หลังจากประกาศการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในปี 2567 นี้ ล่าสุด Chery Group อยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดตั้งบริษัทในชื่อ OMODA and JAECOO (Thailand) Co., Ltd. หรือ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด ได้เผยโฉมสเปกรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นแรกที่เตรียมนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย OMODA C5 EV (โอโมด้า ซี5 อีวี) รถยนต์ครอสโอเวอร์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% ความจุพลังงานแบตเตอรีไฟฟ้า 61 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า ด้วยประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงสุดถึง 94% และพลังงานสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ ทำให้มอเตอร์สามารถขับเคลื่อนรถยนต์ได้อย่างเต็มความสามารถ รถยนต์ OMODA C5 EV สามารถวิ่งได้ไกลสุด 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 7.8 วินาที ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 28 นาที พร้อมการออกแบบมาในสไตล์ Light of Movement สะท้อนตัวตนผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร พร้อมระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายอัจฉริยะแบบจัดเต็ม อาทิ กล้องแสดงภาพ 540 องศา ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA และระบบการตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ DMS เป็นต้น
หนึ่งในจุดเด่นของ OMODA C5 EV ดีไซน์แบบครอสโอเวอร์ ทำให้เกิดการเล่นแสงและเงาอย่างลงตัว ตรงกับคอนเซ็ปต์ “Light of Movement” ดีไซน์ที่ทันสมัย เหมาะกับผู้ขับขี่คนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์ เป็นผู้นำเทรนด์ที่ไม่ซ้ำใคร มาพร้อมกับกล้อง 540 องศา ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 เฉดสี หน้าจอแสดงผลขนาด 24.6 นิ้วแบบทัชสกรีน เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศ เสริมความสะดวกสบายและประสิทธิภาพให้กับผู้ขับขี่ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมาพร้อมกับลำโพง SONY 8 ตำแหน่งสุดกระหึ่ม
จัดเต็มด้วย 14 เทคโนโลยีความปลอดภัย 3 ฟังก์ชันระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DMS)
OMODA C5 EV มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานแบบจัดเต็ม พ่วงมากับ 14 เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ อย่างระบบ ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW) ระบบป้องกันการออกนอกเลน (LDP) ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (BSD) ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) ระบบแจ้งเตือนการออกตัว และระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DMS) เป็นต้น นอกจากนี้ OMODA C5 EV ยังมี 3 ระบบช่วยเหลือเพิ่มฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน (ICA) และระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ (TJA) รถ OMODA C5 EV ยังได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก Euro-NCAP ซึ่งนอกจากทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้ว ยังสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ทุกคนอีกด้วย
สำหรับสเปกและรายละเอียดทางเทคนิคทั้งหมดของรถ OMODA C5 EV ยังเป็นเพียงรถรุ่นต้นแบบก่อนผลิตจริง (พรีโปรดักชั่น) ซึ่งรถยนต์ที่จะนำมาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะมีรายละเอียดทางเทคนิคและฟังก์ชั่นที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย ซึ่งบริษัทฯ จะเปิดตัวรถยนต์ OMODA C5 EV ที่จำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งภายในปีนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามด้วยประสิทธิภาพและจุดเด่นทางเทคโนโลยีของ OMODA C5 EV ที่เผยให้เห็นถึงศักยภาพและความน่าดึงดูดของแบรนด์ OMODA ในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่กลุ่มผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ทำให้รถยนต์ OMODA C5 EV มีโอกาสอย่างสูงในการครองใจผู้ใช้รถในตลาดเมืองไทย
โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
GAC AION ปักหลักประเทศไทย เปิดโรงงานผลิต มุ่งเป็นฮับการผลิตและส่งออกทั่วโลก
บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) หรือ GAC AION ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลกสัญชาติจีน
คาร์เอ็กซ์ ผนึกกำลัง TPG X อัพเกรดธุรกิจรถมือสองในไทย
คาร์เอ็กซ์ (CARS x) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจซื้อ-ขายรถยนต์มือสองผ่านการบริหารแบบมืออาชีพ ด้วยการคัดสรรรถยนต์มือสองคุณภาพ
นิสสัน อัลเมร่า รุ่นปี 2024 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่
นิสสัน ยกระดับประสบการณ์การเดินทางใน “นิสสัน อัลเมร่า รุ่นปี 2024” (MY24) เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ด้วยเบาะโควเล่ โมดูเร่ (Quole Modure)
พร้อมเปิดตัว NETA X ในไทย 25 กรกฎาคมนี้
NETA พร้อมเปิดตัว NETA X รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ SUV อย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 25 กรกฎาคม นี้ ชูจุดเด่นของรถ SUV ที่พัฒนาขึ้น
Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 เปิดฤดูกาลแข่งขันสุดร้อนแรง
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 เปิดฤดูกาลแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ในรูปแบบ Street circuit ริมหาดบางแสน จ.ชลบุรี
ฟอร์ด เรนเจอร์ และมัสแตง คว้า 5 โพเดียม ที่ ‘บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2024’
ทีมแข่งฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ลุยศึกความเร็วสุดดุเดือด 'บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2024' โดยฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด มัสแตง คว้าทั้งหมด