สภาฯ ต้าน”บุหรี่ไฟฟ้า” หวั่น เยาวชนตกเป็นทาส

ปัญหา”บุหรี่ไฟฟ้า”ที่ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาทางสังคมที่หลายฝ่ายเป็นห่วง หลังพบว่าคนไทยโดยเฉพาะ”เยาวชน-คนรุ่นใหม่”มีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ พบว่ามีการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ แม้รัฐบาลจะมีการเร่งกวดขับจับกุมอย่างหนัก

โดยการกวาดล้างจับกุม ผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าของภาครัฐพบว่า ดำเนินการไปอย่างเข้มข้น อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมา 18 มี.ค.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. และคณะ ได้ร่วมกัน แถลงข่าวผลการปฏิบัติการ "Operation Smoke Out" ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ จ.นนทบุรี จำนวน 10 จุด ทลายรังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ นำเข้าพร้อมส่งออกจำหน่ายในเครือข่ายกว่า 100 เครือข่ายทั่วประเทศ สามารถตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมกันกว่า 260,000 รายการ มูลค่า 130,000,000 บาท

และวันรุ่งขึ้น 19 มีนาคม 2568 น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต. สำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเรื่องการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ที่ทำเนียบรัฐบาล

โดย จิราพร แถลงว่า การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 มาตรการเร่งด่วนการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและกวาดล้าง โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 18 มีนาคม 2568 จับกุมดำเนินคดี 1,741 คดี ผู้ต้องหา 1,789 คน ของกลาง 1,285,024 ชิ้น มูลค่า 231,881,074 บาท

ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึง ความน่าเป็นห่วงต่อปัญหาการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ที่แพร่หลายในประเทศไทย ที่สร้างผลเสียต่างๆ ตามมามากมายโดยเฉพาะผลเสียงในทางระบบสังคมและระบบสุขภาพของคนไทย  

และเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา วันพฤหัสบดีที่ 20 มี.ค. ที่ประชุมสภาฯ มีการพิจารณารายงานของ”คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย” ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

โดย นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ชี้แจงว่าคณะกรรมาธิการฯได้มีการประชุมทั้งหมด 39 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.2566 – 19 ม.ค.2568 รวม 480 วัน โดยศึกษาปัญหาผลกระทบด้านต่างๆ ทั้งด้านสุขภาพ ด้านสังคม ด้านกฎหมาย และด้านเศรษฐกิจ มีบทสรุป 3 แนวทาง คือ 1.บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated tobacco Products) เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย 2.ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated tobacco products) เป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย และ 3.บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated Tobacco Products) เป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย

พบว่า ในที่ประชุมได้มีส.ส. ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างอภิปรายไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินและสารอื่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ สส.ทุกคนต่างแสดงความเห็นเป็นเอกฉันท์ แสดงความเป็นห่วงบุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพเด็กและเยาวชนอนาคตของประเทศ หากเสพติดตั้งแต่อายุน้อยจะไปกระทบสมองที่กำลังพัฒนา ผลร้ายของสารนิโคตินต่อสมองของเด็กมันเยอะกว่าผู้ใหญ่ นอกจากนี้บุหรี่ไฟฟ้ามีกลิ่นหอม สูบง่าย ไม่ระคายเคือง ไม่มีการเผายิ่งเป็นการหลอกล่อเด็กให้ตกเป็นเหยื่อ พร้อมสนับสนุนให้รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง

ธีระชัย แสงแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย” อภิปรายว่าทุกวันนี้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาที่กัดกินสังคมโดยเฉพาะเด็กเยาวชน ซึ่งวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยระบุว่าการโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้ามีการบิดเบือนการเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้บุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนจากสิ่งเสพติดที่อันตรายให้เป็นทางเลือกในการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นการบิดเบือนทั้งสิ้น แม้แต่แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีก็ยืนยันหลักฐานทางการแพทย์บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายมาก บุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้คนติดบุหรี่ได้ง่ายเพราะมันสูบง่ายกว่าเดิม มีรสชาติใหม่ มีหลายรสชาติ เด็กสามารถติดใจง่ายขึ้น บุหรี่ไฟฟ้ามันเป็นตัวกระตุ้นให้เยาวชนอยากสูบ ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพและสมองของเขา ขอชื่นชมรัฐบาลที่มีการปราบปรามกวาดล้างอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีมาตรการทางกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ก็ยังพบการแพร่ระบาดการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นในหมู่เด็กและเยาวชน

ต้องปราบปรามอย่างจริงจัง คนที่นำเข้าบุหรี่บุหรี่ไฟฟ้าต้องตรวจสอบบัญชีต่างๆ เพราะมันทำความฉิบหายกับเยาวชน ไอ้พวกผู้ใหญ่มันใกล้ตายแล้ว แต่เป็นปัญหากับเด็กเยาวชนของชาติ เราต้องมีกฎหมายพระราชบัญญัติที่กำหนดเพื่อควบคุมป้องกันและปราบปรามไฟฟ้า  เรื่องนี้มันจะสร้างความฉิบหายของประเทศ เราต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น กำหนดโทษสูงสูง และเฝ้าระวังการจำหน่ายออนไลน์และตัวการนำเข้า ขอให้เอาจริงเอาจังกับปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า เราจะต้องไม่ให้เยาวชนตกเป็นทาสของบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ตกเป็นทาสยาเสพติดในอนาคต”สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยกล่าวย้ำ

นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร” อภิปรายว่ายังไม่เห็นคนไหนพูดถึงข้อดีของบุหรี่ไฟฟ้าเลย แต่มีกรรมาธิการบางคนโลกสวย บอกว่าถ้าทำบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายจะได้ภาษีปีละเป็นหมื่นล้าน ท่านทราบไหมครับเวลาคนที่เป็นมะเร็งปอดอุดกั้นแล้วใช้เครื่องช่วยหายใจนอนอยู่ในโรงพยาบาล จะตายก็ตายไม่ได้ จะอยู่ก็หายใจไม่ออก มันเจ็บปวดมันทรมานทั้งตัวเองทั้งญาติ แล้วใช้ค่ารักษาพยาบาลมากมายขนาดไหน ข้ออ้างภาษีบุหรี่ไฟฟ้าที่เก็บได้มาก็ไม่เท่ากับค่ารักษาพยาบาลที่รัฐบาลหรือประชาชนต้องจ่ายในการรักษา

“อยากถามว่าคนที่เห็นด้วยกับแนวทางให้บุหรี่มันถูกกฎหมายเป็นทาสที่สูบบุหรี่หรือเปล่า เป็นคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่

กรรมาธิการฯกี่คนที่มีความสัมพันธ์กับอาชีพยาสูบ หรือปลูกยาสูบหรือเปล่า หรือเกี่ยวข้องกับชาวไร่ยาสูบอย่างไร มีหมอในกรรมาธิการฯ 6 คนไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ 2 และ 3 เลย ผมฝากไปยังรัฐบาล เรามีอยู่ทางรอดเดียว ต้องไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาถูกกฎหมาย มีแต่จะต้องเข้มงวดกับกฎหมายที่มีอยู่ หรือออกกฎหมายที่เข้มงวดกับบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ทุกวันนี้เด็กไทยเกิดน้อยอยู่แล้วเราต้องป้องกันให้ลูกหลานของเราพ้นภัย อย่าให้มีบุหรี่ไฟฟ้ามาทำร้ายเด็กไทย ทางรอดของเด็กไทยมีอย่างเดียวเราต้อง “แบนบุหรี่ไฟฟ้า”

หลังจากที่ประชุมอภิปรายเป็นเวลาพอสมควรแล้ว นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ในฐานะกรรมาธิการฯ ลุกขึ้นชี้แจงยืนยันสนับสนุนแนวทางที่ 1.บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated tobacco Products) เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพราะหากปล่อยบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องถูกกฎหมายจะเกิดการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าตามมาอย่างรุนแรงมากและยากที่จะควบคุมได้ ในที่สุดมันก็จะกลายเป็นปัญหาหรืออุปสรรคอย่างอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาประเทศชาติในทุกๆด้าน ประเทศไทยของเรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแบนบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดอย่างต่อเนื่องต่อไปเพื่อปกป้องชีวิตและสุขภาพของเด็กและเยาวชนลูกหลานให้มีความอยู่รอดปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่เป็นพลังอันสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองของเราให้เจริญรุ่งเรืองเติบโตต่อไป

เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีกรรมาธิการฯคนไหนกล้าลุกมาแสดงตัวยืนยันสนับสนุนแนวทางที่ 2 และ 3 แม้แต่คนเดียว จากนั้นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้เห็นชอบรับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมรับทราบข้อสังเกตก่อนส่งให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองนายกฯ ประเสริฐ มอบ สสส. ทำงานคู่ขนานรัฐ สื่อสารอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า เตือนเสี่ยงป่วยซึมเศร้า-กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด สูงกว่าคนปกติ 2 เท่า และแจ้งเบาะแสแหล่งขาย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประธานการประชุมกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 3/2568 เผยมติที่ประชุมเห็นชอบโครงการสร้างเสริมสมรรถนะและขยายเครือข่ายเพื่อพัฒนางานควบคุมการบริโภคยาสูบทุกระดับ เป็นการป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าที่ระบาดหนักในกลุ่มเด็กและเยาวชนทุกพื้นที่ควบคู่ไปกับการทำงานของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน

ระเบิดศึกซักฟอก ดีลแลกประเทศ

การเมืองตลอดสัปดาห์หน้าร้อนระอุแน่นอน กับ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม และลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 26 มีนาคม

เตือน! ข้อมูลเท็จอย่าเชื่อนายทุนขาย ‘บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน’ เสี่ยง NCDs หนักกว่า 2 เท่า

รัฐบาลย้ำข้อมูลเท็จเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (HTPs) ว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป เตือนเพิ่มความเสี่ยงป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ถึง 2 เท่า พร้อมแนะประชาชนระมัดระวังอันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพและการเสียชีวิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี

..สืบสานราชธรรม .. ณ เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปร่วมขับเคลื่อน โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน

กกท.-กทม.-สสส.-ส.กีฬากรุงเทพฯ ผนึกมูลนิธิรณรงค์เพื่อไม่สูบบุหรี่ ทำMOU(ไม่เอา)บุหรี่ไฟฟ้า

กกท. กทม. สสส. สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกรุงเทพมหานคร และมูลนิธิรณรงค์เพื่อไม่สูบบุหรี่ ผนึกกำลังครั้งสำคัญ! ลงนาม MOU วงการกีฬาไทย (ไม่เอา) บุหรี่ไฟฟ้า