พระพุทธรูปหินศักดิ์สิทธิ์ .. จากใจชาวเนปาล!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ก่อนออกเดินทางจากวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ลำพูน เมื่อ ๗ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ขอให้ผู้ร่วมเดินทางโดยรถตู้คันเดียวกัน รวมถึงคนขับ ได้ผ่านการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ โดยชุดตรวจแบบ ATK ก่อน จึงดูเหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนยอมรับและเข้าใจ ซึ่งผลการตรวจของทุกคน ทั้งพระ สามเณร อุบาสก .. อุบาสิกา เป็นลบ... จึงทำให้การเดินทางร่วมกันในวันนั้นเป็นไปในครั้งนี้ด้วยความสบายใจ...

เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้.. ที่หมายแรกคือ อุโบสถวัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอพระสิงห์ จังหวัดชัยนาท เพื่อกราบบูชาระลึกถึง หลวงปู่ศุข พระมหาเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคมในยุคสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์..

โดยได้กำหนดเวลาที่ควรจะถึงวัดหลวงปู่ศุขไว้ประมาณ ๑๘.๐๐-๑๙.๐๐ น. เพื่อจะได้สะดวกต่อการเข้าพัก.. เจริญภาวนาตลอดคืนในพระอุโบสถเก่าที่สร้างถวายโดย เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ.. ศิษย์เอกหลวงปู่ศุขในยุคนั้น..

การมาพักวัดปากคลองมะขามเฒ่าครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๓ โดยทั้ง ๓ ครั้งจะขออนุญาตทางวัดปากคลองมะขามเฒ่าเพื่อขอเข้าภาวนาในอุโบสถเก่าดังกล่าว ที่ร่วมดูแลโดยกรมศิลปากร ด้วยทรงคุณค่าทางจิตใจ.. และความล้ำค่าทางภาพศิลปะฝีลายพระหัตถ์ของ เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี..

ด้วยปฏิปทาของพระกรรมฐาน จึงไม่เป็นข้อกังขากับทางวัดปากคลองมะขามเฒ่า และด้วยการประสานงานของ คุณรณภพ เหลืองไพโรจน์ ตั้งแต่ดำรงหน้าที่ พ่อเมืองชัยนาท จนย้ายไปเป็น พ่อเมืองราชบุรี.. จึงทำให้ได้รับความสะดวกพอสมควรตามประสาภิกษุอาคันตุกะ.. ที่จาริกมาขอพำนักเพื่อปฏิบัติศาสนกิจในยามค่ำคืน.. เมื่อสบเวลารุ่งอรุณก็จรจากไป ดุจนกน้อยในป่าใหญ่โลกกว้าง.. ที่มีอิสรเสรีไปได้ในทุกถิ่นโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้ในอากาศ...

ในค่ำคืนของวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ จึงเป็นการก้าวไปสู่บรรยากาศแบบย้อนยุค เมื่อนั่งภาวนาภายในอุโบสถโบราณ ท่ามกลางความมืดที่พอเหมาะ ริมแม่น้ำสายใหญ่.. ปากคลองมะขามเฒ่า.. จ.ชัยนาท

หลายครั้งที่ให้มโนกลับไปในอดีต เพื่อจะได้หวนระลึกถึงบรรยากาศแบบเดิมๆ ของท้องถิ่นชนบทที่สมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ.. เมื่อนึกถึงแล้ว จิตใจกลับมีความรู้สึกเบิกบาน สงบสุข.. ก่อเกิดความเกื้อกูลต่อการเจริญภาวนา โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับความเป็นสัปปายะที่ยังมีอยู่ในยามค่ำคืนในปัจจุบัน..

การนั่งภาวนาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงดำเนินไปอย่างไม่ทรมานขันธ์.. ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอิริยาบถอะไรมากนัก จากสาม..สี่ทุ่มไปจนถึงตีสี่..ตีห้า และหกโมงเช้า บรรลุการรับรุ่งอรุณในเวลาใกล้หกโมงครึ่ง.. จึงเป็นไปด้วยความสงบอย่างมีความตื่นรู้ พร้อมด้วยสติปัญญา.. ที่ดำเนินไปตามแนวอานาปานสติกรรมฐาน.. ในบริบทของสติปัฏฐานสี่.. อันเป็นหลักธรรมปฏิบัติในพระพุทธศาสนาที่ทรงคุณค่ายิ่งกว่ารัตนะใดๆ อันมีค่าในโลกมาประมวลรวมกัน...

การไปเจริญภาวนาในอุโบสถโบราณของหลวงปู่ศุข ที่แกะสลักตัว “อุณาโลม” เป็นพิเศษไว้ตรงบานประตูหน้าด้านซ้ายมือในครั้งนี้.. แตกต่างไปจากครั้งที่ ๑ และ ๒ มาก.. แม้ว่าในครั้งแรกจะได้พบเห็นสัมผัสกับนิมิตทดสอบจิตแบบไม่ธรรมดา.. อันแสดงให้เห็นถึง ภูมิรู้ ภูมิธรรม หรือความเป็นสถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนา ที่เคยเป็นสำนักของพระเถราจารย์ผู้เรืองพุทธาคมยิ่ง

ด้วยการไปแวะในครั้งนี้ได้นำส่วนของ หนังศีรษะที่มีเกศาปรากฏอยู่ ตะกรุด ผ้ายันต์สมัยเก่า ที่สืบทอดมาทาง หลวงพ่อบุญยัง.. ลูกศิษย์รูปสำคัญที่หลวงปู่ศุขบวชให้ ไปบูชาในการภาวนาครั้งนี้ด้วย

สำหรับเรื่องการได้มาของหนังศีรษะชิ้นเล็กๆ ใส่ตลับเก่าๆ ไว้ พร้อมเสื้อยันต์ ตะกรุดเก่าแก่ ๒ ดอก และพระปรกใบมะขามหลวงปู่ศุข... นับว่าเป็นเรื่องที่ควรบันทึกไว้ ด้วยมีที่ไปที่มาอย่างชัดเจน ซึ่งขอเล่าโดยสรุปสั้นๆ ได้ว่า.. “หลังจากการมาภาวนาในอุโบสถโบราณของหลวงปู่ศุขในระหว่างพรรษา เมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา.. ต่อมาได้มีลูกศิษย์ชาวชัยนาท ซึ่งมาจากครอบครัวเก่าแก่ที่เป็นตระกูลอุปัฏฐากหลวงพ่อบุญยัง ได้นำชิ้นหนังศีรษะในกล่องพระเก่าๆ มาถวาย.. โดยเล่าว่า ได้รับมาจากหลวงพ่อบุญยัง ลูกศิษย์หลวงปู่ศุข ซึ่งสมัยหลวงพ่อบุญยังเป็นฆราวาส เคยเป็นคนในบ้านนี้ ซึ่งมีอาชีพเป็นครูบาอาจารย์ มีฐานะ เป็นที่รักนับถือของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว..

เจตนาของการถวาย.. เพื่อหวังว่าจะได้ให้บรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่กำลังสร้างใกล้เสร็จ.. และส่วนหนึ่งจะเก็บไว้บูชาเป็นส่วนตัว เพื่อระลึกถึงคุณของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า..

สำหรับห่อเก็บเครื่องบูชาชุดนี้ ที่รวมถึงเสื้อยันต์เก่าแก่ที่มีร่องรอยของการเดินทางผ่านระยะเวลามายาวนาน.. ทราบว่ารอดพ้นอุ้งมือโจรที่ชุกชุมในยุคนั้นมาได้.. เมื่อโจรปล้นบ้านดังกล่าวที่มีฐานะดีกว่าใครอื่น ได้แก้วแหวนเงินทองของมีค่า.. โดยเฉพาะพระพุทธรูปทองคำที่หวงแหนไปด้วย.. แต่กลับมองข้ามห่อชุดเครื่องบูชาที่มีคุณค่ายิ่งที่เก็บรวบรวมสิ่งสำคัญๆ ของหลวงปู่ศุขไป...

พานห่อเครื่องบูชาดังกล่าว.. เป็นของที่หลวงปู่บุญยังได้ให้ไว้ ด้วยบ้านหลังดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการไหว้ครูประจำปีของหลวงปู่บุญยังและคณะศิษย์ศรัทธาในหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า...”

จึงน่าอัศจรรย์ใจ.. เมื่อสิ่งของเหล่านี้เดินทางผ่านระยะเวลามายาวนาน เพื่อส่งต่อมาถึงวันนี้เกือบ ๑๐๐ ปี บนความสัมพันธ์ที่แสดงความเป็นเหตุเป็นปัจจัยชัดเจน.. หลังจากที่อาตมาเดินทางไปพักภาวนาในอุโบสถหลวงปู่ศุขเป็นครั้งแรก.. และต่อเนื่องครั้งที่ ๒ จนเข้าสู่ครั้งที่ ๓ ในครั้งนี้ โดยทุกครั้งจะขออนุญาตนั่งภาวนาตามลำพังในอุโบสถโบราณดังกล่าว ที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำท่าจีน ตรงปากคลองมะขามเฒ่า...

การอัญเชิญสิ่งของสำคัญของหลวงปู่ศุข โดยเฉพาะส่วนหนังศีรษะที่เก็บรักษามายาวนานโดย หลวงปู่บุญยัง ที่มอบให้คณะศรัทธาญาติมิตรในท้องถิ่นเก็บรักษาไว้ เพื่อเป็นสิ่งที่ระลึกถึงหลวงปู่ศุข เมื่อทำพิธีกราบไหว้บูชาครู... การกลับคืนสู่อุโบสถหลวงปู่ศุขในครั้งนี้แม้จะเป็นเพียงหนังศีรษะ จึงให้เกิดความรู้สึกที่มีปีติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อนั่งเจริญภาวนาไปตามลำดับ ด้านหน้าพระประธานเก่าแก่และรูปหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ศุข .. ในอุโบสถเก่าดังกล่าว

ดังนั้น ในเช้าของวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕.. เมื่อออกจาก “อุโบสถโบราณมหาอุตม์” จึงมีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังธรรม.. ที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมมาตลอดคืน.. ก่อนที่จะบอกลาพระภิกษุวัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อเดินทางต่อไปที่วัดป่าอารยวังสาราม (ธ) บางไทร พระนครศรีอยุธยา.. เนื่องจากยังมีศาสนกิจต่อเนื่องในวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ก่อนที่จะเตรียมตัวล่องใต้ไปร่วม งานวันมาฆบูชาในวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ที่พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี (ธ) อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

สำหรับการจัดงานวันมาฆบูชาประจำปีนี้.. ทราบว่า หม่อมหลวงสราลี กิติยากร และคณะ จะได้เชิญสร้อยสังวาลย์ขึ้นถวาย “พระพุทธมงคลทะเลใต้” ที่ประดิษฐานอยู่บนขุนเขากลาง ทะเลอันดามันบนเกาะภูเก็ต...

โดยพระประธานดังกล่าวได้รับพระศรัทธาจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเป็นองค์ประธานยกฉัตร.. และทรงร่วมสร้างอุณาโลมถวายติดพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งนำมาสู่ความปีติยินดียิ่งของคณะศรัทธาสาธุชน

วันมาฆบูชาประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ในปีนี้ตรงกับวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕.. คณะศรัทธา.. สาธุชนในภูเก็ต โดยเฉพาะที่เป็นกำลังศรัทธาของ พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี (ธ) อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้พร้อมใจกัน จัดงานปฏิบัติธรรม.. “ถวายเป็นพุทธบูชา.. ธัมมบูชา.. สังฆบูชา..” เนื่องในวันสำคัญดังกล่าว โดยมีกำหนดการเริ่มตั้งแต่ตอนเย็นประมาณ ๑๗.๐๐ น. ของวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เพื่อสวดมนต์ ไหว้พระ ปฏิบัติธรรม และในตอนเช้าหลังจากตักบาตร ถวายสังฆทาน ที่เชิงเขาภูหว้ารัตนคีรีแล้วในเวลา ๑๑.๐๐ น. ของวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ จะได้มี พิธีอัญเชิญสร้อยสังวาล ขึ้นถวาย “พระพุทธมงคลทะเลใต้”.. โดยในตอนเย็น ประมาณ ๑๗.๐๐ น. เป็นต้นไป จะได้มีการประกอบศาสนกิจเนื่องในวันมาฆบูชา.. ซึ่งจะมีการฟังธรรม อบรมจิต ปฏิบัติธรรม เพื่อการปฏิบัติบูชาไปตลอดคืน.... นับเป็นมงคลยิ่งต่อคณะศรัทธาสาธุชน.. ที่ได้มีโอกาสร่วมงานการปฏิบัติบูชาในครั้งนี้บน พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี (ธ).. ซึ่งหากมีโอกาสจะได้นำเรื่องราวมาเล่าเรื่องให้ศรัทธาสาธุชนได้รับทราบต่อไป!!.

 

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..

รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ

เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก

คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!

เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย

ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?

การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก