เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวยนตรกรรมไฟฟ้า EQE 2 รุ่น พร้อมพลิกโฉมธุรกิจผ่านโมเดล “Retail of the Future”

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ลักชัวรี่ในงาน “Ambition for the Future” เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยผ่านวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” ดำเนินงานตามแผนด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electrification) เติมพอร์ตอีวีอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ลงตลาด 2 รุ่น “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” และ “Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+” นำเสนอผ่านนิยามใหม่ของยนตรกรรมไฟฟ้าจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ “Electric. Crafted by Mercedes-Benz” พร้อมเผยแนวคิดของโมเดลธุรกิจแห่งยุค “Retail of the Future” เตรียมพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก ในปี 2024 วางเป้าหมายในการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ และมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ให้กับลูกค้าครอบคลุมในทุกมิติ
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic คือรถเอสยูวีขนาดกลาง ในเซกเมนต์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยเช่นเดียวกันกับรุ่นแฟล็กชิพอย่าง EQS สะท้อนการออกแบบที่ผสานดีไซน์อันเหนือระดับเข้ากับความเหนือชั้นของฟังก์ชั่นและความสะดวกสบายตามแบบฉบับของรถเอสยูวี และอีกหนึ่งโมเดลที่ถูกพัฒนามาจากพื้นฐานของ EQE ก็คือ Mercedes-AMG EQE 53 ซึ่งถือเป็นสุดยอดยนตรกรรมสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประเทศไทย มาพร้อมกับจิตวิญญาณของ AMG ที่จะมอบสมรรถนะที่ทรงพลังและประสบการณ์การขับขี่ขั้นสุดให้กับลูกค้าทุกคนที่เป็นเจ้าของ
ภายในงาน “Ambition for the Future” เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เผยแนวคิดของโมเดลธุรกิจใหม่ที่มีชื่อว่า “Retail of the Future” โดยเตรียมปรับใช้ในช่วงต้นปี 2024 ด้วยเป้าหมายหลักในการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจค้าปลีกให้กับตลาดรถยนต์ระดับลักชัวรี่ในประเทศไทย ชูโมเดลธุรกิจที่เน้นความโปร่งใสของราคาและข้อเสนอจากผู้จำหน่ายฯ ที่ต้องเท่าเทียมกัน การจัดการความพร้อมของสต็อกรถยนต์ และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ภายใต้มาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย โดยที่ผู้จำหน่ายฯ จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุกขั้นตอนของการบริการลูกค้า นอกจากนี้ในโมเดลธุรกิจใหม่ จะไม่ได้เน้นเพียงแค่การขายรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่จะส่งเสริมเครือข่ายการค้าปลีกของแบรนด์ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ

โมเดลธุรกิจนี้จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะแบรนด์รถยนต์ระดับลักชัวรี่ที่มีความแข็งแกร่ง และสร้างความโปร่งใสในด้านราคาด้วยกระบวนการจัดการที่มีมาตรฐาน ลูกค้าทุกคนจะได้รับการเสนอราคาและข้อเสนอที่เหมาะสมที่สุดจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และสามารถเข้าถึงสต็อกของรถยนต์ทุกรุ่นจากทุกผู้จำหน่ายฯ ไม่ว่าจะเป็นผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ ซึ่งทางผู้จำหน่ายฯ จะอยู่ในทุกขั้นตอนการซื้อรถของลูกค้า ตั้งแต่การทำใบเสนอราคา การทดลองขับ จนไปถึงขั้นตอนการสั่งจอง และการส่งมอบรถยนต์ โดยโมเดลธุรกิจนี้จะทำให้ผู้จำหน่ายไม่ต้องแบกรับภาระด้านการจัดการคลังสินค้าและสต็อกรถยนต์ เพราะรถจะถูกนำส่งมาจากคลังสินค้ากลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งหมายความว่าผู้จำหน่ายฯ จะไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสต็อกและความเสี่ยงด้านต้นทุนของธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้จำหน่ายฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านการบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกคน

การแถลงวิสัยทัศน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงาน “Ambition for the Future” พร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่น ถือเป็นก้าวสำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยในปี 2024 เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีแผนที่จะขยายพอร์ตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” มาใช้ในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้า ยกระดับคุณค่าของแบรนด์ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้จำหน่ายฯ อย่างเป็นทางการ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์

หนึ่งในแผนงานหลักของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คือการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกรูปแบบ ตอกย้ำเป้าหมายระดับโลกในการทำให้รถยนต์ทุกรุ่นในพอร์ตเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในปี 2030 โดยล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้จัดเวิลด์พรีเมียร์ของรถยนต์ต้นแบบพลังงานไฟฟ้า “Mercedes-Benz CLA Concept” ที่งาน IAA Mobility 2023 แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและการนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัยในยุคดิจิทัล และในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการเดินหน้าขับเคลื่อนตลาดด้วยการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 2 รุ่นแรก อย่าง EQS และ EQB ขึ้นแท่นแบรนด์รถยนต์ระดับลักชั่วรี่แบรนด์แรกที่ผลิตแบตเตอรี่แรงดันสูงและประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทย

เพื่อตอกย้ำเป้าหมายในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในโมเดลของ Mercedes-Benz EQE พร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic ราคา 5,650,000 บาท และ Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ ราคา 5,950,000 บาท พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยได้เป็นเจ้าของสุดยอดยนตรกรรมทั้ง 2 รุ่น โดยสามารถจองผ่านช่องทางออนไลน์หรือติดต่อได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศ


โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชู 4 กลยุทธ์หลัก ผลักดันประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ย้ำประเทศไทย เป็นพื้นที่ยุทธศาตรที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและ

เอเอเอส กรุ๊ป ลงทุน 120 ล้านบาท จำหน่ายแบรนด์ AVATR พร้อมเปิดโชว์รูมใหม่ 2 สาขา

นายอนุวัชร อินทรภูวศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินฟินิท ออโตโมบิล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอเอเอส กรุ๊ป

ไพรม์มัส กรุ๊ป ต่อยอดความสำเร็จ ทุ่มงบ 50 ล้าน ผุดโชว์รูม ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี

“ไพรม์มัส กรุ๊ป” ต่อยอดความสำเร็จ เสริมความแกร่งกลุ่มธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ผุด “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” โชว์รูม