ไม่ต้องผ่านระบบออนไลน์อีกต่อไป เนื้อหาการประชุมนอกจากเรื่องการช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว ยังมีการรายงานภารกิจของแต่ละเหล่าทัพในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สรุปงานหลักของทหาร-ตำรวจและงานสนับสนุนนโยบายรัฐบาล หลังการประชุม  พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)  ยืนยันการฝึกร่วมผสม คอบราโกลด์ 2022 ยืนยันช่วงเวลาการฝึกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2022 และจะมีพิธีเปิด 22 กพ.22 อย่างแน่นอน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นใด โดยจะมีการปรับแผนการฝึกตามสถานการณ์ โดยปีนี้มิตรประเทศแสดงความประสงค์เข้าร่วมการฝึกจำนวนมาก  คาดการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้จำนวนไม่น้อย จะได้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศจำนวนมาก พร้อมเดินหน้าโครงการช่วยเหลือประชาชนเหมือนเช่นทุกปี สร้างประโยชน์ให้ภาพรวมในประเทศ

ถัดมาอีกหนึ่งวัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประชุมสภากลาโหมนัดแรกของปีงบประมาณ 2565 โดยมี ผบ.เหล่าทัพและ ผบ.ตร.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมหน้า ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม  สนามหลวง หน่วยงานต่างๆ รายงานสั้นกระชับ เปิดวาปให้  รมว.กลาโหมร่ายยาวมอบนโยบาย สั่งการในภารกิจต่างๆ  ตามสไตล์ “ลุงตู่” ก่อนที่จะย้ำกำชับในหลายเรื่อง พร้อมหยอดคำหวานใส่ผู้นำเหล่าทัพ ให้สัมภาษณ์ได้ดีในหลายเรื่อง ซึ่งหากย้อนดูจะเห็นว่าหลังวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นมา ก็มี บิ๊กป้อง-พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่แถลงนโยบายและยังให้สัมภาษณ์ ตอบทุกคำถามแบบเคลียร์ทั้งเรื่องงานและปมดรามาต่างๆ และหลังการประชุม ผบ.เหล่าทัพ พล.อ.เฉลิมพล ตั้งโพเดียมตอบคำถามในเรื่องที่รับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมา แต่ยกเว้นเรื่องการเมืองที่เจ้าตัวออกตัวว่าไม่ขอยุ่ง รวมถึง ผบ.ตร.ไม่หลบ ไม่ถอย ให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่สังคมคาใจได้แบบไม่เรียกแขก

ภาพ-ข่าวกองบัญชาการกองทัพเรือ วังเดิม และกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ปรับภูมิทัศน์ รื้อถอนต้นไผ่ที่ปลูกในสมัย บิ๊กลือ-พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ว่อนเน็ต หวังชี้ปมความขัดแย้ง-คาใจจากปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา  ในกรณีที่ บิ๊กเฒ่า-พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.คนปัจจุบัน ที่เคยถูกเด้งออกนอก ทร.ไปเป็นรองปลัดกลาโหม 2  ปี  จึงคาดว่าการปรับภูมิทัศน์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่อยากเห็นมรดกความเชื่อ เลยไปถึงความงมงาย ติดอยู่ในภาพจำ “ลูกประดู่”

แม้งานนี้จะพุ่งเป้าไปที่  “ผบ.ทร.” คนปัจจุบันโดยตรง  แต่เจ้าตัวคงไม่อยากให้เพิ่มดีกรีข่าวความขัดแย้งมากขึ้นกว่าเดิม จึงส่ง พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ  ออกมาชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องความขัดแย้งภายใน แต่เนื่องจากภายในเขตพระราชวังเดิม นอกจากจะเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานของกองทัพเรือแล้ว ยังมีโบราณสถานที่สำคัญที่กองทัพเรือดูแลรักษา ตกแต่งภูมิทัศน์ให้มีความงดงามอยู่เสมอ แต่เนื่องจากต้นไผ่ซึ่งปลูกมาเป็นเวลากว่า 3 ปี จึงเจริญเติบโตสูงขึ้นและบดบังอาคารสำนักงาน รวมถึงบดบังทัศนียภาพโบราณสถานที่สวยงามอีกด้วย จึงจำเป็นต้องถอนหรือตัดออกบางส่วนเพื่อความสวยงาม ส่วนในพื้นที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน ก็พบว่าต้นไผ่ขึ้นสูงจนบดบังอาคารเช่นเดียวกัน รวมถึงบดบังเส้นทางจราจรในพื้นที่ดังกล่าวด้วย จึงให้มีการตัดถอนออกบางส่วนเพื่อปรับภูมิทัศน์ด้วยเช่นกัน โดยต้นไผ่ที่ถอนออกมานั้นจะได้นำไปปลูกที่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ศาลายา ต่อไป.