“นฤธี อาสาสรรพกิจ” จัดทัพ Coty ลงศึกตลาดความงามเมืองไทย

ธุรกิจความงามนับเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นที่มีอัตราการเติบโตที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่ามีแบรนด์เกิดขึ้นใหม่ในทุกปี ขณะเดียวกันแบรนด์ที่มีชื่อเสียงก็พัฒนาสินค้าออกมาตอบสนองความต้องการผู้บริโภคตลอดเวลา เนื่องจากตลาดมีการอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ และผู้บริโภคเองก็มักมองหาสินค้าที่มีนวัตกรรมโดดเด่นและตอบโจทย์ตัวเอง

สำหรับ Coty Inc. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กชื่อ COTY แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในบริษัทด้านความงามรายใหญ่ที่สุดของโลกที่มีแบรนด์ครอบคลุมผลิตภัณฑ์น้ำหอม เครื่องสำอางสำหรับการแต่งหน้า และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย โดยเตรียมพร้อมมุ่งมั่นที่จะรุกการเติบโตในประเทศไทย ซึ่งรวมไปถึงการเปิดสำนักงานใหม่ เปิดตัวหน่วยงานและทีมทำงาน พร้อมทั้งแต่งตั้ง “นฤธี อาสาสรรพกิจ” ขึ้นดำรงตำแหน่ง Country Lead โดยเขาเองก็มีแผนงานที่จะสร้างการเติบโต ตอกย้ำเป้าหมายและความมุ่งมั่นระยะยาวของ Coty ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ความตั้งใจที่จะเร่งขยายกลุ่มธุรกิจ Prestige และ Consumer Beauty ในตลาด รวมถึงแผนที่จะเพิ่มรายได้ในประเทศไทยเป็น 2 เท่าในอีก 4 ปีข้างหน้าด้วย

สำหรับ นฤธี ได้เข้าร่วมทีมผู้นำแห่ง Coty Southeast Asia and India ด้วยประสบการณ์ในด้านการตลาดและการจัดการทั่วไปที่มีมากว่าหนึ่งทศวรรษ นับว่าเป็นที่รู้จักจากความสามารถของเขาในการส่งมอบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่มีการแข่งขันสูง โดยเขาจะทำหน้าที่ดูแลกลยุทธ์การค้าปลีกและการพัฒนาธุรกิจของ Coty Thailand ในขณะที่ยังคงขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ Prestige และ Consumer Beauty ของบริษัทในตลาด ภายใต้การนำของเขาจะได้เห็นทีมงานในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกใหม่ ทั้งในด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ การโฆษณา และการขายสินค้า

นฤธี ระบุว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาทำงานในธุรกิจด้านความงามอีกครั้ง เพื่อนำพา Coty Thailand ไปสู่อีกระดับ เมื่อตลาดความสวยงามในประเทศไทยเติบโตขึ้น เรามีโอกาสที่จะเร่งพัฒนาแบรนด์ในกลุ่มธุรกิจ Prestige และ Consumer Beauty ของ Coty ทั่วประเทศ ผมตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับทีมเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์สำคัญๆ รวมไปถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักช็อปด้านความงามรุ่นใหม่ด้วยจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นไม่หวาดหวั่นของ Coty

ส่วนในเรื่องสถานการณ์และแนวโน้มของตลาดนั้น นฤธี เล่าว่า ตลาดน้ำหอมและเครื่องสำอางของไทยมีมูลค่าสูงถึง 750 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และกำลังสร้างมาตรฐานความงามใหม่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักช็อปรุ่นมิลเลนเนียลและเจนซี (Gen Z) ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย โดยตั้งแต่ปี 2020 Coty Thailand ได้ดูแลแบรนด์ Prestige ชั้นนำ ตั้งแต่ Gucci Beauty, Burberry Beauty, Chloé, Marc Jacobs ไปจนถึงน้ำหอม Calvin Klein และ Consumer brands เช่น Adidas, David Beckham และ Nautica เป็นต้น

โดยปัจจุบัน Coty อยู่ในท็อป 5 ของตลาดความงามทั่วโลก คาดการณ์ตัวเลขรายได้ในปีนี้ว่าจะทำได้ 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐ และกว่า 6% อยู่ในตลาด APEC โดยไทยอยู่ในตลาดนี้ หรือมีสัดส่วนราว 1% ซึ่งโอกาสในตลาด APEC มีมากถึง 20% จึงพร้อมรุกตลาดในไทยมากขึ้น “ในปี 2567 จะใช้งบลงทุนรวมกว่า 600 ล้านบาท สำหรับใช้ทำการตลาดสร้างการรับรู้ในวงกว้าง มุ่งจัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ในการทดลองใช้สินค้าในกลุ่มเมคอัพ คอสเมติก และสกินแคร์ และเพิ่มไลน์สินค้าแบรนด์ใหม่ให้มากขึ้น โดยยังคงเน้นทำตลาดพรีเมียมเป็นหลัก แต่จะเจาะในกลุ่มอายุที่เด็กลงมากขึ้น หรือวัยเริ่มต้นทำงาน อายุ 20-30 ปีขึ้นไป นอกจากนี้จะมุ่งขยายสาขาช็อป Burberry อีก 12-20 สาขา จากที่มีอยู่ 4 สาขาในปัจจุบัน”

คริสตินา สตรุนซ์, Managing Director, Coty Southeast Asia and India กล่าวเสริมว่า “ตลาดความงามในประเทศไทยเป็นสิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะผู้บริโภคชาวไทยเป็นคนกำหนดเทรนด์การแต่งหน้าและการดูแลผิวให้กับทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศอินเดีย และบริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคุณนฤธี ในขณะที่เราเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตต่อไปในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ การลงทุนล่าสุดในเรื่องของบุคลากร สถานที่ทำงาน และแบรนด์ใหม่ๆ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตำแหน่งผู้นำของ Coty ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจ Prestige และ Consumer Beauty รวมถึงวางรากฐานสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเจเนอเรชันใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสำหรับการแต่งหน้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเรา”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มองภาพสะท้อนการออกแบบ เมือง‘ไต้หวัน’ผ่าน‘ไทจง-ไทเป’

“ไต้หวัน” หนึ่งในจุดมุ่งหมายที่ใครหลายคนอยากมาสัมผัส เพราะเป็นประเทศที่เหมาะกับการท่องเที่ยว ผู้คนเป็นมิตร มีวินัย เดินทางง่าย อากาศกำลังสบาย สะดวก ปลอดภัย

สรรพสามิตขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ชู “แพร่โมเดล” ต้นแบบ โครงการ1ชุมชน1สรรพสามิตแชมเปี้ยน

รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและยกระดับสินค้าชุมชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “สุราชุมชน หรือสุราพื้นบ้าน” ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเร่งแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานสุราพื้นบ้านเพื่อยกระดับสินค้าชุมชนให้ได้มาตรฐาน

TSBถอดโมเดลระบบคมนาคม 'ไต้หวัน’ ปรับใช้กับ HOP Card ต่อยอดเพิ่มระบบชำระค่าสินค้า-บริการ

‘ไต้หวัน’ เมืองใหม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยว หนึ่งในประเทศที่มีลักษณะโครงสร้างการคมนาคมขนส่งใกล้เคียงกับประเทศไทย ที่ในปัจจุบันก็มีการพัฒนาระบบรุดหน้าเป็นอย่างมาก

‘พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล’หวังกระทรวงอุตฯเป็นที่พึ่งของทุกคนอย่างแท้จริง

การเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงต่างๆ ในประเทศไทยนั้นต้องผ่านด้านการบริหารงานมาเข้มข้น และยังต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์อย่างจริงจัง

“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ลุยบิ๊กอีเวนต์ปลุกกระแสท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง

หลังจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายเพิ่มศักยภาพจังหวัดท่องเที่ยว 55 จังหวัด (เมืองน่าเที่ยว) แก่ผู้ราชการจังหวัด 55 จังหวัดและผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยส่วนภูมิภาค

เชฟรอนชู4กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างพันธมิตร-พัฒนาชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

จังหวัดสงขลา เป็นเมืองท่าและเมืองชายทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ และมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้