หลังการเปิดให้บริการรถไฟลาวจีนต้นเดือนธันวาคม 2564 สังคมได้เริ่มตั้งคำถามถึงคุณค่าที่ไทยจะได้จากเส้นทางรถไฟสายนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมแผนการใช้ประโยชน์จากรถไฟลาวจีนสายนี้ จึงใคร่ขอแบ่งปันข้อค้นพบที่ได้จากการถอดบทเรียนการใช้เส้นทางถนน R3A ที่เชื่อมโยงระหว่างไทยกับจีนตอนใต้ เป็นบทสรุปผลการศึกษาของโครงการวิจัย “การใช้ประโยชน์จากเส้นทาง R3A เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการเกษตร ภาคการผลิต ภาคการค้า และภาคบริการโลจิสติกส์” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยมีผู้เขียนเป็นหัวหน้าโครงการ
เส้นทาง R3A เป็นเส้นทางตามแนวระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ ภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub-region) เชื่อมการขนส่งทางถนนระหว่างนครคุนหมิง มณฑลยูนนานของจีน กับกรุงเทพมหานครของไทย ผ่านสามประเทศคือ จีน-สปป.ลาว-ไทย ได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการมาระยะเวลาหนึ่งแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 จึงเป็นโอกาสดีที่จะศึกษาวิจัยว่า เส้นทางขนส่งเชื่อมโยงระหว่างประเทศอย่างเช่น เส้นทาง R3A ได้สร้างประโยชน์เกิดกับภาคการเกษตร ภาคการผลิต ภาคการค้า และภาคบริการโลจิสติกส์ของไทยอย่างไรบ้าง
การเปิดให้บริการของเส้นทาง R3A เปลี่ยนพื้นที่อำเภอเชียงของ กลายเป็นเพียง “ทางผ่าน” ของนักท่องเที่ยวและสินค้า ในอดีตชาวต่างชาติเดินทางข้ามระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ได้ที่ท่าเรือในตัวเมืองเชียงของ จึงพำนักในตัวเมืองเชียงของก่อนที่จะเดินทางข้ามแม่น้ำโขง เมื่อเส้นทาง R3A ถูกสร้างห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร พร้อมกับการกำหนดการผ่านด่านด้วยพาสปอร์ตดำเนินการได้ที่สะพานเท่านั้น ไม่สามารถทำได้ที่ท่าเรือในเมืองอีกต่อไป ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวของเมืองเชียงของลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งสินค้าระหว่างไทยกับลาวที่เคยต้องส่งสินค้าข้ามแม่น้ำโขงผ่านท่าเรือ ก็หันไปใช้สะพานซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 10 กิโลเมตรแทน
ทั้งนี้ เส้นทาง R3A อาจให้ประโยชน์กับพื้นที่เชียงของ จากการดึงการลงทุนงบประมาณจากส่วนกลาง มาสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งอยู่บ้าง แต่การลงทุนนั้นส่งผลให้ราคาที่ดินที่เส้นทางพาดผ่านสูงขึ้นไปมาก เจ้าของที่ดินเดิมที่เป็นคนในพื้นที่อาจได้ประโยชน์อยู่บ้างจากราคาที่ดินที่สูงขึ้น แต่คนที่ได้ประโยชน์มากจริงๆ กลับเป็นนักธุรกิจต่างถิ่นที่เข้ามาซื้อที่ดินในรุ่นแรกๆ และทำการปั่นราคาที่ดินจนสูงขึ้นมาก จนทำให้นักลงทุนเปลี่ยนใจไม่กล้าเข้าไปลงทุนเพิ่มตามแนวเส้นทาง
ในฝั่ง สปป.ลาว การลงทุนตลอดเส้นทาง R3A ในแขวงบ่อแก้วและแขวงหลวงน้ำทาเป็นการขยายตัวอย่างรวดเร็วของทุนจีน จนสามารถสร้างอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญเข้าไปในเศรษฐกิจของ สปป.ลาวในทุกระดับ ในทางตรงกันข้าม นักธุรกิจไทยลังเลที่จะเข้าไปลงทุนในลาว ถึงแม้ภาคเอกชนลาวประสงค์อยากให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจกับนักลงทุนจากจีน โดยอยากให้ร่วมลงทุนกับคนท้องถิ่นในธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและกสิกรรม อีกทั้งอยากให้ไทยเข้ามามีบทบาทช่วยสนับสนุนด้านการพัฒนาการศึกษา วิชาการ และวิชาชีพ
ในขณะที่ไทยหวังการใช้เส้นทางเพียงเพื่อการอำนวยความสะดวกแก่การขนส่งเท่านั้น ขาดวิสัยทัศน์ที่จะผลักดันให้ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทาง R3A ในมิติอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่เกี่ยวข้องฝั่งจีนในมณฑลยูนนานได้ดำเนินการพัฒนาทุกๆ ด้านพร้อมกันอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการพัฒนาการเชื่อมโยงด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ บูรณาการควบคู่ไปกับการสนับสนุนผู้ประกอบการจีนให้มีศักยภาพในการแข่งขัน จีนได้จัดวางการพัฒนาให้มณฑลยูนนานเปิดกว้างและสานสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้มแข็งในสามเส้นทาง ได้แก่
1) พื้นที่ชายแดนยูนนาน-เมียนมา เชื่อมสู่เอเชียใต้ 2) พื้นที่ชายแดนยูนนาน-เวียดนาม เชื่อมเวียดนามออกทะเล หรือเชื่อมเวียดนามสู่กัมพูชา และ 3) พื้นที่ชายแดนยูนนาน-ลาว เชื่อมสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งมณฑลยูนนานมีสภาพภูมิอากาศที่สามารถเพาะปลูกผลผลิตทางเกษตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมากมาย ได้ผลักดันให้มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในภาคการเกษตร ซึ่งตามแนวเส้นทาง R3A ในมณฑลยูนนาน จะเห็นถึงการนำเทคโนโลยีทางด้านการเกษตรสมัยใหม่ เช่น โรงเรือน (ดูภาพประกอบ) มาใช้กันอย่างอย่างแพร่หลายในพื้นที่เพาะปลูกที่อยู่ริมทาง ซึ่งสินค้าเกษตรเหล่านี้ใช้เส้นทาง R3A เป็นเส้นทางขนส่งเข้าสู่ประเทศไทย และเชื่อมต่อไปยังตลาดอาเซียน
ในประเด็นการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับจีนบนเส้นทาง R3A วิถีการค้าของผู้ประกอบการจีน สามารถขับเคลื่อนให้ทุนจีนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการค้าผ่านเส้นทางนี้ ไม่ว่าจะเป็นการค้าที่เป็นการนำเข้าผลผลิตจีนมาไทย หรือการค้าที่เป็นการส่งออกผลผลิตไทยไปจำหน่ายในจีน อาศัยศักยภาพของผู้ประกอบการจีนในการขยายอิทธิพลตลอดห่วงโซ่ของการค้า โดยในการนำเข้าผักจีนมาไทย ผู้ค้าจีนได้พัฒนาศักยภาพจนสามารถมีอิทธิพลกำกับการค้าตั้งแต่หน้าสวนในจีนมาจนถึงตลาดค้าส่งในไทย ในการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน เดิมล้งไทยเคยเป็นผู้เล่นหลักในการส่งออกไปจีน แต่ในปัจจุบันล้งจีนและทุนจีนได้แผ่อิทธิพลเข้ามาในการรับซื้อผลไม้ในไทยมากขึ้น ทำให้ผลประโยชน์ส่วนหนึ่งที่เคยตกเป็นของล้งไทย ถูกเปลี่ยนมือตกไปเป็นของผู้ประกอบการจีน
บทเรียนข้างต้นชี้ให้เห็นว่า เพื่อให้ได้คุณค่าสูงสุดจากเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ เราไม่ควรจำกัดความคิดการใช้เส้นทางเพียงเพื่อประโยชน์แต่ด้านการขนส่งเท่านั้น แต่ควรคิดถึงการใช้เส้นทางขนส่งเป็นเครื่องมือที่จะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศและสร้างโอกาสทางธุรกิจการค้าใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ ที่สำคัญ ภาครัฐควรเร่งส่งเสริมความเข้มแข็งของธุรกิจไทย ให้สามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะให้ทันกับวิวัฒนาการของรูปแบบการขยายอิทธิพลทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเปลี่ยนผ่านมา 4 ระยะหรือรูปแบบแล้ว ดังนี้
1) ระยะ/รูปแบบ ที่ 1: เป็นการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ โดยมีฐานการผลิตในประเทศ และพึ่งพาผู้นำเข้าที่อยู่ในต่างประเทศ
2) ระยะ/รูปแบบ ที่ 2: ขยายอิทธิพลด้วยการส่งออกฐานการผลิตสินค้าไปยังต่างประเทศ พร้อมกับจัดตั้งสำนักงานขายในต่างประเทศ อาศัยความโดดเด่นของแบรนด์สินค้าเป็นตัวขับเคลื่อนการขาย
3) ระยะ/รูปแบบ ที่ 3: ส่งออกพ่อค้าไปต่างประเทศ เพื่อไปคุมช่องทางนำเข้าและกระจายสินค้าในต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องอาศัยความเข้มแข็งของแบรนด์สินค้า แต่อาศัยการควบคุมกลไกการตลาดในต่างประเทศ
4) ระยะ/รูปแบบ ที่ 4: ส่งออก Platform สร้างอำนาจในการกำกับทิศทางตลาดอย่างสมบูรณ์ โดย Platform ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกการค้าขายระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย พร้อมๆ กับควบคุม และกำกับธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้า เช่น การสั่งซื้อสินค้า การจัดส่ง และการชำระเงิน เจ้าของ Platform จึงสามารถใช้ Platform เป็นเครื่องมือในการสร้างอิทธิพลควบคุมทิศทางการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของการค้าขายและตลาดในต่างประเทศ
ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของไทยยังย่ำจมอยู่กับรูปแบบที่ 1 ที่เน้นการส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ได้ก้าวข้ามการพึ่งพาแต่เส้นทางขนส่งไปสร้างอิทธิพลในระดับที่ 4 แล้ว.
(หมายเหตุ ความเห็นในรายงานนี้เป็นของผู้วิจัย โดย วช. หรือ สกว. ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป)
สมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์
สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การแก้ปัญหาความขัดแย้ง.. ด้วยวิธีการไม่ขัดแย้ง.. อย่างไร!?
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... พระพุทธเจ้าของเราได้ประทานหลักธรรมเป็นไป.. เพื่อความรัก.. ความระลึกถึงกัน.. ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ชัยชนะ (ไม่เป็นโทษ) .. ในสงครามเพื่อสันติภาพ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... มีคำกล่าวว่า.. สันติภาพ.. ไม่ใช่ภาวะที่ได้มาโดยง่าย.. แต่ต้องอาศัยการเตรียมพร้อมอย่าง มีสติและการกระทำอันถูกตรงธรรมอย่างกล้าหาญ..
ไทยก้าวใหม่ โชว์ฟิต ลุยเลือกตั้ง เปิดตัวผู้สมัครส.ส.-โชว์นโยบายรัวๆ
“พรรคไทยก้าวไหม่”หนึ่งในพรรคการเมืองใหม่ที่เข้าสู่สนามการเลือกตั้งปี 2569 ซึ่งมี”ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์”เป็น หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ และมี “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรมช.ศึกษาธิการเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคไทยก้าวใหม่”
ร้ายกว่าวิกฤตการณ์ธรรมชาติ ..ภัยมนุษย์ .. ขาดศีลธรรม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา...
เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ
สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

