“โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน”ปีที่6 พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมสร้างรายได้-ความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น

โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ขับเคลื่อนโดย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดความเข้มแข็ง และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจของชาติให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชนสลากสรรค์สร้าง และขยายผลการสร้างรายได้ในระยะยาว

โดยผ่านแนวคิดในการขับเคลื่อนด้านการพัฒนา การบริหารจัดการชุมชน ด้านผลิตภัณฑ์ชุมชน และบริการชุมชนที่มีเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้มีสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตที่เอื้อต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม สร้างรายได้ให้กับชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้มีความมั่นคงยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต อีกทั้งยังก่อให้เกิดการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สมควรได้รับการอนุรักษ์และถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลัง

โครงการนี้เกิดจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนโดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมทั้งมุ่งหมายที่จะขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งวัตถุประสงค์หนึ่งที่สำคัญของโครงการคือ การส่งเสริมอาชีพและขยายผลการสร้างรายได้ให้ชุมชนในระยะยาว

และสำหรับปีนี้ (2567) โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ได้ขับเคลื่อนมาถึงปีที่ 6 แล้ว โดย “ธนวรรธน์ พลวิชัย” กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นนวัตกรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคมให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน สำนักงานสลากฯ จึงได้ริเริ่มโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ตอบสนองวิสัยทัศน์ดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการสร้างคุณค่าร่วมให้กับชุมชน เพื่อเป้าหมายการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของสมาชิกในชุมชน ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ

“โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีมีชุมชนที่ได้รับการพัฒนาไม่น้อยกว่า 47 ชุมชน และสำนักงานสลากฯ ยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันซึ่งเป็นปีที่ 6 ด้วยหลักการคิด การพัฒนา การเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน ขับเคลื่อนพัฒนาการบริหารจัดการชุมชนในด้านผลิตภัณฑ์และบริการชุมชนที่มีเอกลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนมีงาน มีอาชีพ มีรายได้ มีความสุข ภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้มีความมั่นคงและยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม”

ขณะที่ “พันโทหนุน ศันสนาคม” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ว่า โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปีที่ 6 ในปี 2567 นี้ มีชุมชนจากทั่วประเทศสมัครเข้ามารวมจำนวนทั้งสิ้น 25 ชุมชน และคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกชุมชนจากภูมิภาคต่างๆ โดยใช้หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกชุมชนจากพื้นฐานด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตที่เอื้อต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน รวมถึงมีผู้นำชุมชนที่เป็นที่ยอมรับนับถือและมีการทำงานในรูปแบบกรรมการชุมชน รวมทั้งสมาชิกชุมชนยินดีให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ตลอดจนเป็นชุมชนที่มีโอกาสเติบโตหรือศักยภาพในการสร้างความเข้มแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปีที่ 6 ในปี 2567 นี้ ทางสำนักงานได้ร่วมมือกับคณะที่ปรึกษาซึ่งมีความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน มาช่วยขับเคลื่อนสร้างความแข็งแกร่งให้สมาชิกในชุมชนผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายในระยะเวลา 5 เดือน โดยทุกชุมชนจะได้รับ 1.การพัฒนาจากทีมที่ปรึกษาของโครงการฯ ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาชุมชน ด้านกลยุทธ์การตลาด ด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร 2.การจัดแสดงนิทรรศการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และการจัดทำ E-Catalog นำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการเด่นของชุมชนที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปีที่ 1-ปีที่ 6

3.การพัฒนาป้ายสำคัญในชุมชนและเอกสารแนะนำชุมชน 4.การประชาสัมพันธ์ชุมชนให้เป็นที่รู้จักเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น การจัดงานแถลงข่าวโครงการฯ การจัดการท่องเที่ยวชุมชน การเผยแพร่ข้อมูลชุมชนผ่านสถานีโทรทัศน์/Youtuber เป็นต้น และ 5.การจัดทำแผนการยกระดับชุมชนฯ แผนการตลาดออนไลน์ และแผนการเชื่อมโยงความสำเร็จเชิงพาณิชย์ให้กับทุกชุมชน โดยโครงการในปีที่ 6 นี้ได้เพิ่มการจัดทำ website เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการของชุมชนตั้งแต่ปี 1-6 ทั้งหมดรวม 57 ชุมชน

โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน เป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพัฒนาชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยทั้ง 10 ชุมชนใหม่ และ 4 ชุมชนจากโครงการในปีที่ 1-5 จะได้รับการเติมเต็มองค์ความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่จะมาร่วมกันถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนาชุมชน ทั้งเรื่องการพัฒนาการตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาโภชนาการ รวมถึงการเปิดมุมมองในเรื่องของการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะมีโอกาสได้ลงมือปฏิบัติจริง ที่จะทำให้เกิดความรู้และความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และสามารถนำกลับไปพัฒนาและต่อยอดให้กับชุมชนของตนเองได้ต่อไป เชื่อว่าการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ จะสามารถตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ช่วยพัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนมากมาย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่าง ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก โครงการดังกล่าวก็ได้เข้าไปโอบอุ้มชุมชน ด้วยการสร้างสรรค์วิธีการและการดำเนินการ รวมถึงหาช่องทางการค้าให้กับชุมชนต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อช่วยในการซ่อม-สร้างและเสริมชุมชนให้แข็งแกร่ง พร้อมที่จะเข้าสู่ยุคต่อไปของความปกติใหม่ และยังเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนชุมชนให้สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เป้าหมายหลักของ โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน นั้น สำนักงานสลากฯ หวังให้เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดความเข้มแข็งและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจของชาติให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชนสลากสรรค์สร้าง และขยายผลการสร้างรายได้ในระยะยาว ซึ่งการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว สำนักงานสลากฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อเสาะหาชุมชนที่มีความเหมาะสม พร้อมทั้งเร่งพัฒนา เติมเชื้อไฟทั้งในแง่ความรู้ ยกระดับของดีภายในชุมชน เพื่อต่อยอดในการสร้างรายได้ให้เกิดความมั่นคง เป็นการยกระดับชีวิตของคนในชุมชนได้ในระยะยาวอีกด้วย

การลงพื้นที่ 10 ชุมชนนั้น สำนักงานสลากฯ หวังว่าชุมชนต่างๆ จะได้มีการเติบโตและสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งสืบสานในเรื่องของเอกลักษณ์พื้นถิ่นของตนไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา พร้อมทั้งพัฒนาความสามารถในการค้าขายสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายให้เท่าทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมสังคมและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตต่อไป

สำหรับ โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปีที่ 6 นี้มี 10 ชุมชนที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากผู้ทรงคุณวุฒิของหน่วยงานระดับประเทศ เข้าร่วมโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปีที่ 6 ประกอบด้วย 1.วิสาหกิจชุมชน บ้านตาชายายสาคลองห้าร้อย จ.นนทบุรี 2.ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย 3.วิสาหกิจชุมชนบ้านหาดไก่ต้อย จ.อุตรดิตถ์ 4.ท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านเดื่อ จ.หนองคาย 5.สหกรณ์เกษตรรุ่นใหม่ จังหวัดอุดรธานี จำกัด จ.อุดรธานี

6.ชุมชนบ้านท่าวัดเหนือ จ.สกลนคร 7.บ้านกุดหว้า จ.กาฬสินธุ์ 8.วิสาหกิจชุมชนสตรีจ้าวภูผา จ.จันทบุรี 9.วิสาหกิจเพชรงามเกาะช้าง จ.ตราด และ 10.ชุมชนบ้านแหลมนาว จ.ระนอง

นอกจากนี้ยังมีชุมชนเดิมจากปีที่ 1-5 จำนวน 4 ชุมชน จะได้รับการพัฒนาต่อยอดในโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปี 6 ประกอบด้วย 1.ชุมชนบ้านโอ่งอ่างเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี 2.ชุมชนย่านเก่าวังกรด จ.พิจิตร 3.ชุมชนบ้านถ้ำเสือโฮมสเตย์ จ.เพชรบุรี และ 4.วิสาหกิจชุมชนไทดำบ้านนาป่าหนาด จ.เลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"มนตรี เดชาสกุลสม" ปักหมุดภารกิจเร่งด่วน เชื่อมโครงข่ายถนนยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

หลังจาก “มนตรี เดชาสกุลสม” เข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) คนที่ 11 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่บุคลากรกรมทางหลวงชนบท

จาก ‘ฉลากเบอร์5’ สู่ห้องเรียนสีเขียวเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องใช้และสังคม

ที่ผ่านมา กลุ่มผู้บริโภคหลายคนคงเริ่มเห็นหน้าตาของฉลากเบอร์ 5 โฉมใหม่ตามเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ กันบ้างแล้ว โดย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

“พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ” ลุยเพิ่มศักยภาพ เร่งเครื่องดันสนามบินสมุยสู่ “Tourism Hub” อ่าวไทย

หากพูดถึงอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย ปัจจุบันกลับเติบโตอย่างน่าสนใจหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน ผู้โดยสารกลับมาใช้บริการมากขึ้น

เส้นทาง ‘ไว้ท์เครน ไบโอเทค กรุ๊ป’กว่า 50 ปี สู่การนำทัพเจน2รีแบรนด์พลิกโฉมบุกตลาด

คงต้องบอกว่า “ไว้ท์เครน ไบโอเทค กรุ๊ป” หรือ White Crane BIOTEC Group นับเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้านนวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำ การจัดการน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการเกษตร