HAVAL H6 PHEV ขับไฟฟ้าวิ่งได้ไกลถึง 201 กม.

All New HAVAL H6 Plug-In Hybrid เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้รับการอัพเกรดระบบการเสียบปลั๊กชาร์จไฟเพิ่มเติมเข้ามา พร้อมด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและความจุแบตเตอรี่ที่มากขึ้น พร้อมกับระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 201 กิโลเมตร

All New HAVAL H6 Plug-In Hybrid เผยโฉมครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย ในงาน Motor Expo 2021 ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม  นับเป็นการยืนยันได้ถึงกระแสที่ร้อนแรงของรถยนต์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี ล่าสุด Great Wall Motor ประเทศไทย ได้นำรถรุ่นนี้กลับมาจัดแสดงที่งาน Bangkok International Motor Show 2022 อีกครั้ง เป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และโชว์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของรถยนต์รุ่นนี้ให้ลูกค้าที่สนใจได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ก่อนจะประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid คือ การพัฒนาต่อยอดจากรถเอสยูวี HAVAL H6 Hybrid ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON PLATFORM คือ แพลตฟอร์มเทคโนโลยีโมดูลาร์อัจฉริยะระดับโลกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการขับขี่แห่งอนาคต ออกแบบมาให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการขับขี่ ความปลอดภัย มีน้ำหนักเบา สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ และผสานรวมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จุดเด่นของแพล็ตฟอร์ม GWM LEMON คือโครงสร้างตัวถังมีความต้านทานแรงบิดและความแข็งแรงโดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง High-strength steel ในการทำตัวโครงสร้างมากกว่า 70% และเหล็กความแข็งแรงสูงที่ 2000 MPa ผสานกับการออกแบบที่สามารถดูดซับแรงกระแทกแบบรอบทิศทางทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายของตัวรถ เพื่อป้องกันอันตรายแบบรอบด้าน ลดอาการบาดเจ็บและการสูญเสีย นอกจากนี้ยังมาพร้อมจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันรถก็ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครบครันไม่ว่าจะระบบถุงลมนิรภัยรอบห้องโดยสาร 6 ตำแหน่ง ทำงานร่วมกับระบบรองรับแรงกระแทกรอบตัวรถ และเข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถอย่างสูงสุดในการปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid มีมิติตัวรถ 1,886 x 4,683 x 1,730 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,738 มม.โดยดีไซน์ภายนอกของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ภาพรวมมีความคล้ายคลึงกับ HAVAL H6 Hybrid แต่ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ดีไซน์หน้ารถแบบ Star Matrix ซึ่งเป็นมิติใหม่แห่งการออกแบบ เพิ่มมิติให้ดูล้ำสมัย ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม ไล่ระดับช่องระบายอากาศอย่างมีมิติ เป็นเอกลักษณ์ ชวนให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหว พร้อมกับตกแต่งเล่นลวดลายกราฟิกเป็นแถบริ้วเล็ก ๆ เรียวยาว กระจังหน้าถูกออกแบบให้รับกับโคมไฟหน้าอย่างลงตัว ส่วนบริเวณด้านล่างมีลักษณะเป็นตะแกรงรังผึ้งสีดำสำหรับรับอากาศเข้าไประบายความร้อนเครื่องยนต์และเป็นที่อยู่ของอุปกรณ์เรดาร์หน้ารถ ขณะที่ชายล่างของกันชนหน้าตกแต่งด้วยแถบโครเมียมและเป็นส่วนของพลาสติกกันกระแทกสีดำ ให้ภาพลักษณ์ที่ดูบึกบึนได้เป็นอย่างดี ส่วนต่อมาที่มีการเปลี่ยนแปลงคือไฟตัดหมอก LED ถูกย้ายตำแหน่งให้ดูสวยงามลงตัวมากขึ้น ระบบไฟหน้าของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นแบบ Intelligent LED Headlamp ดีไซน์เฉียบคมและทันสมัย ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow ชัดเจน ให้ความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home) มาพร้อมกับไฟ Daytime Running Light ดีไซน์เส้นสวยคม

ด้านข้างมาพร้อมคิ้วขอบล้อพลาสติกสีดำเชื่อมต่อกับแถบสเกิร์ตพลาสติกด้านข้างสีดำ เสริมความหรูหราด้วยแถบโครเมียมตกแต่งที่ชายล่างขอบประตู และกรอบกระจกหน้าต่างโครเมียม ติดตั้งราวหลังคาสีเงินมาเป็นมาตรฐาน ในส่วนของมือจับประตูและกระจกมองข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถ ขณะที่ล้ออัลลอยมีขนาด 19 นิ้ว ลวดลายแบบสปอร์ตให้ความสวยงามลงตัวกับดีไซน์ในภาพรวมของรถเป็นอย่างดี มาพร้อมกับยางขนาด 235/55 R19 ทั้ง 4 ล้อ เป็นยางประสิทธิภาพสูงที่เหมาะสมกับสมรรถนะของรถ ให้ความนุ่ม เงียบ และช่วยเรื่องการควบคุมได้ดี

ด้านท้ายโดดเด่นด้วยแถบไฟท้าย LED Taillight Strip คาดยาวเต็มความกว้าง ให้ความสวยงาม ทันสมัย และมองเห็นเด่นชัดในเวลากลางคืน เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่มีไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ในตัวและเสาอากาศครีบฉลาม ในส่วนของกันชนท้ายมีแถบพลาสติกกันกระแทกสีดำพร้อมครีบสไตล์สปอร์ตและมีแถบเรืองแสงในตัว ท่อไอเสียถูกซ่อนไว้ใต้กันชนเรียบร้อย ปิดท้ายความพรีเมียมด้วยแถบโครเมียมตกแต่งบริเวณประตูท้ายพร้อมตัวอักษร HAVAL เด่นชัดสวยงาม โดดเด่นด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ 360 องศาขนาดใหญ่ 1.2 ตารางเมตร ครอบคลุมเบาะนั่งตอนหน้าและตอนหลัง เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบกดครั้งเดียว ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสาร, ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ใช้การเตะเท้าไปใต้กันชนหลังเพื่อเปิดหรือปิดประตูท้ายโดยอัตโนมัติ นอกจากออปชั่นสองอย่างนี้แล้ว All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ก็ยังมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว ระบบไล่ฝ้ากระจกบานหน้าและหลัง ระบบล็อกรถอัตโนมัติ เป็นต้น

 

ข้อแตกต่างอีกจุดระหว่าง All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid กับ HAVAL H6 Hybrid คือช่องสำหรับชาร์จไฟบริเวณเหนือซุ้มล้อหลังด้านขวา ซึ่งเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดมีมาให้ส่วนเวอร์ไฮบริดธรรมดาจะไม่มี โดยการชาร์จไฟของ HAVAL H6 Plug-in Hybrid จะรองรับทั้งการชาร์จปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ผ่านหัวชาร์จ Type 2 และการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ผ่านหัวชาร์จ CCS Combo

 

ห้องโดยสารของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ในแง่รูปแบบดีไซน์นั้นไม่แตกต่างจาก HAVAL H6 Hybrid มีจุดแตกต่างคือ สีห้องโดยสารที่มาในโทนดำ-เทา ภายใต้แนวคิด Minimalist คอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black, Chrome ให้ความโมเดิร์นในสไตล์ Futuristic ประกอบกับการใช้วัสดุและงานผลิตคุณภาพสูง แดชบอร์ด แผงประตู คอนโซลกลาง หุ้มด้วยหนังบุนุ่มคุณภาพดี พร้อมยังมีการตกแต่งด้วยไฟเรืองแสง Ambient Light สำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์คุณภาพดีพร้อมการตัดเย็บที่ประณีต เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ นอกจากนี้เบาะนั่งคู่หน้าทั้งสองตัวยังมีระบบระบายอากาศให้มาด้วย

 

พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง-เข้า-ออก มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มควบคุมจอมาตรวัดดิจิตอลครบครัน ในส่วนของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะมีเป็นก้านปรับที่บริเวณคอพวงมาลัย มาตรวัดเป็นจอดิจิตอลความละเอียดสูง HD Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 10.25 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ครบครัน มาพร้อมกราฟิกที่สวยงาม สีสันต่างๆ คมชัด อ่านค่าง่าย มีจอแสดงข้อมูลขับขี่บนกระจกบังลมหน้าหรือ Head-up Display ให้ผู้ขับได้รู้ข้อมูลการขับขี่สำคัญได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน แป้นเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า Electronic Shifter ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High gloss การเปลี่ยนเกียร์ใช้วิธีการหมุน โดยหมุนซ้ายสุดเป็นเกียร์ R หมุนมาตรงกลางเป็นเกียร์ N หมุนมาขวาสุดเป็นเกียร์ D กดปุ่มตรงกลางเป็นเกียร์ P สำหรับจอด ใช้งานง่าย และใกล้ๆ กันยังมีปุ่มกดเบรกมือไฟฟ้าและปุ่มฟังก์ชัน Auto Brake Hold มาให้ใช้งานอย่างครบครัน

 

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันไม่ต่างจาก HAVAL H6 Hybrid เบาะนั่งตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวาง เบาะใหญ่ นุ่ม นั่งสบาย การขึ้น-ลงรถง่าย พนักพิงหลังมีองศาความเอนกำลังดี มีที่วางแขนกลางเบาะนั่งด้านหลัง สามารถพับพนักพิงแยกอิสระได้ในอัตราส่วน 60/40 สำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บของ ในส่วนของห้องเก็บสัมภาระมีความจุที่ใหญ่พอสมควรพร้อมด้วยแผงกั้นสัมภาระด้านท้ายที่สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ

 

ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิ 2 โซนซ้าย-ขวา พร้อมระบบไส้กรองอากาศ CN95 สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ได้ละเอียดหมดจด และมาพร้อมกับช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังครบครัน ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสารอื่นๆ ก็มีครบ ได้แก่ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start, ช่องชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย Wireless Charger, ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, คอนโซลกลางแบบ 2 ชั้นพร้อมที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำ, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, กระจกหน้าต่างปรับไฟฟ้า, กุญแจ Smart Key

 

ระบบความบันเทิงที่ทันสมัยที่สุด แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสแบบลอยตัว HD Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว บริเวณกึ่งกลางแดชบอร์ดที่มาพร้อมกับความบันเทิงเต็มรูปแบบและฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์และการสตรีมเพลงผ่านแอปพลิเคชันฟังเพลงชั้นนำอย่าง Joox รวมถึงรับข้อมูลข่าวสาร พยากรณ์อากาศ รายงานสภาพการจราจร เป็นต้น นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สายด้วยสัญญาณ Bluetooth มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ที่ละเอียดและแม่นยำ ตลอดจนรองรับการสั่งงานด้วยเสียง Voice Command สำหรับตั้งค่าต่างๆ ภายในรถเช่น สั่งปรับอุณหภูมิแอร์ สั่งเปิดหน้าต่าง สั่งเปิดวิทยุ ค้นหาเพลง ค้นหาสถานที่ ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ หน้าจอ 12.3 นิ้วยังรวมการตั้งค่าสำคัญของรถเอาไว้ทั้งหมด ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ การตั้งค่าตัวรถ ระบบแสงสว่าง ระบบความปลอดภัย สถานะการใช้พลังงาน ตลอดจนโหมดการขับขี่ นอกจากจะมาพร้อมกับฟีเจอร์สุดล้ำมากมายแล้ว All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ยังรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน GWM Application บนมือถือ ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android เมื่อมีแอปฯ นี้ คุณจะสามารถตรวจสอบและสั่งการรถยนต์ได้จากสมาร์ทโฟน ระบบเสียง จะเป็นชุดลำโพง 8 ตัวรอบห้องโดยสารพร้อม Treble Woofer และระบบ DTS ให้มิติเสียงรอบทิศทางที่มีความสมจริง คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม และมีระบบปรับระดับเสียงดัง-เบาอัตโนมัติตามความเร็วที่รถวิ่ง

 

ระบบขับเคลื่อนไฮบริดประสิทธิภาพสูง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC จ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ขนาดความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้าพร้อมเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid สามารถทำได้สูงสุดถึง 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC ถือว่ามากที่สุดของรถปลั๊กอินไฮบริดที่มีจำหน่ายในเมืองไทย ณ เวลานี้ ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ เดินทางได้ไกลโดยไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละคน และสภาพการจราจร)

 

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า แต่ละระบบมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด, และโหมดสภาพถนนลื่น นอกจากนี้รถยังมาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีเยี่ยมและปล่อยมลพิษต่ำมาก ทุกครั้งที่ยกคันเร่งหรือเบรก รถจะแปลงพลังงานที่เกิดขึ้นเป็นไฟฟ้าชาร์จกลับไปเก็บที่แบตเตอรี่ ซึ่งกระบวนการนี้ผู้ขับยังสามารถปรับระดับความหน่วงของระบบ Energy Recuperation ได้ 3 ระดับ

 

แบตเตอรี่ของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh รองรับหัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จทั้งแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จปกติด้วยไฟบ้าน (AC) ระยะเวลาในการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) ประมาณ 35 นาที ส่วนการชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0% – 100%) ประมาณ 6 ชั่วโมง

 

ระบบช่วงล่างของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นชุดเดียวกับ HAVAL H6 Hybrid มาตรฐาน โดยกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง มีจุดเด่นที่มีความนุ่มนวล ดูดซับแรงสะเทือนได้ดี พร้อมกับให้ความมั่นคง ยึดเกาะดี และมีเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีทั้งทางตรงและการเข้าโค้ง ขณะที่ระบบบังคับเลี้ยวเป็นพวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า EPS มีจุดเด่นที่ความนุ่มนวลและเบาสบาย และยังให้การตอบสนองที่แม่นยำ เฉียบคม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถโดยรวมนั้นง่าย และยังสามารถปรับตั้งค่าน้ำหนักพวงมาลัยได้ 3 ระดับ ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ โดยเบรกหน้ามีครีบสำหรับช่วยระบายความร้อน ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเบรกให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรก BA และมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันกับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันมาให้ครบ

 

เทคโนโลยีช่วยขับขี่ของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ให้มาไม่แตกต่างจาก HAVAL H6 Hybrid โดยฟีเจอร์ที่เป็นดั่งจุดขายของรถรุ่นนี้ก็คือระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ IIP ที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกได้ทั้งการจอดแบบเข้าซอง จอดแบบขนานฟุตบาธ และจอดตามแนวเฉียง ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการจอดในสถานที่ต่างๆ ได้ดี ทั้งยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ  ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กม./ชม. และยังมีระบบต่างๆอีกเพียบ

 

ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานให้มาอย่างครบครัน ไฮไลท์เด่นคือ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศาที่สามารถแสดงภาพได้อย่างคมชัด สมจริง และดูง่าย มาพร้อมกับระบบเซนเซอร์แจ้งเตือนระยะด้านหน้าและด้านหลัง และก็ยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล, ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ, ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก, ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู, ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่ากำหนด ในส่วนของถุงลมนิรภัยมีทั้งหมด 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX มาให้ที่บริเวณเบาะหลัง ทั้งนี้ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ไม่มีล้ออะไหล่แต่ให้เป็นชุดปะยางฉุกเฉินมาแทน

 

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ยุคใหม่ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย อัดแน่นด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 201 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในกลุ่มรถปลั๊กอินไฮบริดที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ณ เวลาปัจจุบัน ซึ่ง All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid นับเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย


โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Toyota Gazoo Racing Thailand 2024 สนามที่ 4 จ.เชียงใหม่ แข่งสุดมันส์ Night Show สุดอลังการ

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” พร้อมจัดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี

แขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” เผยว่า “ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม…ยานยนต์ล้ำอนาคต

บีวายดี และ เรเว่ ผนึก ช่อง 3 ลงพื้นที่อุทกภัยเชียงราย

บีวายดี บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต นำโดยนายเคอ ยู่ปิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด