10 เรื่องน่ารู้ของ นิสสัน กับการแข่งขัน ฟอมูล่า อี

แนวคิดของแบรนด์นิสสัน นับตั้งแต่ก่อตั้งคือ "กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า" หรือ "Dare to do what others don't." ด้วยฐานะที่เป็นบริษัทแรกของโลก ที่ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ และยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวของญี่ปุ่นที่เข้าร่วมการแข่งขัน FIA Formula E World Championship ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด นิสสันมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าของนิสสันทั่วโลกจะได้ผลประโยชน์จากความก้าวหน้าต่างๆ เหล่านี้ 10 เรื่องน่ารู้ที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับการแข่ง ฟอมูล่า อี และทีมแข่งของนิสสัน ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขัน ฟอมูล่า อี ครั้งแรก ของประเทศญี่ปุ่น ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมนี้

  1. Tokyo E-Prix การแข่งขัน ฟอมูล่า อี ครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น

ในวันที่ 30 มีนาคม 2567 ถนนรอบ ๆ ศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ Tokyo Big Sight จะถูกจัดเป็นสนามแข่งรถยนต์ที่เร็วที่สุด เบาที่สุด และเป็นรถยนต์ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดในกีฬามอเตอร์สปอร์ตแบบไฟฟ้า 100% สนามแข่งระยะทาง 2.6 กม. มีโค้งที่ท้าทาย 18 โค้ง ขณะที่มีทางตรงที่สามารถทำความเร็วสูง แฟนกีฬามากถึง 20,000 คน จะได้ชมการแสดงที่เกิดขึ้นโดยมีฉากหลังเป็นมหานครโตเกียวอันน่าทึ่ง

  1. การแข่งขันทั้งหมดเกิดขึ้นในหนึ่งวัน

การแข่งขัน ฟอมูล่า อี มีชื่อเสียงในด้านรูปแบบการแข่งขันที่รวดเร็ว การแข่งขันจะจัดขึ้นบนถนนชั่วคราว โดยจะมีการฝึกซ้อม การแข่งรอบคัดเลือก และการแข่งขันที่ทั้งหมดจะจัดขึ้นในวันเดียวกัน เนื่องจากจะมีข้อผิดพลาด และปัญหาเกิดขึ้นน้อยมาก ด้วยความล้ำสมัยทางเทคโนโลยี ซึ่งการเตรียมพร้อม และทักษะการขับรถจะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ นอกจากการขับขี่อันน่าตื่นเต้นแล้ว ผู้ชมยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหาร ดนตรีสด และเกมสำหรับแฟน ๆ อีกด้วย

  1. นิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายเดียวใน ฟอมูล่า อี

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยต่อหน้าผู้ชมทั่วโลก นิสสันจึงเข้าร่วมการแข่งรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในฤดูกาลที่ 5 (2018/19) ของ ABB FIA Formula E World Championship นับเป็นผู้ผลิตรายแรก และรายเดียวของญี่ปุ่นที่เข้าร่วมการแข่งนี้ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากระยะทางการขับขี่กว่า 16,000 ล้าน กิโลเมตร ที่ลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้านิสสันลีฟได้ขับ มีบทบาทสำคัญในการออกแบบเทคโนโลยีการแข่งขันของนิสสัน ในขณะเดียวกัน บทเรียนที่ได้รับจากสนามแข่งได้ช่วยกำหนดรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้บนท้องถนนรุ่นต่อไปของบริษัทฯ อีกด้วย

  1. รถแข่งฟอมูล่า อี Generation ที่ 3

รถแข่ง Gen 3 ของ ฟอมูล่า อี เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ยังมีมอเตอร์ที่ด้านหน้าสำหรับช่วยฟื้นฟูพลังงาน (regeneration) อีกด้วย พลังงานที่ใช้ในการแข่งขันอย่างน้อย 40% เกิดจากการเบรก และจ่ายพลังงานกลับขึ้นมาใหม่ ทำให้ รถแข่ง Gen 3 กลายเป็นรถแข่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก ผลิตกำลังได้มากกว่า Gen 2 รุ่นก่อนหน้าถึง 40% และมีกำลังสูงสุดถึง 350 กิโลวัตต์ และความเร็วสูงสุดถึง 322 กม./ชม. ทั้งยังเบา และเล็กกว่ารถยนต์ Gen 2 ช่วยให้รถสามารถทำความเร็วและมีความคล่องตัวมากขึ้น

  1. 5. การตกแต่งที่เปิดรับมรดกทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกมากมาย

ลายดอกซากุระของรถแข่ง นิสสัน เป็นการยกย่องให้กับความเป็นทีมจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการเริ่มต้นที่         กล้าหาญในการนำเสนอเทคโนโลยี EV และการตัดสินใจนำเสนอผ่านดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นสำหรับฤดูกาลที่ 10 นับเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมกับการแข่งขัน ฟอมูล่า อี ในบ้านครั้งแรกของ นิสสัน ต่อหน้าแฟน ๆ

  1. นักแข่ง: โอลิเวอร์ โรวแลนด์ และซาชา เฟเนสทราซ

ซาชา เฟเนสทราซ (Sacha Fenestraz) ผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่น และทำเวลาต่อรอบ ฟอมูล่า อี ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในการแข่งขัน Cape Town E-Prix ในการแข่งขันครั้งที่ห้าของเขากับทีม ขณะที่ โอลิเวอร์ โรวแลนด์ (Oliver Rowland) เข้าร่วมทีมในฐานะนักแข่งหน้าใหม่ในปี 2018 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ นิสสัน เปิดตัว ฟอมูล่าอี เขาคว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่น 6 ครั้ง และขึ้นโพเดี้ยมถึง 6 ครั้ง กับ    นิสสัน รวมถึงชัยชนะในปี 2020 ที่กรุงเบอร์ลิน นักแข่งทั้งสองร่วมมือกันวางกลยุทธ์ สนับสนุนซึ่งกันและกันนอกสนามแข่ง ขณะเดียวกันก็ช่วยกันผลักดันให้ถึงขีดจำกัดในการแข่งขัน

  1. 7. กลยุทธ์ของ ฟอมูล่า อี คือการเล่นกับช่วง Power Play

ด้วยความเชี่ยวชาญที่ยาวนานหลายทศวรรษในด้านระบบส่งกำลังแบบไฟฟ้า นิสสันจึงใช้ประโยชน์จากความรู้ความชำนาญที่กว้างขวางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับการแข่งขัน รถยนต์ ฟอมูล่า อี Gen3 ทุกคันใช้แบตเตอรี่ทั่วไป และมีกำลังสูงสุด 350 กิโลวัตต์ สิ่งที่ทำให้ ฟอมูล่า อี แตกต่างจากมอเตอร์สปอร์ตอื่นๆ คือการจัดการพลังงานเชิงกลยุทธ์ นักแข่งแต่ละคนจะขับในสนามแข่งด้วยการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์การแข่งขันและการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีเกี่ยวกับการจัดสรรกำลังในช่วง Power Play ซึ่งจะเป็นสิ่งที่กำหนดชัยชนะ

  1. ความตื่นเต้นทั้งหมดไม่มีเสียงดังรบกวนที่ทำอันตรายต่อการได้ยิน

เสียงแห่งอนาคตของนักแข่ง ฟอมูล่า อี อยู่ที่ประมาณ 80 เดซิเบล ซึ่งมากกว่าเสียงรถยนต์ทั่วไปเพียง 10 ระดับ ระดับเสียงที่ต่ำนี้ช่วยให้การแข่งขัน ฟอมูล่า อี สามารถจัดขึ้นได้ใกล้กับใจกลางเมือง และดึงดูดผู้ชมได้มากขึ้น เป็นงานที่ทั้งครอบครัวสามารถเพลิดเพลินได้ ฟอมูล่า อี ยังมีบทบาทในการให้ความรู้แก่ผู้ขับขี่เกี่ยวกับประสิทธิภาพที่น่าตื่นเต้นของยานยนต์ไฟฟ้า ผู้คนตระหนักมากขึ้นว่ายานยนต์ไฟฟ้านอกจากใช้งานได้จริง ยังมีประสิทธิภาพ ดีต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสนุกสนานในการขับขี่ 

  1. ความสำคัญของจิตใจ: โปรแกรม Brain to Performance

เช่นเดียวกับมอเตอร์สปอร์ตอื่น ๆ ฟอมูล่า อี ให้ความสำคัญกับการตัดสินใจของผู้ขับขี่ การตอบสนองที่รวดเร็ว และความยืดหยุ่นต่อภาวะความเครียด และความเหนื่อยล้า ด้วยโปรแกรม Brain to Performance ของนิสสัน ที่ใช้การถ่ายภาพสมอง และการวิเคราะห์ที่ล้ำสมัยเพื่อระบุลักษณะทางกายวิภาคที่เป็นเอกลักษณ์ของสมองของนักแข่งมืออาชีพ โปรแกรมการฝึกอบรมผู้ขับขี่แบบกำหนดเองได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองผ่านการทำแผนที่สมอง

  1. มุ่งสู่อนาคตที่สิ่งแวดล้อมที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น

ฟอมูล่า อี คือการแข่งขันชิงแชมป์โลก FIA ที่นั่งเดียวที่ใช้ไฟฟ้าเพียงชนิดเดียวในโลก และเป็นกีฬาระดับโลกประเภทแรกที่ได้รับการรับรองด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (net zero carbon footprint) นิสสัน และผู้ผลิตที่เข้าร่วมรายอื่น ๆ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่อันเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้น ผ่านความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาการปล่อยมลพิษที่เป็นศูนย์ และแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน

นอกเหนือจากชัยชนะในการแข่งขัน นิสสันเชื่อว่า ฟอมูล่า อี เป็นแพลตฟอร์มในอุดมคติที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญที่มีมานานหลายทศวรรษในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน


โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็คอินจุดชาร์จทั่วภาคใต้ เส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พาตะลุยเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศไลน์อัพสุดเร้าใจ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศนำทัพนวัตกรรมยานยนต์ล่าสุด มุ่งสู่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567

Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 สนามที่ 4 จ.เชียงใหม่ แข่งสุดมันส์ Night Show สุดอลังการ

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” พร้อมจัดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี

แขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” เผยว่า “ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม…ยานยนต์ล้ำอนาคต