เชฟรอนสานต่อ “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล” สร้างแรงบันดาลใจนักดาราศาสตร์รุ่นเยาว์ปีที่6

ตลอดระยะเวลามากกว่า 6 ปี บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้เข้ามาสนับสนุนหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งการสนับสนุนการก่อสร้าง พัฒนาสถานที่ และยังร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเพื่อสังคมของบริษัท โดยกิจกรรมทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2560 เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานวิจัยดาราศาสตร์สำหรับนักเรียน นักศึกษา และสถาบันการศึกษาภาคใต้ รวมถึงเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์อิสลามแห่งแรกของไทย

จนถูกขนานนามว่า หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา (หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา) ที่เป็นหนึ่งใน “หอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชน” โครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้การดำเนินงานของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยเชฟรอนเองนอกจากจะเข้ามาพัฒนาพื้นที่แล้ว ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็ม อย่างครอบคลุมในทุกมิติ

จึงได้ดำเนินการพัฒนาในส่วนโครงสร้างอื่นๆ อาทิ การก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้ทางดาราศาสตร์และการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ นิทรรศการดาราศาสตร์ภายในอาคาร (Indoor Exhibition) โครงการสนับสนุนการก่อสร้างลานอเนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรมดูดาวกลางแจ้ง และกิจกรรมทางดาราศาสตร์อื่นๆ โดยเฉพาะ “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล” ที่มีการจัดกิจกรรมเพื่อจุดประกายฝัน สร้างแรงบันดาลใจด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 7

นายเฉลิมชนม์ วรรณทอง ผู้จัดการหอดูดาวภูมิภาคอาวุโส หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา กล่าวว่า ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปีที่ 6 เป็นค่ายกิจกรรมการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์สำหรับเยาวชนทั่วประเทศที่จัดมาต่อเนื่อง ปีนี้มีเยาวชนทั่วประเทศส่งใบสมัครเข้ามา 1,346 คน และได้คัดเลือกเข้าร่วมค่าย 100 คน โดยแนวคิดการจัดการค่ายยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายเยาวชนคนดูดาวที่เข้มแข็ง

โดยได้คัดเลือกเยาวชนที่เคยผ่านการเข้าค่ายในครั้งก่อนมาร่วมเป็นพี่เลี้ยงค่าย เพื่อช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ หลักสูตรหลักของค่ายเป็นการผสมผสานการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ควบคู่กับกิจกรรมเชื่อมผสานพหุวัฒนธรรม สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมค่าย รวมทั้งเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมชุมชนในพื้นที่ที่ไปจัดกิจกรรมด้วย

และกิจกรรมของ “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล” ประกอบด้วย ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในเรื่องการดูดาวเบื้องต้น การใช้งานแผนที่ดาวและกล่องดวงดาว การติดตั้งและใช้งานกล้องโทรทรรศน์ โดยผู้ร่วมค่ายฯ ได้ร่วมสังเกตการณ์ท้องฟ้าและกลุ่มดาวช่วงเช้ามืด ศึกษาดวงอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวหาดสมิหลา และได้เยี่ยมชมท้องฟ้าจำลองและนิทรรศการดาราศาสตร์ ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา รวมทั้งมีการผสานการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมเข้ากับกิจกรรมต่างๆ อาทิ การทัศนศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา

ด้าน เดชชนะ ภิญโญตระกูล ผู้จัดการศูนย์ซ่อมบำรุงบนฝั่ง บริษัท เชฟรอนฯ กล่าวว่า เชฟรอนทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา มาอย่างต่อเนื่อง เชฟรอนหวังว่าค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล จะช่วยกระจายโอกาสการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชน นักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศ จึงได้สนับสนุนกิจกรรมนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6

“ผมเชื่อมั่นว่าน้องๆ ที่ผ่านค่ายนี้จะสามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดในการเรียนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน และหลายคนจะได้รับแรงบันดาลใจในการเลือกเส้นทางการศึกษาต่อ นำไปสู่การประกอบอาชีพในฝันของตนเองในอนาคตได้ และน้องๆ เหล่านี้จะเป็นพลังคนที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป”

ความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างเยาวชนที่เคยเข้าร่วมโครงการ

พิพัฒน์พล สิริธิกุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า “ผมชื่นชอบด้านดวงดาวและดาราศาสตร์อยู่แล้ว เวลาออกต่างจังหวัดก็ชอบถ่ายภาพดาวตอนกลางคืน ค่ายนี้มีประสบการณ์และความรู้ใหม่หลายอย่าง มีทั้งความรู้ด้านดาราศาสตร์ควบคู่กับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ทำให้ผมรู้สึกประทับใจวิถีวัฒนธรรมของคนใต้มากขึ้น”

ลภัสปภา สืบสายทองคำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “สมัครมาค่ายนี้เพราะส่วนตัวชื่นชอบและตั้งใจจะทำงานในสายที่เกี่ยวข้องกับด้านอวกาศอยู่แล้ว และเมื่อได้มาแล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะค่ายนี้ให้ความรู้เยอะมากๆ มีความสนุกสนาน สิ่งที่ได้รับจากวิทยากรช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นในการวางแผนการเรียนและทำงานในอนาคต”

ศิดารัศมิ์ ศรีมุณี นักศึกษาปีที่ 1 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตหาดใหญ่) ศิษย์เก่าค่ายซึ่งอาสามาเป็น “พี่ค่าย” ช่วยดูแลเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมในปีนี้ กล่าวว่า “ทุกกิจกรรมที่หอดูดาวและเชฟรอนจัดขึ้นไม่ได้มีแค่เรื่องดาราศาสตร์เท่านั้น แต่มีองค์ความรู้และประสบการณ์มากมายให้เราได้ศึกษาเรียนรู้ การได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมในฐานะ ‘พี่ค่าย’ ทำให้ได้พัฒนาตนเอง ฝึกความกล้าแสดงออก ฝึกความเป็นผู้นำ ได้เรียนรู้การบริหารจัดการงาน การจัดกิจกรรม การวางแผน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมทั้งได้เรียนรู้การทำงานจากคนที่ทำงานจริงในองค์กร ซึ่งต้องขอขอบคุณหอดูดาวและเชฟรอนที่มอบโอกาสดีๆ ให้เยาวชนคนดูดาวมาอย่างต่อเนื่องถึง 6 ปี”

นอกจาก “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปีที่ 6” ได้ถ่ายทอดความรู้เพื่อบ่มเพาะต้นกล้าเยาวชนด้านดาราศาสตร์ ผ่านการจัดกระบวนการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และลงมือปฏิบัติจริงด้านดาราศาสตร์แก่น้องๆ ทั้ง 100 คนเป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืนแล้ว ค่ายครั้งนี้ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้และความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ให้แก่เยาวชนได้มากขึ้น เพื่อพัฒนากำลังคนในสาขาสะเต็มที่จะเป็นกำลังในการขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ปิติพัฒน์ ปรีดานนท์’ ทายาทธุรกิจรุ่น3 เดินทัพ ‘ปรีดา กรุ๊ป’ สู่ยุคใหม่ที่แข็งแกร่ง

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ปิติพัฒน์ ปรีดานนท์’ กรรมการผู้จัดการบริษัท ปรีดาโฮลดิ้ง จำกัด เป็นอีกหนึ่งผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เป็นที่จับตาของวงการอสังหาริมทรัพย์

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเยี่ยมชมเรือสำรวจ SW Thuridur เตรียมความพร้อมโครงการ G2/65 ของเชฟรอน

ในปี 2566 บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65 ขนาดพื้นที่

มองภาพสะท้อนการออกแบบ เมือง‘ไต้หวัน’ผ่าน‘ไทจง-ไทเป’

“ไต้หวัน” หนึ่งในจุดมุ่งหมายที่ใครหลายคนอยากมาสัมผัส เพราะเป็นประเทศที่เหมาะกับการท่องเที่ยว ผู้คนเป็นมิตร มีวินัย เดินทางง่าย อากาศกำลังสบาย สะดวก ปลอดภัย

สรรพสามิตขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ชู “แพร่โมเดล” ต้นแบบ โครงการ1ชุมชน1สรรพสามิตแชมเปี้ยน

รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและยกระดับสินค้าชุมชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “สุราชุมชน หรือสุราพื้นบ้าน” ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเร่งแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานสุราพื้นบ้านเพื่อยกระดับสินค้าชุมชนให้ได้มาตรฐาน

TSBถอดโมเดลระบบคมนาคม 'ไต้หวัน’ ปรับใช้กับ HOP Card ต่อยอดเพิ่มระบบชำระค่าสินค้า-บริการ

‘ไต้หวัน’ เมืองใหม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยว หนึ่งในประเทศที่มีลักษณะโครงสร้างการคมนาคมขนส่งใกล้เคียงกับประเทศไทย ที่ในปัจจุบันก็มีการพัฒนาระบบรุดหน้าเป็นอย่างมาก

‘พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล’หวังกระทรวงอุตฯเป็นที่พึ่งของทุกคนอย่างแท้จริง

การเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงต่างๆ ในประเทศไทยนั้นต้องผ่านด้านการบริหารงานมาเข้มข้น และยังต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์อย่างจริงจัง