เรื่อง..“ผู้กำกับโจ้”.. ปลายคอลัมน์!!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ภายใต้กระแสไอทีที่ร้อนแรง จึงได้เห็นอำนาจวัตถุนิยมทรงพลังที่เข้ามาควบคุมวิถีโลกนี้ให้อนุวัตไปตามกระแสวัตถุ ที่ชักนำสัตว์โลกให้หลงใหลไปตาม โลกยุคสมัยไอที ที่ทรงอิทธิพลต่อจิตวิญญาณชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง

จึงได้เห็นการเคลื่อนไหวในวิถีการเปลี่ยนแปลง แปรปรวน ผกผัน วิบัติ สิ้นสลาย และฉิบหาย ให้ปรากฏอย่างรวดเร็ว ด้วยพลังวัตถุนิยมสมัยเทคโนโลยีชั้นสูง

การเรียนรู้ตามกระแส .. จึงตกไปอยู่ภายใต้อำนาจของกระแส ที่หมู่มนุษยชาติยากจะตื่นรู้เท่าทัน สภาวธรรมในกระแสที่สร้างความเสมือนจริง ตอบสนองความต้องการได้อย่างน่าทึ่ง.. ในความอัศจรรย์ของเทคโนโลยีประเภทนี้ จึงเป็นปัจจัยให้เกิดความหลงงมงาย มึนงง ในวิถีจิตที่ไหลตามไปในกระแสไอที จนสูญเสียการตื่นรู้.. การรอบรู้.. การรู้ชัดหรือการเห็นตามความเป็นจริง.. เป็นธรรมดาในสภาวธรรมนั้นๆ...

จริงๆ แล้ว.. ทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นภายใต้อำนาจของจิต.. ที่มีจิตเป็นประธาน.. เป็นใหญ่

แต่เพราะจิตประกอบด้วย กิเลส จึงทำให้เกิดความวิบัติในการรู้เห็นตามความเป็นธรรมดา.. จึงหลงเข้าไปปรารถนาใคร่ ยินดี ชอบใจ ในสิ่งนั้นๆ ที่จิตสร้างขึ้นมา.. และยึดถือข้องติดในสิ่งนั้นๆ

อำนาจความใคร่.. ความปรารถนาในกระแสจิตนั้น.. จึงนำไปสู่ความเพลิดเพลิน.. ความยินดี การกล่าวสรรเสริญ.. ความพัวพันติดใจในกระแสวัตถุนิยมนั้นๆ... ความใคร่จึงเกิดขึ้น.. อัน เป็นเหตุนำไปสู่ความทุกข์

สิ่งที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง จึงเป็นเรื่องของความใคร่ ที่เรียกว่า ความโลภหรือโลภะ อันมาจากฐานของ ราคะ ที่แปรรูปแก่กล้าขึ้นตามกำลังของความใคร่.. ความอยากที่มากขึ้นในกระแสโลกียธรรม

การสนองตอบอย่างรวดเร็ว ฉับไว ทันใจ.. กลายเป็นการกระตุ้นภาวะความทะยานอยาก (ตัณหา) ให้มีกำลังมากขึ้นตามความรวดเร็วที่สนองตอบได้อย่างทันใจนึก.. ทันทีทันใดที่คิด.. มีสภาวะเสมือนจริง

ความใคร่.. ความโลภ.. หรือโลภะ จึงเติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างมีประสิทธิภาพ จนยากต่อการควบคุมของสัตว์ที่ตกอยู่ในกระแสแห่งกิเลสที่แก่กล้า

สัตว์ในยุคนี้.. จึงตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสที่ร้อนแรงก่อนทุกยุคสมัยที่ผ่านมา ด้วยการเสพติดในกระแสทรงพลังฝ่ายวัตถุนิยม..

ความโลภที่เคยควบคุมได้.. ภายใต้กรอบศีลธรรม จริยธรรม และคุณธรรม ของความเป็นสัตว์ประเสริฐ ถูกเพิ่มพลังความต้องการในความใคร่นั้น จนยากที่จะควบคุมความโลภให้อยู่ในกรอบของคุณธรรมความดีงามได้อีกต่อไป...

โลกจึงเข้าสู่สมัย.. ความโลภที่ควบคุมไม่ได้.. ความโลภไม่เลือก.. ความกำหนัดยินดีที่ไร้ศีลธรรม..จึงเกิดปรากฏก่อเกิดความคิดเพ่งเล็งอยากได้อย่างไม่เลือก ที่เรียกว่า อภิชฌาวิสมโลภะ...

แม้จะมีคำกล่าวเตือนจากฝ่ายธรรมว่า...

โลภ ก็โลภ เถิด...

แต่อย่าเตลิดถึงขั้นโลภไม่เลือก..

แต่ก็ยากที่สัตว์ทั้งหลายจะหยุดยั้ง.. เพราะวิถีจิตที่ไหลไปตามกิเลสที่ร้อนแรงอย่างมีกำลัง.. อันยากจะหยุดยั้งด้วยจิตสำนึกของปุถุชน..

การเกิดปรากฏเรื่องราวในสังคมสมัยไอที.. จึงหลีกหนีไม่พ้นความขัดแย้ง ความทะเลาะวิวาท ที่รุนแรงยิ่งขึ้น อย่างไร้จิตสำนึกของสัตว์ประเสริฐและไร้อารยธรรม..

ความริษยาและมัจฉริยะ .. เป็นเครื่องหมายแสดงออกของสัตว์สังคมในยุคสมัยนี้ ที่นำไปสู่การก่อเวร การก่ออาชญา.. การเป็นศัตรู.. การเบียดเบียนกันอย่างไม่หยุดยั้ง..

การใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล.. จึงเป็นเรื่องปกติ มีปรากฏให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา แม้หมู่ชนที่ควรเป็นญาติกัน.. อาศัยในหมู่บ้านเดียวกัน.. และเลวร้ายที่สุด คือ พ่อแม่ลูกในสายเลือดเดียวกัน

ปรากฏการณ์ที่น่าศึกษาอย่างยิ่งในโลกสมัยปัจจุบันที่คนรุ่นใหม่ภูมิใจว่า เกิดมาในยุค Gen Y คือ ความไม่ใส่ใจวัฒนธรรมประเพณี.. ที่เคยสืบสานสังคมประเทศชาติให้เข้มแข็ง มั่นคง เป็นมาอย่างมีระเบียบแบบแผนอันดีงามที่ให้เห็นความมี อารยธรรม.. ของหมู่ชน สังคมในประเทศนั้น

ยิ่งคำว่า “ศีลธรรม” .. ไม่ได้ซึมซับอยู่ในจิตวิญญาณของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตในกระแสไอทีกำลังทรงอิทธิพล ภายใต้การจำแนกเป็นคนรุ่นใหม่ใน Gen ต่างๆ... จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อการส่งต่อประเทศชาติให้คนรุ่นต่อไป..

จึงไม่แปลกที่นานาอารยประเทศ จะต้องสร้างระบบพิทักษ์คุ้มครองสังคมขึ้นด้วยการสร้างกฎหมาย กฎระเบียบแบบแผน และวิธีการดำเนินการ เพื่อควบคุมดูแลให้กระแสสังคมไหลไปตามแนวทางตามจุดมุ่งหมาย.. โดยจำเป็นอย่างยิ่งต่อการมีบทลงโทษโดยวิธีการต่างๆ นานา.. หากมีการฝ่าฝืน ทำลาย ไม่ปฏิบัติตาม.. ซึ่งแน่นอนในที่สุดของการป้องกันสังคมส่วนใหญ่ให้ดำรงสืบเนื่องต่อไป.. จำเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้มาตรการที่เด็ดขาด.. ซึ่งต้องยอมรับว่า ในที่สุด ก็คงจะยากต่อการคุ้มครองดูแลสังคมประเทศชาติให้เป็นไปตามแนวทางแบบเดิม

ด้วยในที่สุด ผู้มีอำนาจจากวัตถุนิยมที่ทรงประสิทธิภาพ.. จะเป็น ผู้กุมความถูกต้อง มีอำนาจชี้ผิดชี้ถูกในโลกนี้ แม้จะปราศจาก ความชอบธรรม

เมื่อความถูกต้อง.. ชอบธรรม.. ถูกสลายไปด้วยความถูกใจที่ไร้ธรรม ไม่เป็นธรรม.. การแย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ เพื่อสนองตอบความต้องการ.. จึงเกิดขึ้น.. ระหว่างหมู่ชน..ในยุคอนารยธรรม

ระบบคุณธรรม.. ระบบยุติธรรม.. ระบบความชอบธรรม.. จะหลงเหลือแต่ชื่อไว้ให้พูดกล่าวอ้างเพื่อสนองตอบ ความโลภอย่างไม่เลือก (วิสมโลภะ)..

โลกสมัยไอทีจึงเข้าสู่ยุคความเสื่อมในคุณธรรมความดี มีธรรม ๒ อย่างแพร่หลาย ได้แก่ ความโลภอย่างไม่เลือกจากความเพ่งเล็งอยากได้จนยากจะควบคุม ที่เรียกว่า อภิชฌา และ ความพยาบาท และที่สำคัญยิ่งคือ มิจฉาทิฏฐิ แพร่หลาย

จึงได้เห็นปรากฏการณ์สืบเนื่องจาก มิจฉาทิฏฐิ .. ไม่ว่าจะเป็น ความกำหนัดในอธรรม (อธรรมราคะ).. ความโลภทุจริต (วิสมโลภะ).. และการกล่าวธรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากสัจจะ (มิจฉาธรรม)

การรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงในวิถีโลกอย่างผกผัน..ตามที่กล่าวมา จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งของหมู่ชนในสมัยปัจจุบันที่จะได้ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท

โดยพึงระลึกอยู่เสมอว่า.. ความประมาทเป็นหนทางแห่งความฉิบหายในทุกชีวิต.. ดังเรื่องราวความพลาดพลั้งของ “ผู้กำกับโจ้” ที่ควรจะใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนและสังคมได้อีกยาวนาน และไม่ควรจบชีวิตแบบนี้.. หากได้รับการปลูกฝังคุณธรรมมาอย่างมีคุณภาพ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีสติปัญญา..

ครั้งหนึ่ง (ประมาณมิถุนายน ๒๕๖๕) ได้รับนิมนต์เข้าเรือนจำคลองเปรม เพื่อบรรยายธรรมแก่ผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียงในสังคม ซึ่งมีทั้งอดีตรัฐมนตรี.. อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักธุรกิจใหญ่ ข้าราชการที่ต้องโทษคุมขังในคดีต่างๆ และหนึ่งในผู้ต้องขังเหล่านั้น คือ “ผู้กำกับโจ้” ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม หน้าตาสดใส จำได้ว่านั่งใกล้กับ ผอ.กอล์ฟ ที่โดนคดีปล้นทอง...

ขณะบรรยายธรรมเชิงสนทนาธรรม.. ที่อำนวยการโดย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ (นายอายุตม์ สินธพพันธุ์) ได้สังเกตดูความสนใจในการฟังธรรมของผู้ต้องหาคณะดังกล่าว จึงได้เห็นพฤติกรรมของผู้กำกับโจ้ที่ตั้งใจฟัง มีความสุภาพเรียบร้อย น่าสงสาร.. และเมื่อเสร็จจากการบรรยายธรรม จำได้ว่า ผู้ต้องขังในกลุ่มนี้ได้เข้ามากราบ หนึ่งในนั้นคือ ผู้กำกับโจ้!!

จึงได้ให้กำลังใจ เพื่อการต่อสู้ต่อไปตามวิถีธรรม.. ขอให้แก้ไขข้อผิดพลาด.. ความพลาดพลั้งด้วยความสำนึกชอบที่ตนได้กระทำ.. และให้เชื่อมั่นว่า.. ทุกคนจะคืนกลับสู่อิสรภาพได้ด้วยความเคารพในธรรมอย่างแน่นอน..

วันนี้ เมื่อทราบถึงการจากไปของ “ผู้กำกับโจ้” จึงได้แต่สงสารที่ชีวิตต้องมาสะดุดหยุดลงแบบนี้.. ได้แต่ปลงสังเวชว่า.. สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็นของของตน จริงๆ... จึงขอโอกาสนี้ในการตั้งจิตอธิษฐานให้ดวงวิญญาณของ ผู้กำกับโจ้ .. ได้ไปสู่สุคติในสัมปรายภพ.. ละวางความอาฆาตพยาบาท.. จะได้พ้นจากทุกข์ภัย.. พึงมั่นคงในธรรม.. และดำเนินชีวิตในวิถีธรรม อย่าได้ผิดเพี้ยนไปจากธรรม.. ไม่ว่าชาติใด ภพใด เทอญ!!..

เจริญพร

dhamma_araya@hotmail.com