เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา มีคำพระที่ว่า..
.. อย่าหวังความสุข บนความทุกข์ของผู้อื่น
อย่าหวังความร่ำรวย บนความยากจนเข็ญใจของผู้อื่น
อย่าหวังฐานะ ยศ ศักดิ์ จากความตกต่ำของผู้อื่น
อย่าหวังความสำเร็จ .. บนความหายนะของผู้อื่น
... อย่าหวังความรัก .... จากความเห็นแก่ตัว
อย่าหวังบุญกุศล .. จากการทำทุจริตของตน..!!
ซึ่งสอดรับกับภาษิตที่ว่า..
ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า..
ความชั่ว ย่อมเผาผลาญในภายหลัง
ตราบใดที่บาปยังไม่ให้ผล
คนเขลายังเข้าใจว่า มีรสหวาน
แต่เมื่อบาปให้ผลเมื่อใด
คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น...
เมื่อกลัวความทุกข์ ไม่รักทุกข์
ก็อย่าทำบาปกรรมทั้งในที่แจ้งและที่ลับ
ผู้ใดหวังสุขแก่ตนโดยการก่อทุกข์ให้ผู้อื่น
ผู้นั้นเป็นผู้ระคนด้วยเวร ย่อมไม่พ้นจากเวร
นักปราชญ์มองเห็นอยู่ว่า เพราะสละสุขพอประมาณ จึงพบสุขอันไพบูลย์
ฉะนั้น จึงสละสุขพอประมาณเสีย เพื่อสุขอันไพบูลย์...
อนึ่ง ความบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตน
ใครอื่นจะทำอีกคนหนึ่งให้บริสุทธิ์ไม่ได้
สมดังพุทธภาษิตที่ว่า...
สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย
วันมาฆบูชา ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้ผ่านพ้นไปตามกาลเวลา.. แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตาม คือ พระโอวาทปาฏิโมกข์.. อันเป็นประธานแห่งพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศเพื่อสถาปนาสังฆมณฑลให้ถึงความพรั่งพร้อมมั่นคงไพบูลย์โดยอำนาจธรรม เพื่อให้หมู่พระสงฆ์ผู้เชื่อฟัง ได้น้อมรับ หลักการ อุดมการณ์และข้อปฏิบัติ มาศึกษาปฏิบัติ จะได้มีฉันทะอัธยาศัยร่วมกับพระบรมศาสดาในการมีหลักการ อุดมการณ์และข้อปฏิบัติเป็นอย่างเดียวกัน ที่จะนำไปสู่การเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน เพื่อชนนิกรทั้งหลายจะได้ศึกษาปฏิบัติธรรม ในฐานะพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า...
การนอบน้อมบูชาพระโอวาทปาฏิโมกข์จึงเป็นวิสัยของพระสงฆ์สาวกในพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างแท้จริง..
จึงควรปลูกฝังไว้ในจิตใจในฐานะพุทธบริษัทของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่จะได้ดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบมีแบบแผนบนเส้นทางที่มุ่งสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน.. และนี่คือความสวยงามของพระพุทธศาสนาที่น่าศรัทธายิ่ง...
เมื่อ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ .. ได้เดินทางไปพำนักบนเขตป่าต้นน้ำโซนเอ เทือกเขานาคเกิด อันเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี.. ที่ได้รับการยกฐานะเป็น พุทธอุทยานการศึกษา.. ตามข้อตกลงของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.. เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันมาฆบูชาดังเช่นปีที่ผ่านมา...
การไปเยี่ยมสำนักวัดป่าฯ ในครั้งนี้ ได้พบเห็นร่องรอยการบุกรุกแบ่งพื้นที่ป่าไม้ของชาวบ้านบางกลุ่มที่ฝังตัวมีอิทธิพลในพื้นที่ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตป่าอนุรักษ์ต้นน้ำที่มีกฎหมายคุ้มครอง ห้ามมิให้ผู้ใดบุกรุกเข้าไปถือสิทธิ์ครอบครองแผ้วถางทำลาย..
เดิมทีก็อดแปลกใจมิได้ว่า.. ทำไมมีชาวบ้านขึ้นไปอาศัยทำกินกันอย่างเปิดเผย.. ทั้งที่ไม่สามารถออกสิทธิ์ทำกินหรือถือสิทธิ์ครอบครองใดๆ ตามกฎหมายได้...
โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นการตัดแบ่งพื้นที่ป่าไม้.. เพื่อให้บุคคลเข้าไปปักหลักกั้นเขตถือครองกันอย่างเปิดเผย ดังภาพปักหลักลงแนวเขต ปักแนวรั้ว.. เพื่อแสดงความเป็นพื้นที่ของบุคคล.. ดุจดังที่ดินที่สามารถถือสิทธิ์ครอบครองได้ตามกฎหมาย ก็ยิ่งแปลกใจ... ว่า ทำไม .. ทำไม!?
ยังปรากฏข่าวสารว่า มีการใช้พื้นที่บนป่าภูเขาดังกล่าว โดยผู้บุกรุกครอบครองไปในการทำธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยว
จึงได้เห็นการใช้เส้นทางขึ้นลงป่าภูเขาในเขตป่าไม้เหล่านั้น ที่ไม่ว่างเว้นจากการสัญจรด้วยรถยนต์ มอเตอร์ไซค์.. และยิ่งนานวัน ยิ่งมากขึ้น จนแลดูเป็นปกติ...
จึงดูออกเป็นเรื่องปกติเมื่อได้เห็นกลุ่มบุคคลขึ้นไปสร้างที่พักอาศัย.. ในพื้นที่ป่าไม้ที่ถือสิทธิ์ครอบครองทำกินกันอย่างเปิดเผย...
วันดีคืนดี.. ก็จะได้ยินเสียงตัดต้นไม้ ถางแนว เผาป่า.. ที่ดูเหมือนทำกันเป็นกระบวนการ.. เพื่อบุกรุกเข้าไปถือสิทธิ์ครอบครองในแนวป่าสมบูรณ์ที่ยังคงมีเหลืออยู่บ้าง แม้ไม่มากนัก โดยเฉพาะที่อยู่ในเขตพื้นที่ติดต่อกับ พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี...
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยบารมีของ พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี.. ที่ประชาชนในพื้นที่ภูเก็ตมีความศรัทธา.. จึงยังได้เห็นป่าไม้ต้นน้ำที่ยังอุดมสมบูรณ์.. ด้วยการทำงานร่วมระหว่าง พระสงฆ์ของสำนักสงฆ์พระธาตุภูหว้ารัตนคีรีแห่งนี้กับโครงการป่าไม้ชุมชนบ้านไม้เรียบ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต.. ที่พยายามกันอย่างเต็มกำลัง.. แม้จะมีพลังรวมกันไม่มากนัก...
ถึงแม้ว่าจะมีโครงการป่าไม้ชุมชนเข้ามาช่วยกันดูแลร่วมกับทางพระสงฆ์ที่มีที่พักหรือสำนักอยู่ในเขตป่า แต่ก็หาประกันได้ไม่ว่า จะไม่มีการบุกรุกทำลายป่าไม้สมบูรณ์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เพื่อการเข้าถือครองทำกิน... ทั้งนี้ เพราะการขาดแรงสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐ...
ภาพการบุกรุกเข้าไปทำลายพื้นที่ป่าไม้จึงยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อว่าสักวันหนึ่งจะได้หาความชอบธรรมในการเข้าไปถือสิทธิ์ครอบครอง ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นบนพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำดังกล่าว ที่ สำนักสงฆ์วัดป่าเทสรังสี (พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี) หรือพุทธอุทยาน.. อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้บันทึกเหตุการณ์เล่าว่า..
“เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลาประมาณ ๐๙.๕๕ น. มีชายฉกรรจ์ ๓ คน พร้อมมีดพร้า ได้เดินทางโดยรถยนต์ขึ้นไปบนป่าต้นน้ำโซนเอและได้พากันเดินเข้าไปในเขตที่พักสงฆ์พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานป่าไม้ให้สามารถใช้เป็นที่พักสงฆ์ในรูปของพุทธอุทยานได้.. เพื่อจะได้ช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงเหลืออยู่ไม่มาก ให้เป็นป่าสมบูรณ์ต้นน้ำของประเทศชาติสืบไป
โดยหนึ่งในสามคนได้กล่าวแจ้งพระภิกษุว่า จะมาถางแนวป่าติดกับเขตที่พักสงฆ์ฯ โดยอ้างว่าเป็นที่ดินในการครอบครองของตน.. ทั้งนี้ได้อ้างพาดพิงว่าได้รับอนุญาตมาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง.. ซึ่งต่อมาได้รับทราบว่าชายฉกรรจ์อีก ๒ คนเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของรัฐจริง.. ดังภาพถ่ายที่พระภิกษุได้บันทึกไว้ทั้งหมด...”
เมื่อทางญาติโยมที่มีศรัทธาในสำนักฯ พระธาตุภูหว้าแห่งนี้ ได้ทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้ประสานไปยังจังหวัดภูเก็ต.. ที่ต่อมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ.. โดยในระหว่างนั้น ทางพระสงฆ์และญาติโยมช่วยกันถ่ายภาพไว้.. จึงทำให้ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าว..ได้รู้ตัวจึงรีบหลบหนีออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว... ทำให้คลาดกับเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดที่กำลังเดินทางเข้ามา...”
จริงๆ แล้วเรื่องดังกล่าวมีรายละเอียดเชิงลึกมากกว่าที่นำมาบอกกล่าว.. ด้วยไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ทั้งหมด แต่จากข้อมูลที่ได้รับทราบ เมื่อนำมาพิจารณาในเชิงลึกก็จะพบพฤติกรรมการโยงใยสัมพันธ์กันของกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายที่มีพฤติกรรมร่วมกันในการบุกรุกทำลายป่าไม้ของบ้านเมือง.. ที่ควรสงวนไว้ตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน จึงนำมาสู่คำตอบที่ว่า....
“ทำไมขบวนการตัดไม้ทำลายป่า.. เพื่อบุกรุกครอบครองถือสิทธิ์ทำกิน.. จึงไม่หมดสิ้นบนแผ่นดินไทย....!?”
เรื่องดังกล่าวคงจะเป็นหัวข้อที่ควรติดตามศึกษากันต่อไป.. จะได้นำไปสู่การเรียนรู้ร่วมกันในภาคประชาชน โดยเฉพาะระหว่างวัด/สำนักสงฆ์กับชุมชน... ที่ควรตื่นตัวขึ้นมาอย่างมีจิตสำนึก.. เพื่อปกป้องรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรของประเทศชาติ...
ดังนั้น เมื่อได้รับฟังเรื่องดังกล่าว.. จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า.. บางทีการตั้งกลุ่มจิตอาสา.. เพื่อพิทักษ์ป่าต้นน้ำ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด.. ในวิกฤตการณ์การทำลายป่าไม้ของแผ่นดินในปัจจุบัน โดยเฉพาะบนเกาะภูเก็ตแห่งนี้!!.
เจริญพร
dhamma_araya@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตสาหกรรมผลิต-ขายอาวุธ ในประเทศไทยโตพุ่ง 150%
เรื่อง งบซื้ออาวุธ ของ กองทัพ เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมาตลอด เพราะงบซื้ออาวุธคือเงินภาษีประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาถูกตั้งคำถามถึงเหตุผล-ความจำเป็น ตลอดจนเสียงวิจารณ์เรื่องความโปร่งใสในการจัดซื้ออาวุธ
บอกมาให้ชัด ต้องการใช้พื้นที่ การท่าเรือฯ-คลองเตย ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
พูดตรงๆ ถ้าอยากได้ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนใส่ไว้เลยว่าตรงพื้นที่ของการท่าเรือฯ มหาศาลตรงนั้น หากจะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จะให้มีพื้นที่กาสิโนเท่าใด..ทำแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าต้องเอาให้ชัด..ในอนาคตต่อไปหากจะให้ชี้ได้หลายที่แบบในกฎหมายเขียน ผมว่ามันไม่ใช่ Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ แต่จะกลายเป็นโมเดลแบบที่ลาว กัมพูชา ในอนาคต ซึ่งมันจะไม่ดี..แต่หากเอาที่เดียวแบบเจาะๆ มันจะชัดกว่าหรือไม่ ก็พูดดังๆ เลยหากจะเอาพื้นที่ตรงการท่าเรือฯ คลองเตย
กรณีบ่อนกาสิโน.. สู่กระแสอารยธรรม .. ที่น่าชื่นชม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ... ในห้วงเวลาที่สังคมไทยได้รับผลจากแผ่นดินไหว ตึกถล่ม.. เกิดการสูญเสียชีวิตของคนจำนวนหนึ่ง เมื่อ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา นับเป็นห้วงเวลาแห่งความกังวล ห่วงใยในภัยอันตรายจากธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงกับภัยร้ายอันเกิดจากการกระทำของคนเรา..
ศ. ดร.ไชยันต์ ไชยพร กับการสมัครชิง ตุลาการศาล รธน. มั่นใจ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม
การรับสมัครเพื่อสรรหาและคัดเลือก "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ใหม่สองคน เพื่อมาแทน ศ. ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
สว.จี้รัฐบาลถอน ร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกไปจากสภาฯ ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้
สภาผู้แทนราษฎรได้ปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการพิจารณา"ร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..ฯ"เพราะรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการผลักดันให้สภาฯพิจารณาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.
“ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ๒๘ มี.ค.๖๘
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ..จากที่เล่าไปแล้วในฉบับก่อนว่า เมื่อ ๒๕-๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจในโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน...