เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ระหว่าง ๑๐-๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ได้เดินทางไปอินเดีย หรือชมพูทวีปในอดีต เพื่อจัดงานมาฆบูชาโลก ณ เวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา แห่งพระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ/รัฐพิหาร อินเดียปัจจุบัน ซึ่งในปีนี้ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับ วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ มาฆบูชาฤกษ์
การจัดงานมาฆบูชาโลกที่เวฬุวันมหาวิหาร นับเข้าสู่ปีที่ ๑๖ ที่จัดต่อเนื่องมาโดยตลอด แม้ในห้วงเวลาที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-๑๙ โดยมุ่งเน้นการจัดงานเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเป็นข้อระลึกถึงความสำคัญของวันมาฆบูชาให้คงอยู่ในจิตวิญญาณชาวพุทธสืบเนื่องตลอดไป
จึงเห็นการจัดงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี หลังจากได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งที่ ๑–๒ และ ๓... ในปีนี้ได้จัดงานอย่างพอเหมาะควร เหมาะสม มีพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทั้งไทยและอินเดียมาร่วมงานเต็มลานพื้นที่พระโอวาทปาติโมกข์ โดยมี นาย Shravan Kumar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาชนบท เดินทางมาร่วมงานเฉลิมฉลองมาฆบูชาโลกในครั้งนี้ และได้เป็นผู้แทนรัฐบาลแห่งรัฐพิหาร/อินเดีย กล่าวต่อคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนอย่างเป็นทางการในตอนหนึ่งว่า.. “Venuwan หรือสวนป่าเวฬุวัน แห่งนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระธรรมวินัย พระเจ้าพิมพิสาร จอมกษัตริย์แห่งแคว้นมคธได้น้อมถวายเป็นที่พักของพระสงฆ์ อันมีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นประธาน โดยได้ประทับถึง ๕ พรรษา
ในรัฐพิหารปัจจุบัน มีประเพณีการบูชาแขกที่มาเยือนเสมือนเทพเจ้า ความเมตตา มิตรภาพ ความรัก และความเป็นพี่น้อง สามารถส่งเสริมได้ตามแนวทางของพระพุทธเจ้าเท่านั้น รัฐบาลแห่งรัฐพิหารจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการพัฒนาสถานที่ทางพุทธศาสนาเพื่อต้อนรับชาวพุทธจากทั่วโลก...
โดยเฉพาะการระลึกถึงความรุ่งโรจน์ทางประวัติศาสตร์ของนาลันทา ซึ่งเป็นดินแดนเผยแผ่แสงสว่างแห่งความรู้มายาวนาน รัฐบาลแห่งรัฐพิหาร โดย นายนิติช กุมาร Chief Minister หรือมุขมนตรีของรัฐ จึงได้ฟื้นฟู ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนาลันทาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาจากหลายประเทศกำลังศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัยนาลันทาแห่งนี้ จึง เชื่อมั่นว่า นาลันทาจะได้รับการยกย่องให้เป็นครูของโลกอีกครั้ง
สำหรับการจัดงานมาฆบูชาโลกที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ ๑๖ นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง ทางรัฐบาลแห่งรัฐพิหาร โดย นายนิติช กุมาร Chief Minister หรือมุขมนตรีของรัฐ ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกด้านดังเช่นในครั้งนี้ และขอกล่าวในที่นี้ว่า จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ กูรู จี อารยวังโส (พระราชวัชรสุทธิวงศ์/อารยวังโส) อย่างเต็มที่ ซึ่งใคร่ขอให้ กูรู จี อารยวังโส (พระราชวัชรสุทธิวงศ์/อารยวังโส) ได้แปลหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับพุทธศาสนากับพระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ ซึ่งได้จัดพิมพ์ไปแล้ว เป็นภาษาฮินดีให้ด้วย เพื่อจะได้เผยแพร่ให้ประชาชนชาวอินเดียได้ทราบถึงความสำคัญของสถานที่พุทธศาสนาในรัฐพิหารปัจจุบัน.. จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการให้ความสำคัญสถานที่พุทธศาสนาในทัศนะของชาวฮินดูในท้องถิ่น...”
หลังจาก นาย Shrawan Kumar รัฐมนตรีของรัฐบาลท้องถิ่น รัฐพิหาร/อินเดีย ได้กล่าวจบ กูรู จี อารยวังโส (พระราชวัชรสุทธิวงศ์/อารยวังโส) จึงได้กล่าวตอบด้วยความยินดีในมิตรภาพ ไมตรีจิต ที่ได้รับจากรัฐบาลแห่งรัฐพิหาร โดยเฉพาะจาก นาย Shrawan Kumar และมีความยินดีจะจัดให้มีการแปลหนังสือที่จัดพิมพ์เผยแพร่แล้วนั้นเป็นภาษาฮินดี โดยหนังสือดังกล่าวได้เขียนสรุปพร้อมประมวลหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่สำคัญๆ ซึ่งเกิดขึ้นในเขตพระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ ในครั้งที่ พระอาจารย์อารยวังโส จำพรรษา ณ เวฬุวันมหาวิหาร ในปี ๒๕๕๗ โดยได้รับ official permit อย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานป่าไม้ของรัฐบาลแห่งรัฐพิหารที่กำกับดูแลสวนป่าเวฬุวัน พร้อมกับความเห็นชอบของฝ่ายปกครองในท้องถิ่น จึงนับว่าเป็นพระภิกษุรูปแรกที่ได้รับอนุญาตให้จำพรรษาอย่างเป็นทางการ จนนำไปสู่การได้รับอนุญาตให้พัฒนาพื้นที่ที่ทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์ในเขตสวนป่าเวฬุวันจากหัวหน้าป่าไม้ที่กำกับดูแล นับเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อต่อการได้รับอนุญาตดังกล่าว
การเกิดเหตุการณ์ให้พัฒนาพื้นที่ลานพระโอวาทปาติโมกข์ จึงนำไปสู่ความชื่นชมยินดีของชาวพุทธทั่วโลก โดยเฉพาะคณะสงฆ์นานาชาติ และนำไปสู่ความอิจฉาริษยาของบางกลุ่มบางคณะ ที่มีความพยายามจะขอเข้าไปพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวแต่ไม่ได้รับอนุญาต แม้จะพยายามวิ่งเต้นให้ปัจจัยสิ่งของบนโต๊ะ ใต้โต๊ะ อย่างเต็มกำลัง...
ด้วยการได้รับอนุญาตให้พัฒนาพื้นที่ลานพระโอวาทปาติโมกข์ในครั้งนั้น จึงนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงขึ้นในสวนป่าเวฬุวันหรือเวฬุวันมหาวิหารในอดีต ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกของพระพุทธศาสนาอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน ภายหลังจากพระพุทธศาสนาได้สูญหายไปจากชมพูทวีป เมื่อ พ.ศ.๑๗๐๐ เศษ
โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่เป็นลานหินอ่อน มี “มหาเจติยะโอวาทปาติโมกข์” เกิดขึ้น ซึ่งต่อมาเมื่อ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระอาจารย์อารยวังโสได้นำคณะสงฆ์ไทย (ธรรมยุต) โดยมี หลวงปู่อิ่ม วัดโสมนัสราชวรวิหาร (อดีตพระพรหมวชิรเมธาจารย์) และพระพรหมวชิรากร วัดราชผาติการามวรวิหาร เป็นประธานนำการสวดถอนและสวดประกาศเขตอุโบสถ อันเป็นไปตามพระวินัย จนเกิดการยกอุโบสถให้ปรากฏขึ้นในเวฬุวันมหาวิหารอีกครั้ง หลังจากพุทธศตวรรษที่ ๑๗ เศษๆ.. ซึ่งพระพุทธศาสนาสูญสลายไปจากชมพูทวีป แผ่นดินเกิดพระพุทธศาสนา.. นับเป็นความภาคภูมิใจ.. ปีติยินดียิ่งของคณะสงฆ์ชาวพุทธทั่วโลก
ปัจจุบันจึงได้มีพระสงฆ์จากทุกชาติ พร้อมพุทธศาสนิกชน เดินทางไปใช้สอยลานอุโบสถพระโอวาทปาติโมกข์ดังกล่าวกันมากขึ้น จึงทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของสวนป่าเวฬุวันครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อรัฐบาลแห่งรัฐพิหารได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมากพัฒนาสวนป่าเวฬุวันให้สวยงาม โดยได้มีมติให้อนุรักษ์พื้นที่ ลานอุโบสถพระโอวาทปาติโมกข์ ดังกล่าวไว้ เพื่อเป็นเขตการประกอบศาสนกิจของพระสงฆ์และชาวพุทธจากทั่วโลก ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลแห่งรัฐพิหาร/อินเดีย โดย นายนิติช กุมาร Chief Minister หรือมุขมนตรีของรัฐ ได้ประกาศนโยบายชัดเจนเช่นนี้ เพราะทำให้ ลานอุโบสถพระโอวาทปาติโมกข์ ยังคงดำรงสัญลักษณ์ เวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาให้สืบตลอดไป
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มิใช่หมายความว่า.. การจัดงานมาฆบูชาโลก ณ เวฬุวันมหาวิหาร ในทุกๆ ปี ไม่มีอุปสรรค เมื่อต้องพบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐแบบอินเดีย ที่พยายามจะสร้างเงื่อนไขให้การทำงานเป็นไปค่อนข้างยาก จนต้องติดต่อกับรัฐมนตรีของรัฐบาลแห่งรัฐพิหาร และมุขมนตรีของรัฐ.. เพื่อสั่งการสนับสนุน
ในปีนี้ การจัดงานมาฆบูชาโลก.. ณ เวฬุวันมหาวิหาร จึงได้จัดสถานที่อย่างครบสมบูรณ์ เพื่อให้สมฐานะวันมาฆบูชาโลก.. จึงได้เห็นเต็นท์ผ้าสวยงามแบบอินเดีย มีเตียงตั่งให้พระสงฆ์ได้นั่งประกอบศาสนกิจเนื่องในวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ที่เรียกว่า วันมาฆบูชา
ทั้งนี้ ในวันมาฆบูชาของปีนี้... ยามเช้า คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจำนวนร่วมร้อยไปพร้อมกันที่พระคันธกุฎีบนภูเขาคิชฌกูฏ เพื่อร่วมเจริญพระพุทธมนต์และฟังการสาธยายบูชาธรรม ต่อเนื่องด้วยการเดินบิณฑบาตลงจากภูเขาของพระสงฆ์ โดยมีพุทธศาสนิกชนยืนเรียงรายลาดลงมาตามขั้นบันได สวยงามด้วยชุดขาวที่มีความเป็นระเบียบ ไม่วุ่นวาย สมกับเป็นชาวพุทธ
หลังจากนั้น คณะสงฆ์จึงได้เดินทางไปร่วมกันประกอบศาสนกิจลงอุโบสถ ฟังสวดศีลปาติโมกข์ ๒๒๗ สิกขาบท ณ ลานอุโบสถ เวฬุวันมหาวิหาร เพื่อให้เสร็จกิจสำคัญดังกล่าวในยามเช้า ดังที่เคยปฏิบัติในทุกปี และสืบต่อด้วยการรับถวายสังฆทาน ก่อนที่จะไปรับภัตตาหารที่วัดญี่ปุ่น ด้านหลังเวฬุวันมหาวิหาร และได้นัดหมายให้มาร่วมประกอบศาสนกิจเนื่องในวันมาฆบูชาโลกประจำปี ๒๕๖๘ อีกครั้งในเวลา ๑๘.๐๐ น.
ดังที่กล่าวมา.. เนื่องด้วยได้รับทราบว่า จะมีท่านรัฐมนตรีแห่งรัฐบาลท้องถิ่น รัฐพิหาร อินเดีย เดินทางมาร่วมงาน และมาถวายความเคารพพระอาจารย์อารยวังโส ในฐานะ กูรู จี ของชาวอินเดีย จึงทำให้มีการปรับเปลี่ยนเวลาออกไปเล็กน้อย เพื่อจะได้เกิดความสมบูรณ์ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เหมาะสม...
จึงได้เห็น การกล่าวต้อนรับ โดย คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ และกล่าวแสดงความรู้สึกยินดีในการจัดงานมาฆบูชาโลกครั้งที่ ๑๖ โดย นาย Shrawan Kumar รัฐมนตรีแห่งรัฐพิหาร อินเดีย ก่อนที่จะนำเข้าสู่การประกอบศาสนกิจเนื่องในวันมาฆบูชาโลก ที่เสร็จสิ้นด้วยการเวียนเทียนรอบ “มหาเจติยะโอวาทปาติโมกข์” ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายๆ.. ในสวนป่าไผ่เวฬุวัน...
บรรยากาศการจัดงานมาฆบูชาโลกในปีนี้ จึงสมบูรณ์.. น่ายินดีในทุกๆ ด้าน อันควรแก่การอนุโมทนา.. แต่ที่มีเรื่องไม่น่ายินดีบ้าง คือ การเข้ามาใช้สถานที่จัดงานของพระสงฆ์เราบางคณะ ที่ทิ้งสิ่งของเกลื่อนกลาดไว้ให้ตามเก็บกวาด.. เรื่องดังกล่าว หากพูดด้วยสามัญสำนึกของความเป็นพระสงฆ์หรือความเป็นชาวพุทธ.. ต้องกล่าวว่า ไม่ควรให้เกิดขึ้น.. เพราะบ่งบอกถึงความไม่เคารพสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญคือทิ้งภาระให้คณะจัดงานวันมาฆบูชามาเก็บกวาดตามหลัง.. ทั้งๆ ที่ได้เตรียมสถานที่ไว้ดีแล้ว ก่อนการจัดงาน.. จึงทำให้วุ่นวายพอสมควร.. ต่อการเร่งเก็บกวาดบริเวณพื้นที่ ลานอุโบสถโอวาทปาติโมกข์
จริงๆ แล้ว การจะมาจัดงานทับซ้อนกัน.. ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ.. แต่การกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ.. เป็นเรื่องที่ไม่น่าคบจริงๆ.. จึงได้แต่ปลง.. ได้แต่ปลด.. ได้แต่ปล่อยวาง.. ว่า.. สัตว์โลกเป็นไปตามกระแสกิเลสจริงๆ... ไม่เว้นว่า.. จะเป็นบรรพชิตหรือชาวบ้านทั่วไป!!.
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การแก้ปัญหาความขัดแย้ง.. ด้วยวิธีการไม่ขัดแย้ง.. อย่างไร!?
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... พระพุทธเจ้าของเราได้ประทานหลักธรรมเป็นไป.. เพื่อความรัก.. ความระลึกถึงกัน.. ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ชัยชนะ (ไม่เป็นโทษ) .. ในสงครามเพื่อสันติภาพ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... มีคำกล่าวว่า.. สันติภาพ.. ไม่ใช่ภาวะที่ได้มาโดยง่าย.. แต่ต้องอาศัยการเตรียมพร้อมอย่าง มีสติและการกระทำอันถูกตรงธรรมอย่างกล้าหาญ..
ไทยก้าวใหม่ โชว์ฟิต ลุยเลือกตั้ง เปิดตัวผู้สมัครส.ส.-โชว์นโยบายรัวๆ
“พรรคไทยก้าวไหม่”หนึ่งในพรรคการเมืองใหม่ที่เข้าสู่สนามการเลือกตั้งปี 2569 ซึ่งมี”ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์”เป็น หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ และมี “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรมช.ศึกษาธิการเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคไทยก้าวใหม่”
ร้ายกว่าวิกฤตการณ์ธรรมชาติ ..ภัยมนุษย์ .. ขาดศีลธรรม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา...
เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ
สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

