ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องจากคนกรุงเทพฯ เป็นจำนวนไม่น้อย ให้รีบมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกันเสียที หลังจากที่ห่างหายไปนานนับจากปลายปี พ.ศ. 2559 ก็กว่า 5 ปีเต็มแล้ว ทำให้รัฐบาลอยู่เฉยไม่ได้และกำลังจะให้จัดการเลือกตั้งประมาณกลางปีนี้ ดังนั้น วันนี้เราลองมาทบทวนความรู้และปัญหาเกี่ยวกับ “กรุงเทพมหานคร” ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย เป็นเมืองขนาดใหญ่ระดับมหานคร (Metropolitan) ที่มีความโดดเด่นแห่งหนึ่งในโลก เช่น ใหญ่เป็นอันดับที่ 73 ของโลก เป็นเมืองดีที่สุดของโลกอันดับที่ 37 และเคยเป็นเมืองอันดับ 1 ที่ผู้คนเคยมาเยือนมากที่สุดในโลก เป็นต้น
กรุงเทพมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเป็นหมู่บ้านตำบลที่เรียกว่า “บางกอก” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง ไม่ไกลจากปากน้ำที่ออกสู่ทะเล จึงค่อย ๆ เจริญกลายเป็นเมืองท่าและเมืองหน้าด่านสำคัญ จนเมื่อปี พ.ศ. 2325 ได้มีการก่อสร้างเป็นเมืองใหม่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาและสถาปนาเป็นราชธานี โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี นับจากนั้นเป็นต้นมากรุงเทพ ก็มีวิวัฒนาการเติบโตเรื่อยมาจวบสองร้อยสี่สิบปีแล้ว ในทางการจัดระเบียบการปกครองได้มีการปรับปรุงมาจนถึง พ.ศ. 2514มีการรวมจังหวัดกรุงเทพ จังหวัดธนบุรี เป็น “จังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี” บริหารซ้อนกันทั้งราชการภูมิภาคและราชการส่วนท้องถิ่น ต่อมา พ.ศ. 2515 ได้รวมจังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี องค์การบริหารนครหลวงกรุงเทพธนบุรี เทศบาลนครหลวง และสุขาภิบาลทุกแห่งในเขตนครหลวงกรุงเทพธนบุรี เข้าเป็นองค์กรเดียวกันเรียกว่า “กรุงเทพมหานคร” แต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอีกหลายฉบับ จนถึงฉบับล่าสุด คือ ฉบับ พ.ศ. 2528 ได้ทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีการแยกอำนาจบริหารออกจากอำนาจนิติบัญญัติโดยให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เป็นหลักการถ่วงดุลที่ออกแบบให้ฝ่ายบริหารเข้มแข็ง(Strong Executive) แต่ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครยังคงอยู่ใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสอดคล้องกับหลักความเป็นรัฐเดี่ยว (Unitary State)
กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีพื้นที่รับผิดชอบ 1,569 ตารางกิโลเมตรมีประชากรในทะเบียนบ้าน ประชากรแฝง และแรงงานต่างด้าว รวมกันไม่น้อยกว่า 8 ล้านคน กทม.มีภาระหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไม่น้อยกว่า 40 อย่าง โดยมีหน่วยงานรองรับภารกิจเป็นระดับสำนักซึ่งเป็นงานฝ่ายอำนวยการ 17 สำนัก และสำนักงานเขตซึ่งเป็นงานฝ่ายปฏิบัติการ 50 เขต มีโรงเรียนในสังกัด 437 แห่ง โรงพยาบาล 10 แห่ง สถานีดับเพลิงและกู้ภัย 37 แห่ง โรงขนถ่ายขยะและโรงกำจัดขยะ 6 แห่ง โรงบำบัดน้ำเสีย 20 แห่ง มีข้าราชการกรุงเทพมหานคร ครู บุคลากรทางการศึกษา ลูกจ้างประเภทต่าง ๆ รวมกันทั้งหมดเกือบ 100,000 คน มีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ประมาณ 7.9 หมื่นล้านบาท
กรุงเทพมหานครตามประสาเมืองหลวงขนาดใหญ่ย่อมต้องมีปัญหาทั้งในอดีตและปัจจุบันหรือในอนาคตอยู่ไม่น้อย ซึ่งอาจจะไล่เรียงดูได้ ดังนี้
1)ปัญหาด้านผังเมือง จากอดีตถึงปัจจุบันกรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางแทบจะทุกอย่างของประเทศ ทำให้กลายเป็นเมืองโตเดี่ยว ผูกขาดความเจริญ ผู้คนหลั่งไหลมาทำงานและอยู่อาศัย การขยายตัวของเมืองเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง การใช้ที่ดินไม่มีประสิทธิภาพ กฎหมายผังเมืองตามไม่ทัน มีการบุกรุกแม่น้ำลำคลองและที่สาธารณะอยู่ทั่วไป ส่งผลถึงทัศนียภาพของเมือง
2) ปัญหาการจราจรเกิดรถติดและการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร สถิติอุบัติเหตุทางถนนนับว่าสูงมาก แม้จะเป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นด้วย เช่น ตำรวจ หรือกรมการขนส่งทางบก แต่ กทม. ก็มีส่วนรับผิดชอบ ในการสร้างถนนหนทางตรอกซอกซอย และดูแลทางเท้า รวมทั้งป้ายสัญญาณต่าง ๆ
3) ปัญหาน้ำท่วม ทั้งที่เกิดจากน้ำฝน น้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำเนื่องจากน้ำเหนือไหลมาหรือน้ำทะเลหนุน รวมทั้งการทรุดตัวของพื้นดินและการกัดเซาะของน้ำทะเล
4) ปัญหามลภาวะ(1) ขยะมูลฝอยกว่า 10,000 ตันต่อวันและน้ำเสียเนื่องจากมีคลองใน กทม.กว่า 1,100 คลอง (2) อากาศเสีย ทั้งคาร์บอนมอนอกไซด์จากยานพาหนะและกาซอื่น ๆ จากโรงงาน รวมทั้งฝุ่นผงที่ลอยมาจากการเผาซากพืชในบางพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
5) ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สถิติอาชญากรรมในกทม.มีประมาณ 2-3 หมื่นคดีต่อปี ที่น่าเป็นห่วง คือ คดียาเสพติด คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ รวมทั้งยังมีปัญหาไฟไหม้อาคารอยู่บ่อยครั้ง
6) ปัญหาสุขภาวะและคุณภาพชีวิต ถ้าไม่นับโรคอุบัติใหม่อย่างโรคโควิด-19 กรุงเทพฯ ก็ยังมีโรคภัยไข้เจ็บอยู่ไม่น้อย เช่น โรคท้องร่วง โรคไข้เลือดออก และโรคจากการดำเนินชีวิตในเมือง ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหืด โรคอ้วน ต้องเร่งรัดการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้เจริญหูเจริญตา การเพิ่มจำนวนและพื้นที่สวนสาธารณะให้เข้าเกณฑ์มาตรฐาน รวมทั้งการบริหารจัดการปัญหาผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม เช่น คนจรจัดและคนไร้บ้าน
7) ปัญหาอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายและการทับซ้อนพื้นที่ในการบริหารจัดการกับหน่วยราชการอื่นและรัฐวิสาหกิจ ทำให้อำนาจในการบริหารจัดการของ กทม.มีจำกัด ไม่อาจแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างมีเอกภาพได้ อีกทั้งงบประมาณก็ยังไม่เพียงพออีกด้วย ตัวอย่างจากการเป็นหนี้บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รถไฟฟ้า BTS)
8) ปัญหาการมีส่วนร่วมของพลเมืองตามหลักปรัชญาของการปกครองท้องถิ่นผู้ว่าฯ และผู้อำนวยการเขต ดูจะอยู่ห่างไกลไม่ใกล้ชิดกับคนในพื้นที่เหมือนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบอื่น ๆ ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่น้อย
9) ปัญหาทางการเมือง ในกรณีที่ผู้ว่าฯ มาจากพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามกับพรรครัฐบาล การสนับสนุนและการประสานงานอาจจะไม่สู้ราบรื่นนัก อันเป็นธรรมชาติของการต่อสู้ทางการเมือง
เมื่อเมืองแห่งนี้มีความสำคัญแต่มีปัญหารอการแก้ไขอยู่มากมาย การเลือกตัวผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเป็นพิเศษ อย่าเลือกเพียงเพราะ “ชอบ” แต่ต้องเลือกเพราะ“ใช่” ด้วย กรุงเทพฯ ถึงจะมีโอกาสเป็นเมืองแห่งเทพสมกับชื่อมหานครแห่งนี้
เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ
พงศ์โพยม วาศภูติ
กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนกรุงอ่วม! สภาพอากาศมีผลกระทบสุขภาพถึง 33 พื้นที่
เพจกรุงเทพมหานคร โพสต์กราฟฟิกพร้อมเนื้อหา
ฝุ่น PM 2.5 กทม. แนวโน้มลดลง เกินค่ามาตรฐานเหลือ 15 พื้นที่ อยู่ฝั่งธนบุรีเป็นส่วนมาก
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร
คนกรุงเทพฯ สำลักฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้ม 63 พื้นที่
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2567ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 07.00 น. : ตรวจวัดได้ 34.3-74.3 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 63 พื้นที่ คือ
นักวิชาการ เตือนคนกรุงฝุ่น PM 2.5 สูงมาก อากาศข้างนอกเย็นสบาย แต่ออกไปอาจป่วยตายได้
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า กรุงเทพฯช่วงนี้ อากาศข้างนอกเย็นสบายแต่ออกไปอาจป่วยตายได้..
ขอเชิญชาวกรุงเทพมหานคร ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ฟรี ทั่วเขตกรุงเทพมหานคร
ขอเชิญชาวกรุงเทพมหานคร ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ฟรี ทั่วเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีการออกให้บริการดังนี้