จะว่าไปแล้ว การที่คุณทักษิณ ชินวัตรออกจากประเทศไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว และคุณยิ่งลักษณ์หนีออกจากประเทศไปทางช่องทางธรรมชาติ ก็ไม่ต่างจากการออกไปตามกลไกที่เรียกว่า ostracism
อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนที่หนึ่ง ว่า ostracism คือกลไกการเนรเทศ ที่เป็นกลไกตามกฎหมายที่เกิดขึ้นในประชาธิปไตยเอเธนส์เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีที่แล้ว เข้าใจว่าผู้นำทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยของเอเธนส์ได้คิดค้นกลไกการเนรเทศนี้ขึ้นมาเพื่อกำจัดคู่แข่งทางการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังคาดว่าการเนรเทศจะช่วยลดความแตกแยกในรัฐและป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งวุ่นวายด้วย
ผู้ที่ถูกเนรเทศจะต้องออกไปเอเธนส์เป็นเวลา 10 ปี แต่ไม่โดนยึดทรัพย์สินและไม่เสียสถานะความเป็นพลเมือง แต่สามารถกลับมาใช้ทรัพย์สินของตนและเป็นพลเมืองได้หลังจากต้องออกไปอยู่นอกเอเธนส์เป็นเวลา 10 ปีเสียก่อน
ขณะเดียวกัน ยามบ้านเมืองมีวิกฤต ที่ประชุมสภาพลเมืองของเอเธนส์ก็สามารถลงมติอภัยลดโทษย่นระยะเวลาเนรเทศไม่ต้องครบ 10 ปี และเรียกตัวผู้ที่ถูกเนรเทศบางคนให้กลับมารับใช้บ้านเมือง
คราวที่แล้ว ได้กล่าวถึง อริสทีดีส (Aristides) ผู้เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ถูกเนรเทศและถูกเรียกตัวกลับมา บุคลิกภาพนิสัยใจคอของอริสทีดีส ถือว่าเป็นคนรักความยุติธรรม ไม่เข้าข้างใคร ถ้าใครทำผิด แม้ผู้นั้นจะเป็นเพื่อน อีกทั้งคนฝ่ายตรงข้ามของเขา หากไม่ผิด เขาก็จะออกมาปกป้อง จากพฤติกรรมดังกล่าวของเขาทำให้ผู้คนในเอเธนส์ต่างเรียกขานเขาว่า “อริสทีดีส ผู้เที่ยงธรรม” (Aristides the Just) เขาได้เป็นนิยมรักใคร่ของผู้คนทั่วไป
แต่แน่นอนว่า คนแบบนี้ย่อมตกเป็นเป้าแห่งความอิจฉาริษยาหมั่นไส้ และแน่นอนว่าคนที่เขม่นอริสทีดีสมากที่สุดจะเป็นใครอื่นเสีย นอกจากเทมีสโทคลิส (Themistocles) ที่เป็นคู่แข่งกับอริสทีดิสมาตั้งแต่วัยหนุ่ม จากการแข่งรักหักสวาทหมายปองเด็กหนุ่มคนเดียวกัน และเมื่อโตขึ้น ทั้งสองได้เป็นแม่ทัพในการนำทหารเข้าต่อสู้กับพวกเปอร์เซีย และมีชื่อเสียงด้วยกันทั้งคู่ แต่ทั้งสองต่างมีนโยบายความมั่นคงที่แตกต่างกันอีก อรีสทีดีสไม่ต้องการให้เอเธนส์ไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามทางทะเล ส่วนเทมีสโทคลิส ต้องการให้เอเธนส์ลงทุนกับการต่อเรือรบเป็นจำนวนมากเพื่อนำเอเธนส์ไปสู่การเป็นมหาอำนาจทางทะเล
เมื่อมาถึงจุดนี้ ความวุ่นวายย่อมเกิดขึ้นในการเมืองเอเธนส์ ประชาชนอาจจะต้องเลือกนโยบายของคนใดคนหนึ่ง ทั้งคู่ถือว่าเป็น “อินฟลูเอนเซอร์” ในการเมืองเอเธนส์ แต่เทมีโทคลิสจะมีแต้มเหนือกว่า เพราะเป็นคนเล่นการเมืองเป็น ส่วนอริสทีดีส อย่างที่กล่าวไปแล้ว เป็นคนตรง เที่ยงธรรม ไม่ช่วยเพื่อนหาเพื่อนผิด และไม่ทำร้ายศัตรูหากศัตรูไม่ได้ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้มันสวนทางความคิดที่อยู่ในใจของคนส่วนใหญ่ ดังที่ไซมอนสีดิส (Simonides) กวีเอกสมัยนั้นได้กล่าวไว้ว่า การช่วยมิตรของเราและทำร้ายศัตรูของเราถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
วิธีการที่เทมีโทคลิสใช้โจมตี (ป้ายสี) อริสทีดีส คือ กล่าวหาว่าเขาเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยของเอเธนส์ ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่เอเธนส์จะเติบโตเข้มแข็งผ่านการขยายอำนาจทางทะเล ซึ่งหากเอเธนส์เข้มแข็งเป็นมหาอำนาจ ประชาธิปไตยก็จะเข้มแข็งไปด้วย และเหตุผลที่อริสทีดีสไม่ต้องการให้ประชาธิปไตยเอเธนส์เข้มแข็ง ก็เพราะเขามาจากตระกูลคนชั้นสูงของเอเธนส์ !
ทำไมการมาจากตระกูลชนชั้นสูงของเอเธนส์จึงเป็นประเด็น ?
เอเธนส์เพิ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นประชาธิปไตยในปี 508 ก่อนคริสตกาล ดังนั้น ในปี 482 เอเธนส์จึงเป็นประชาธิปไตยมาได้เพียง 26 ปีเท่านั้น ถือว่ายังไม่ตั้งมั่น ซึ่งก็ถือว่าไม่ห่างไกลความจริง เพราะในช่วงแรกๆที่เอเธนส์เริ่มเป็นประชาธิปไตย ยังมีพวกที่ต้องการล้มประชาธิปไตยและกลับไปปกครองแบบเดิม ซึ่งแบบเดิมที่ว่านี้มีสองแบบ แบบแรกคือ การปกครองที่เรียกว่า turannos หรือที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้ทรงแปลมาจาก tyrant ในภาษาอังกฤษ และ tyrant มาจาก turannos ในภาษากรีกโบราณ โดยในช่วงศตวรรษที่เจ็ดและหกก่อนคริสตกาล ได้เกิดปรากฏการณ์ turannos ในนครรัฐกรีกโบราณต่างๆเป็นจำนวนมาก และในช่วงเวลาดังกล่าว turannos ยังไม่ได้มีความหมายในแง่ลบในฐานะที่เป็นการปกครองที่ไม่ดี หรือเป็นการปกครองของผู้ปกครองที่ไม่ดี แต่ turannos เริ่มมีความหมายในแง่ลบก็ในช่วงที่เอเธนส์เข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย จริงๆแล้ว ในช่วงที่เอเธนส์อยู่ภายใต้การปกครองของทรราชที่ชื่อว่า ไพซีสตราโตส กล่าวได้ว่า เป็นการปกครองที่ละมุนละม่อมและอยู่ในกรอบกฎหมาย มีเมตตา ให้ทุนสำรองแก่คนจนยืมเพื่อไปประกอบอาชีพ ได้จัดให้มีผู้พิพากษาท้องถิ่นขึ้น, และตัวเขาได้เดินทางหมุนเวียนไปตามชนบทเพื่อตรวจสอบและแก้ปัญหาข้อพิพาท เพื่อผู้คนจะได้ไม่ต้องละทิ้งการทำไร่ไถนาโดยต้องเดินทางเข้าในเมือง อีกทั้งยังทำการปฏิรูปที่ดินอีกด้วย แต่พอถึงรุ่นลูกของไพซีสตราโตส ไม่สามารถได้รับความนิยมได้เท่าพ่อ จึงเริ่มมีการต่อต้านและเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยในที่สุด
แบบที่สอง คือ การปกครองของเอเธนส์ที่ดำรงมาก่อนหน้า turannos ซึ่งเป็นการปกครองโดยกลุ่มชนชั้นสูง
ในช่วงแรกของการใช้กลไกการเนรเทศ ผู้ที่พัวพันและต้องการหวนกลับสู่ turannos จะถูกเนรเทศเพราะเป็นปฏิปักษ์กับพัฒนาการประชาธิปไตย แต่พอพ้นรุ่นที่เคยพัวพันกับ turannos คราวนี้ ก็มาสร้างวาทกรรมให้รังเกียจคนที่มาจากตระกูลอภิชนอย่างอริสทีดิส เพราะเทมีโทคลิสเป็น “อินฟลูเอนเซอร์” ทางการเมืองรุ่นแรกๆที่มาจากตระกูลสามัญชนคนธรรมดาแบบเดียวกับคนส่วนใหญ่ของเอเธนส์
เมื่อเป็นดังนี้ ก็คงจะเดาออกว่า เมื่อที่ประชุมสภาพลเมืองเอเธนส์เริ่มกระบวนการเนรเทศ (ostracism) ผลการลงคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไร !
อรีสทีดีส ผู้เที่ยงธรรม ถูกลงมติให้ออกไปจากเอเธนส์ในปี 482 ก่อนคริสตกาล
ในช่วงที่มีการรณรงค์เกี่ยวกับการเนรเทศ มีเรื่องเล่าว่า มีชาวเอเธนส์คนหนึ่งกำลังจะลงคะแนนให้เนรเทศอริสทีดีส และในการลงคะแนน เขาจะต้องสลักชื่ออริสทีดิสลงไปบนแผ่นดินเหนียว (ตามรูป)
แต่เนื่องจากเขาไม่รู้หนังสือ (คนส่วนใหญ่ของเอเธนส์เป็นคนไม่รู้หนังสือ) บังเอิญอริสทีดีสเดินมา ชาวเอเธนส์ผู้นั้นไม่รู้ว่าเป็นอริสทีดิส เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักอริสทีดีสมาก่อน เพียงแต่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับตัวอริสทีดีส ชายคนนั้นจึงวานให้อริสทีดีสช่วยเขียนชื่อ “อริสทีดีส” ลงไปบนแผ่นดินเหนียวนั้น (การวานให้คนช่วยเขียน ในการลงคะแนนเนรเทศถือเป็นเรื่องปกติในการเมืองเอเธนส์) อริสทีดิสจึงถามชายคนนั้นว่า “ทำไมถึงต้องการเนรเทศอริสทีดีส เขาไปทำอะไรท่านหรือ ?”
ชายคนนั้นตอบว่า “เปล่าเลย และข้าก็ไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ แต่ข้ารู้สึกรำคาญที่เวลาไปไหนมาไหน ข้าจะต้องได้ยินผู้คนเรียกเขาว่า ผู้เที่ยงธรรม”
หลังจากนั้น อริสทีดิสก็ช่วยชายคนนั้น โดยการ
จากเรื่องเล่าข้างต้น ตีความได้ว่า ประชาชนชาวเอเธนส์ผู้นั้น ลงคะแนนเนรเทศอริสทีดีสไปตามกระแส โดยที่จริงๆแล้ว ตัวเองก็ไม่รู้ว่าอริสทีดีสเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยและประชาชนชาวเอเธนส์อย่างไร !
แต่หลังจากที่อริสทีดีสถูกเนรเทศไปได้เพียง 2-3 ปี ที่ประชุมสภาพลเมืองเอเธนส์ได้ลงมติอภัยลดโทษและเรียกตัวเขาให้กลับมาช่วยแก้วิกฤตบ้านเมือง
วิกฤตอะไร ? ถึงต้องเรียกตัวคนที่ถูกเนรเทศกลับมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 34): ‘กรมขุนชัยนาทนเรนทร’ ทรงตกเป็นเหยื่อการเมืองของหลวงพิบูลสงคราม
รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490
'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน
เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ปลื้ม ‘คนคุณภาพประชาธิปัตย์’ ได้เป็นขรก.การเมือง
เฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ครม. เห็นชอบ แต่งตั้ง “คนคุณภาพประชาธิปัตย์” เป็นข้าราชการการเมือง สังกัด ทส. และ สธ.
‘พล.ร.อ.พัลลัภ’ เตือนภัย กับดักบันได 3 ขั้น พ่ายเขมรเสียดินแดน..!! I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 02 พฤศจิกายน 2567
'เทพไท' เรียกร้องนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม รวมคดี 112 ด้วย
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "พรบ.นิรโทษกรรม:ปรองดองจริงหรือ?" ระบุว่ากรณีนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.