![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/05/Hyundai-STARGAZER_Exterior1101.jpg)
“ฮุนได สตาร์เกเซอร์” รถมินิเอ็มพีวี จากค่ายฮุนได ที่มาอวดโฉมในงาน Motor Show ครั้งที่ผ่านมา โดยรถยนต์รุ่นนี้ที่มีคู่แข่งอย่างโตโยต้า เวลอซ, ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7, มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มาวันนี้ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ได้จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์ฮุนได สตาร์เกเซอร์ เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสเป็นครั้งแรกภายใต้แนวคิด “สตาร์เกเซอร์ ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด” โดย ใช้เส้นทางทดสอบครอบคลุมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร บนเส้นทางระหว่างภูเก็ตและพังงา ซึ่งได้ทดสอบทั้งทางราบและทางโค้ง ท้าพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ ที่มอบความสบายตลอดเส้นทาง
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/05/Hyundai-STARGAZER_Exterior1082.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/05/Hyundai-STARGAZER_G4_155.jpg)
วันแรก นัดพบกันที่โรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ เพื่อรับฟังรายละเอียดและข้อมูลของ ผลิตภัณฑ์ จากนั้นเดินทางไปสนามบินเพื่อออกเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต โดยเริ่มต้นทดสอบทันทีจากสนามบินภูเก็ต เพื่อให้ได้สัมผัสความสบายไม่มีที่สิ้นสุด บนเส้นทางกว่า 200 กิโลเมตร ฮุนได สตาร์เกเซอร์ เป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์กับการออกแบบด้วยเส้นโค้งที่เฉียบคม (One Curve Design) พร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED เพียงเปิดประตู ผู้โดยสารจะพบกับห้องโดยสารกว้างขวาง ซึ่งออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิด ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด (Endless Comfortable) สำหรับพื้นที่บรรทุกสัมภาระนั้นเหนือระดับเช่นกัน ด้วยช่องเก็บของที่มีมากกว่า 30 ช่อง
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/05/Hyundai-STARGAZER_Interior_036.jpg)
จุดหมายแรกของการเดินทาง คือ ร้านอาหารบ้านอาจ้อ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ของอาคารสถาปัตยกรรมชิโน-โคโลเนียล อายุกว่า 87 ปี ที่นอกจากจะเป็นร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำโดยมิชลินไกด์แล้ว ตัวอาคารยังเป็นที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์บ้านอาจ้อ ที่จัดแสดงถ่ายทอดเรื่องราวของภูเก็ตในยุคที่แร่ดีบุกยังรุ่งเรือง และถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวเจ้าของบ้านหลังนี้ไว้อีกด้วย จากสนามบินมาถึงที่แห่งนี้เป็นเส้นทางระยะสั้นเพียง 20 กิโลเมตร ผู้โดยสารสามารถเอื้อมหยิบสัมภาระหรือเอกสาร ที่เก็บไว้ในช่องเก็บของหลังเบาะอย่างง่ายดาย หรือจะเลือกใช้อุปกรณ์สื่อสารที่สามารถชาร์จไฟได้พร้อมกันผ่านที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย และ ช่อง USB ซึ่งมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หลังอิ่มเอมไปกับอาหารกลางวัน ก็เดินทางมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไปกับ ฮุนได สตาร์เกเซอร์ สู่เสม็ดนางชี แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ จุดชมทัศนียภาพอ่าวพังงาแบบ 180 องศา ทำให้การทดสอบในครั้งนี้ทุกท่านได้เก็บภาพประทับใจก่อนมุ่งหน้าสู่ที่พัก ที่เขาหลัก ระยะทาง 90 กิโลเมตร ในการเดินทางช่วงนี้ ผู้ขับขี่ได้สัมผัสสมรรถนะเครื่องยนต์เบนซิน เทคโนโลยีสมาร์ทสตรีม เอ็มพีไอ ขนาด 1.5 ลิตร (Smartstream 1.5 MPI) ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติแบบไอวีที (IVT) ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย อีโค (Eco), นอร์มอล (Normal), สปอร์ต (Sport) และ สมาร์ท (Smart) โดยรูปแบบสมาร์ทจะปรับเปลี่ยนการตอบสนองอัตโนมัติ ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/05/Hyundai-STARGAZER_Interior_026.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/05/Hyundai-STARGAZER_Radio_06.jpg)
เช้าวันถัดมาเส้นทางทดสอบคือ เดินทางไปสู่สนามบิน ระยะทาง 84 กิโลเมตร โดยฮุนได สตาร์เกเซอร์ มอบความอุ่นใจให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่งตลอดการเดินทาง เพราะมีฮุนได สมาร์ทเซนส์* (Hyundai SmartSense) ระบบความปลอดภัยที่มอบความมั่นใจทุกการเดินทาง อาทิ ระบบช่วยเหลือและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (FCA) และ ระบบช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัย เมื่อมีรถในจุดอับสายตา (BCA) เมื่อขับถึงสนามบินก็เดินทางกลับ กทม.
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/05/Hyundai-STARGAZER_Exterior1130.jpg)
ผู้เขียนได้ทดลองขับ ต้องบอกว่ามินิเอ็มพีวีในราคาที่จับต้องได้คันนี้ ตอบโจทย์การใช้งานอรรถประโยชน์ ทั้งบรรทุกผู้โดยสารได้หลายคน รวมทั้งขนสัมภาระได้จุจริง ด้วยการพับเบาะที่หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ ส่วนของสมรรถนะและพละกำลังพอตัว ลองขับขึ้น-ลง ภูเขา และทางลาดชันพละกำลังทำได้พอตัว อาจจะไม่ได้แรงขนาดหลังติดเบาะ เพราะรถประเภทนี้เน้นการใช้งานรูปแบบครอบครัวเป็นหลัก ส่วนของน้ำหนักพวงมาลัยไม่หนักหรือเบาจนเกินไป และอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จากการทดลองขับจริงขับขึ้น-ลงเขา และใช้ความเร็วสูงในบางช่วง สลับรถติดในเมือง ทำได้ประมาณ 13.4 กม./ลิตร สิ่งที่ชื่นชอบอีกอย่างเป็นเรื่องของช่องเก็บของที่มีมากถึง 31 จุด ภายในดีไซน์แบบห้องนั่งเล่น ดูเรียบง่ายไม่หวือหวาแต่มีสไตล์ และประตูแถวที่สองเมื่อเปิดเต็มที่กว้างดี ทำให้ก้าวขึ้นลงรถได้ง่ายดาย สำหรับการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงถือว่าเงียบดี ส่วนของความกว้างของช่วงขา ช่วงศีรษะถือว่ากว้างดี ในส่วนของท๊อปสปีดทางฮุนไดเคลมมาที่ 175 กม./ชม. และการทำความเร็ว 0-100 อยู่ที่ 11.3 วินาที ช่องไวเลจชาร์จมีพัดลมระบายความร้อนทำให้ชาร์จมือถือได้รวดเร็วมากขึ้น ส่วนของระบบความปลอดภัยจัดเต็มใส่ระบบมาคุ้มค่ากับราคา นับเป็นรถครอบครัวที่มีราคาจับต้องได้ ระบบเกียร์ของฮุนได สตาร์เกเซอร์ คล้ายกับระบบเกียร์ของ ฮุนได เครต้า โดยใช้โซ่สายพานช่วยเพิ่มความทนทานและทำให้อัตราเร่งกระชับมากขึ้น
สำหรับ ฮุนได สตาร์เกเซอร์ มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นเทรนด์ , สไตล์ , สมาร์ท 6 และ สมาร์ท 7 พร้อมสีตัวถังหลายรูปแบบ ประกอบด้วย สีดำ มิดไนท์ แบล็ก เพิร์ล , สีขาว ครีมมี่ ไวท์ เพิร์ล , สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก , สีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก
ฮุนได สตาร์เกเซอร์ มีราคาเริ่มต้นที่ 769,000 บาท มาพร้อมกับข้อเสนอมากมาย อาทิ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, ฟรี การรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร, ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี และ ฟรี ค่าแรงบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล