NEW MG4 ELECTRIC ขับเคลื่อนล้อหลัง ขับสนุก ช่วงล่างดี

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ EV เตรียมแนะนำ NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็น “ต้นแบบ” และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ถือเป็นอีวีสายพันธุ์แท้ด้วยนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย ADVANCED SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM ให้อุ่นใจในทุกการขับขี่

NEW MG4 ELECTRIC ถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า100% ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง” (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ที่มาเปลี่ยนสมรรถนะของรถพลังงานไฟฟ้า ให้สนุกสนานเร้าใจยิ่งขึ้น ภายใต้มาตรฐานเดียวกับโกลบอลโมเดล ทั้งนวัตกรรมการขับขี่ไปจนถึงดีไซน์อันโดดเด่นที่ออกแบบให้เป็น รถพลังงานไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ด้วย 4 จุดเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่

NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM โครงสร้าง “เนบิวลา” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อยนตรกรรมไฟฟ้าโดยเฉพาะครั้งแรกของ เอ็มจี กับการเปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นในการนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ ไปจนถึงความสามารถในการรองรับแบตเตอรี่ ได้หลากหลายความจุ ที่นอกจากยกระดับการปกป้องแบตเตอรี่แล้ว พื้นที่ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวาง  มากขึ้นด้วย ซึ่ง NEW MG4 ELECTRIC ถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มนี้

NEW MG 4 ELECTRIC มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ “สนุกและเร้าใจ” ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY  ขนาดความจุ 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ ด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ ต่ำ กลาง สูง และ แบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) เพื่อให้เข้ากับการขับขี่ในทุกรูปแบบ ผสมผสานกับการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 พร้อมตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) สอดคล้องกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ที่ไม่เพียงแค่ ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวท้องถนนได้ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย สะดวกกับการขับขี่ในพื้นที่ตัวเมืองได้อย่างคล่องแคล่วด้วย รัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 เมตร และมี Overhang ด้านหน้าและหลังของรถที่สั้น

อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ไปอีกระดับด้วยโหมด INTELLIGENT SMART ACCESS ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถ  สตาร์ทรถได้อัตโนมัติเพียงเหยียบเบรก และเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ต่อเนื่อง รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88kW และการชาร์จแบบเร็ว หรือ Quick charge จาก 10% - 80% ในเวลาเพียง 35 นาที พร้อมเปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกรถด้วยระบบ V2L

NEW MG4 ELECTRIC มาพร้อมกับ Semi-autonomous driving system มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบ ความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ถึง 26 ระบบ  ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ระบบช่วยเตือนอุบัติเหตุจากมุมอับสายตา และระบบช่วยควบคุมการขับขี่ อาทิ ระบบช่วยเบรกขณะถอย (RCTB) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System) ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยไปอีกขั้น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เอ็มจี ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check) ที่ครอบคลุมระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ ไปจนถึงการค้นหาสถานีชาร์จ โดยล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ BATTERY DOCTOR บนแอพพลิเคชั่น MG THAILAND บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน ท้ายที่สุด ยังช่วยให้การเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command) และ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)

NEW MG4 ELECTRIC ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White)  ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า   “จากจุดเริ่มต้นในการเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกให้กับตลาดยานยนต์ EV สู่ประเทศไทยกับ MG ZS EV จนถึงปัจจุบัน  ที่เราพร้อมนำเสนอ NEW MG4 ELECTRIC ที่จะเข้าเติมเต็มและพลิกโฉมวงการยานยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง  กับ “The First Rear Wheel Drive EV” พร้อมกับนวัตกรรมอันล้ำสมัยที่ทางเอ็มจีได้พัฒนา ที่นอกจากจะมัดรวมความคุ้มค่าทั้งด้านดีไซน์ที่สะดุดตาและเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ให้ประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสนุกและคล่องตัวยิ่งขึ้นอีกด้วย และยังให้ความมั่นใจในด้านความปลอดภัยเมื่ออยู่บนท้องถนน  โดยนอกจากความมุ่งมั่นในการก้าวสู่การเป็นผู้ริเริ่มของตลาดรถยนต์ EV แล้ว เอ็มจียังเล็งเห็นถึงความสำคัญ  ในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้าที่ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการพัฒนาสถานีชาร์จ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ และสร้างความมั่นใจด้วยศูนย์บริการที่สามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้าจาก เอ็มจี ได้ทุกรุ่นกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์พลังงานสะอาดได้มั่นใจยิ่งขึ้น”


โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชู 4 กลยุทธ์หลัก ผลักดันประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ย้ำประเทศไทย เป็นพื้นที่ยุทธศาตรที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและ

เอเอเอส กรุ๊ป ลงทุน 120 ล้านบาท จำหน่ายแบรนด์ AVATR พร้อมเปิดโชว์รูมใหม่ 2 สาขา

นายอนุวัชร อินทรภูวศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินฟินิท ออโตโมบิล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอเอเอส กรุ๊ป

ไพรม์มัส กรุ๊ป ต่อยอดความสำเร็จ ทุ่มงบ 50 ล้าน ผุดโชว์รูม ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี

“ไพรม์มัส กรุ๊ป” ต่อยอดความสำเร็จ เสริมความแกร่งกลุ่มธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ผุด “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” โชว์รูม