ถ้าพรรคฝ่ายค้านต้องการเป้าหมาย ไม่ได้ต้องการเพียงแค่สะใจ ก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แค่คนเดียว แล้วก็ทิ่มไปถึงพ่อนายกฯ เพราะว่าหากรัฐบาลให้เวลาแค่ 2-3 วันในการอภิปราย แล้วอภิปรายแบบยิงกราดถามว่าได้อะไร....ก็ล็อกเป้านายกฯ อภิปรายพุ่งไปที่ตัวนายกฯ คนที่จะทนไม่ได้ก็คือพ่อนายกฯ ต้องทำให้คุณทักษิณ พูดง่ายๆ อย่าให้อยู่สบาย...
ฉากร้อนการเมืองฉากต่อไป หลังสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือฉากใหญ่ทางการเมืองที่อยู่ในความสนใจมากที่สุด แต่หลังจากนี้เรื่อง “ศึกซักฟอก การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ” จะเป็นซีนการเมืองที่อยู่ในความสนใจของแวดวงการเมืองมากที่สุด หลังฝ่ายค้านประกาศจะยื่นญัตติขอเปิดซักฟอกวันที่ 27 ก.พ. ที่ทำให้การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเกิดขึ้นช่วงเดือนมีนาคม
รายการ”ไทยโพสต์ อิสรภาพทางความคิด”สัมภาษณ์ “จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน -อดีตประธานนปช.เสื้อแดง”เพื่อวิเคราะห์ทิศทางการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รวมถึงมุมมองและการวิเคราะห์เรื่อง”ดีลลับทักษิณ ชินวัตร-คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ”โดยมีเนื้อหาบางส่วนในบทสัมภาษณ์ดังกล่าวดังนี้
โดยเมื่อถามความเห็นต่อกรณีความเคลื่อนไหวของนายทักษิณในช่วงหลัง คิดว่า เรื่องดีลลับ จนถึงขณะนี้ยังมีอยู่หรือไม่ “จตุพร-อดีตแกนนำนปช.เสื้อแดง”มองความเคลื่อนไหวของนายทักษิณในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้คำตอบกับคำถามดังกล่าวว่า อาการที่คุณทักษิณ ชินวัตรแสดงออก ผมว่ามันแสดงให้เห็นว่าอยู่ในสภาพไม่มั่นคง เพราะถ้าดีลเบ็ดเสร็จเด็ดขาด การสำแดงวาจาเกรี้ยวกราด รุนแรงก็ไม่มีความจำเป็นเพราะว่าการดีลคือ ต้องรู้ผลลัพธ์ในปลายทาง เพราะฉะนั้นความไม่มั่นใจ เราดูทั้งแววตา ท่าทาง การพูดโดยไม่จำเป็น ผมก็มองว่า สถานการณ์การดีลอยู่ในสภาพที่ง่อนแง่น จ๊อบบายจ๊อบ คือคิดกันเป็นตอนๆ ผมไม่แน่ใจว่าดีลยังมีชีพจรอยู่หรือไม่ เพราะการที่พยายามสื่อสารให้คนเกิดความสงสัยเรื่องการคุยกับพระเจ้า พอไปเวทีคนเสื้อแดง พูดเรื่องเปรตและเทวดาว่าคบไม่ได้แล้ว อาการแบบนี้ มันสะท้อนทั้งแววตา ท่าทาง คำพูดจากพระเจ้าก็มาเหลือเทวดาและเปรต ปัญหาก็คือว่า พอพูดถึงตอนเทวดา บอกว่าคบไม่ได้ อาการแบบนี้ หมายความว่าอย่างไร
ผมก็เห็นว่าการไปพูดมันมีความตั้งใจ เพราะเวทีเสื้อแดง 50 เขต กทม.(8 ก.พ. 2568 ) มีเจตนาต้องการจะสื่อสาร คือคุณทักษิณไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต เราไม่เคยเห็นภาพปรากฏ การไปพูดกับคนที่ใส่เสื้อสีแดง ก็ในเวทีเลือกตั้ง(นายกอบจ.) ที่ระดมคนกันแบบนั้น แต่ว่าเจตนาที่ต้องการสื่อสารก็คือความตั้งใจ เพราะฉะนั้นคำพูดก็ต้องตั้งใจ เพราะอยู่ดีๆ ก็ไปร่วมงาน ซึ่งไม่เคยมีภาพปรากฏในลักษณะแบบนี้ ตั้งแต่กลับมาประเทศไทย
ผมว่าคุณทักษิณ ความเป็นจริงควรไปร่วมในหลายกิจกรรมที่ผ่านมา แต่การไปร่วมตามข่าวที่ปรากฏ เป็นเจตนาของคุณทักษิณ ต้องการจะมาสื่อสาร ตั้งแต่ลงรถ ดูจากอาการต่างๆ หยิบซองเอกสารให้คนที่จัดงาน และการไปพูดเพื่อสื่อสารให้คนได้เห็นว่า ยังมีกระบวนการคนเสื้อแดงยังอยู่ และไปพูดในบริบทเรื่องเปรตกับเทวดา แต่บนเวทีเลือกตั้งพูดเรื่องพระเจ้า และดูแววตาเราก็ดูออกว่า มันไม่ได้สื่อซึ่งความมั่นใจ คือมีความกังวล
-ที่บนเวที นายทักษิณพูดบางคำเช่น ถ้ายังแทงผมอยู่ ผมก็ถีบ คำพูดนี้ นายทักษิณหมายถึงคุณตู่ จตุพรหรือไม่?
วันก่อนสื่อก็พยายามจะสื่อว่าหมายถึงผม แต่เขาก็ต้องรู้ ผมก็มีมือมีตีนเหมือนกัน คือผมก็มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้ เพราะตลอดระยะเวลา ผมกับคุณทักษิณอย่างที่เคยพูดกันมาว่าอยู่กันมา 29 ปี จนกระทั่งผมเป็นคนหันหลังให้เอง ไม่ได้ว่าถูกขับถูกไล่ อัปเปหิอะไรออกมา เพราะผมรับกับพฤติการณ์ พฤติกรรมไม่ได้ ผมก็มีจุดยืนของผม แต่บังเอิญว่า ระหว่างทางมันมีคนตายคนเจ็บ น่าเห็นใจทั้งนั้น ชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม วันไหนอยากใช้ก็ตาม วันไหนไม่อยากใช้ก็ทิ้ง แล้วพูดก็ไม่เป็นคำพูด เรื่องเสียงปืนนัดแรกดังผมจะกลับมานำเอง ก็พูดใหญ่พูดโต แต่ถึงเวลาก็ไม่มา -เรื่องพายเรือมาส่ง แล้วไม่ต้องตามมาอีก(เสื้อแดง)
...ที่ผมบอกว่าเขาไม่มั่นใจ เพราะอย่างก่อนหน้านี้ วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ที่ศาลฎีกาฯนัดคุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ไปฟังในคดีที่เขายื่นคำร้อง(ขอให้ศาลฎีกาฯ ไต่สวนและบังคับโทษกรณี กรมราชทัณฑ์นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้ขออนุญาตศาลฯ ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติกฎหมายหรือไม่) แต่ศาลได้เลื่อน แต่เราก็เห็นว่าข่าวที่มันหลุดมา คือการทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่ (ถนนวิภาวดีรังสิต) ขนาดพรรคร่วมรัฐบาล มีแค่พรรคเดียวที่ไปงานทัน แล้วคุณทักษิณใส่เสื้อเหลืองด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ไปหาเสียงขึ้นเวทีนายกอบจ.ที่เชียงราย ก็ใส่เสื้อเหลืองคนเดียวทั้งเวที แล้วบอกให้แดงกินส้ม ถามว่า คุณทักษิณไม่รู้หรือว่าคนที่มาฟังปราศรัยทั้งหมด เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ตัวเองใส่เสื้อสีเหลือง เพราะต้องการสื่ออะไร? ก็เพราะความไม่มั่นใจที่แสดงออกด้วยภาษากาย หมายความว่าการพูดดุดัน ก็ไม่ได้มีอะไรเบ็ดเสร็จ
-คิดว่าดีลลับยังมีอยู่?
ปัญหาว่าเขาจะแบกดีล แบกดีลเท่ากับแบกบ่อนกาสิโนด้วย แบกพนันออนไลน์ แล้วก็มาแบกขายเหล้าวันเข้าพรรษาแล้ว
-เป็นสิ่งที่เกินดีล เรื่องอย่างกาสิโน?
ใครกล้าดีล เรื่องแบบนี้ หรือแม้แม้กระทั่งร่างพรบ.ศูนย์กลางทางการเงินฯ ที่ซุกซ่อนจนนักการเงินนักการธนาคารก็ยังบอกว่า เป้าหมายที่จะเป็นเจ้าของเรื่องเงิน มันมีความน่ากลัวที่มันซุกซ่อนกันอยู่ แม้กระทั่งเรื่องไทย-กัมพูชา 50-50 หรือเรื่องให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี ใครมันจะกล้าดีลเรื่องแบบนี้ ผมเองก็เห็นว่าสถานการณ์ต่างๆ มันไกลมาก แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคุณทักษิณไม่ได้ยี่หระ ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ก็คือการสร้างกาสิโนกับพนันออนไลน์ แล้วตอนนี้มาละเลงเรื่องการขายเหล้าในวันสำคัญทางศาสนาที่หนึ่งปีมีแค่ห้าวัน ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเมืองพุทธ แต่ไม่สนใจ จะทำเป็นเมืองอบายมุข จะทำบ่อน ทำพนันออนไลน์ แล้วมาทุบเรื่องนี้(ขายเหล้า)ถามว่าในทางการเมืองได้อะไร เพื่อให้เห็นว่าเมืองนี้ต่อไปไม่ต้องยึดอะไรแล้ว
-คือมองว่าดีลลับน่าจะจบแล้ว ต่อจากนี้ไปเป็นเรื่องของคุณทักษิณ ของนายกแพทองธาร และของรัฐบาล?
ผมดูว่าการใช้ปาฏิหาริย์ที่เปลือง และทำให้คนเข้าใจผิด ไม่เป็นผลดี ผมคิดว่าคนรักชาติ บ้านเมือง เป็นผู้ใหญ่ในชาติบ้านเมืองจำนวนมาก ที่ผมมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยน ต่างก็ไม่สบายใจ กับเรื่องที่แปลงความรู้สึก แปลงภาษา และสร้างความเข้าใจผิด มุมมองของผม มองว่าสิ่งที่คุณทักษิณและรัฐบาลพยายามนำเสนอ นักการเมืองปกติ ถ้าต้องการจะคิดอยู่อย่างผาสุก ต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างปกติ ใครจะกล้ามาเสนอสิ่งเหล่านี้
ทุกเรื่องที่คุณทักษิณ ได้แสดงความแข็งแรงจากที่บอกจะกลับมาเลี้ยงหลาน แต่วันนี้จะมาถีบใครแล้ว ก็หมายความว่าทุกเรื่องมันไม่เป็นแบบนั้น เราต้องแลกกับกระบวนการยุติธรรมทั้งปวง แล้ววันนี้เราต้องแลกกับความเป็นชาติ ในเรื่องที่กลับมาละเลง เพราะว่าบทเรียนของแต่ละชาติ แม้แต่ในไทยเอง ก็เห็นกันมาอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องการจะเอาให้ได้
-การที่นายทักษิณคิดจะทำเรื่องอย่างกาสิโน แล้วจะทำอะไรต่างๆ เป็นเพราะความมั่นใจหรือเพราะหยั่งรู้ว่าเวลาของรัฐบาลเหลือแค่ไหนเช่นอาจเหลืออีกแค่ครึ่งปี หรือคิดว่านโยบายเหล่านี้จะโดนใจชาวบ้าน?
คนที่มีหน้าที่แต่ละหน่วยงาน แต่ละองค์กร คุณจะปล่อยให้กาสิโน ตามด้วยพนันออนไลน์ที่สูบเลือดสูบเนื้อคนในชาติ ไม่ใช่รายได้จากการท่องเที่ยว แม้กระทั่งจะละเลงสังคม ละเลงสมบัติชาติ โดยไม่ได้ทำหน้าที่ อย่างว่ากันตามเนื้อผ้า
เรื่องชั้น 14 ปล่อยเรื่องชั้น 14 ให้เนิ่นนาน จนกระทั่งไปทำภารกิจที่ทำร้ายชาติบ้านเมือง ทำร้ายคนในชาติได้ ใครจะต้องร่วมรับผิดชอบบ้าง หากให้ทำบ่อนสำเร็จ รวมถึงพนันออนไลน์ ผมก็เห็นว่าแต่ละเรื่องที่คุณทักษิณ หรือองคาพยพที่กำลังเดินกันอยู่ ถ้าคนที่ทำหน้าที่ ทำงานชักช้า จนกระทั่งบ้านเมืองเกิดความเสียหาย คือผมพยายามส่งสัญญาณว่าอย่าให้ประชาชนเขาเดือดร้อนกันอีก อย่าให้ประชาชนเขาลงท้องถนนกันอีก ประชาชนเหนื่อยมามากแล้ว แต่ละคนที่มีหน้าที่อยู่ในองค์กรต่างๆ ผิดว่าตามผิด ตรงไปตรงมา ว่ากันตามเนื้อผ้า รักษากฎหมายของชาติบ้านเมือง ทุกอย่างมันก็จบ ไม่ต้องเป็นภาระให้กับประชาชน
-ที่เคยบอกว่า เดือนมีนาคม เมษายน ฝีจะแตกแล้ว หมายถึงอะไร?
ช่วงเดือนมีนาคม เรื่องบ่อนกาสิโน ที่ทำในชื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คณะกรรมการกฤษฎีกาก็จะพิจารณาเสร็จแล้วส่งร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ กลับมาให้ครม.อีกครั้ง ถ้าผ่านแล้วต้องส่งเข้าสภาฯ จากนั้น พนันออนไลน์ก็รอเสียบต่อ ก็ช่วงเดือนมีนาคม
เรื่องคุณทักษิณ ชั้น 14 ฟังจากแพทยสภา ก็สอบเสร็จช่วงเดือนมีนาคม บวกลบ เหมือนกัน แล้วก็ยังมีในชั้นป.ป.ช.ที่จะเป็นเรื่องเดียวกับแพทยสภา เมื่อแพทยสภาสอบเสร็จ หลักฐานชัดเจน ป.ป.ช.ก็สามารถเดินได้อย่างไม่ชักช้า แต่ความน่ากลัวที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ คือเรื่องที่อยู่ที่ศาลฎีกา ที่นายชาญชัยยื่นเรื่องไปที่ศาลฎีกา ก็คือทั้งข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง เดิมนัดฟังคำสั่ง 27 มกราคม แล้วมีการเลื่อนโดยไม่ได้กำหนดระยะเวลา ความเป็นคุณทักษิณ ก็ต้องคิด บางคนบอกว่า สถานการณ์คุณทักษิณดีแล้วเพราะว่าศาลอาญา อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศไปพบอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ผมก็เคยมีประสบการณ์ ตอนตกเป็นผู้ต้องหา(จำเลย) ปกติถ้าเรายื่นขอประกันตัว เช่นหกแสน ถ้าเราขออนุญาตศาล หากศาลอนุญาต เราก็วางเงินประกันหกแสน คุณทักษิณประกันตัวห้าแสนบาท(คดี 112)แต่ที่ขอออกนอกประเทศ วางหลักทรัพย์ห้าล้านบาท ก็คือสิบเท่าแต่จากประสบการณ์ของผม แม้ศาลเคยอนุญาต แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอนุญาตทุกครั้ง
...เรื่องชั้น 14 ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยน เพราะถ้าคุณทักษิณไม่อยู่ เชื่อว่าคุณอุ๊งอิ๊งจะอยู่ได้ไหม เขาก็มีเรื่องอัลไพน์อยู่ โดยจุดตายเรื่องชั้น 14 ไม่ได้อยู่ที่ป.ป.ช.แต่อยู่ที่การสอบของแพทยสภาที่เป็นจุดหลัก แต่จะไปตายที่ศาลฎีกา ถ้าแพทยสภาบอกว่าป่วยทิพย์ แล้วการทำหน้าที่ของแพทย์เป็นการช่วยเหลือไม่ให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษทางอาญา จุดตายอยู่ตรงนั้น ส่วนของป.ป.ช. เป็นเครื่องเคียงเพื่อขยายผลถัดจากนั้นไป ไม่ใช่หมายถึงว่ามีแค่ 12 คน(ที่มีชื่อจะถูกไต่สวน)เพราะยังต้องใช้เวลา การสอบของแพทยสภาจึงเป็นจุดหลัก เพราะหากไม่ได้ป่วยจริง ทุกอย่างก็คือผิดหมด เพราะไม่ได้รับโทษจริงแม้แต่วันเดียว
-การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้น จะสั่นคลอนคุณทักษิณ คุณอุ๊งอิ๊งได้บ้างหรือไม่?
ถ้าพรรคฝ่ายค้านต้องการเป้าหมาย ไม่ได้ต้องการเพียงแค่สะใจ ก็ยื่นอภิปรายนายกฯแค่คนเดียว แล้วก็ทิ่มไปถึงพ่อนายกฯ เพราะว่าหากรัฐบาลให้เวลาแค่ 2-3 วันในการอภิปราย แล้วอภิปรายแบบยิงกราดถามว่าได้อะไร จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเขาจับมือกันเสียอีก เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการล้มรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ การอภิปรายก็ยื่นอภิปรายนายกฯคนเดียว ล็อกเป้านายกฯ แล้วอภิปรายพุ่งไปที่ตัวนายกฯ คนที่จะทนไม่ได้ก็คือพ่อนายกฯ ต้องทำให้คุณทักษิณ พูดง่ายๆ อย่าให้อยู่สบาย เพราะถ้าไปอภิปรายรัฐมนตรีคนอื่น เขาก็มีฤทธิ์มีเดชตอบกันจะเสียเวลาไปเปล่าๆ
-แต่เหมือนฝ่ายค้านต้องการจะอภิปรายแบบรายบุคคล?
ผมก็พยายามที่จะสื่อความว่าถ้าต้องการเป้าหมาย ฝ่ายค้านต้องรู้เหมือนกันว่า ชะตากรรมของตัวเอง ก็อยู่ช่วงเดือนมีนาคมเหมือนกัน การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตัวจี๊ดจ๊าดทั้งหลาย ที่มีชื่ออยู่ใน 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล(คดีลงชื่อเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112ในชั้นป.ป.ช.) อาจจะทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายก็ได้ และที่สำคัญที่สุด หากเขาต้องการจะเติบโต เขาต้องฟาดกับพรรคเพื่อไทย เพราะไม่อย่างนั้นจะเอาเสียงมาจากไหน หากไม่ฟาดกับพรรคเพื่อไทย
-คิดว่ายังเป็นไปได้หรือที่พรรคประชาชน จะฟาดพรรคเพื่อไทยไม่ยั้ง?
คนเขาก็สงสัยอยู่แล้วว่าจะไม่ฟาด แต่ว่าถ้าไม่ฟาด เขาจะยอมตายด้วยหรือไม่ คือหมายความว่าเขายังไม่เข้าใจอีกหรือว่า การเมืองครั้งหน้า เมื่อไม่มีบริบท แบบครั้งที่แล้ว มีลุง ไม่มีเรา
-คนก็ยังมองกันว่า หลังเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทยจับมือกันได้?
เขาอยากจับอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การจะผ่านสนามเลือกตั้ง หากไปแสดงท่าที ว่าจะจับมือกันเหมือนตอนเลือกตั้งปี 2566 สถานะของพรรคประชาชน เขาเน้นเรื่อง AIRWAR เรื่องกระแสเป็นหลัก แล้วถึงตอนเลือกตั้ง จะเหลืออะไร ถ้ามีท่วงทำนองแบบนั้น ก็จะเกิดคำถามว่าแล้วจะจับมือกันไหม แล้วตอนหาเสียง คุณไม่กล้าชี้ว่าเขาตระบัดสัตย์หรือ แล้วไปจับมือกับคนตระบัดสัตย์ได้ยังไง มันไม่ได้ แล้วยิ่งหากเขาแสดงตัวว่าอยากจับมือกัน ภัยก็จะมาถึงเขาเร็วขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯอิ๊งค์ เสียงแข็ง! '7 งูเห่า' ไม่มีผลต่อรองเก้าอี้ คุยทักษิณแล้ว ยังไม่ปรับ ครม.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจอย่างท่วมท้น ว่า ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจ ก็ดีใจ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าพิธีการเป็นอย่างไร เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าไป พอประธานสภาพูดจบเสียบบัตรปุ๊บเลขขึ้นเลย
‘ก่อกี้’ เฮลั่น! นายกฯอิ๊งค์ ฝ่าศึกซักฟอก เดินหน้าทำงานต่อ
สส.ก่อแก้ว มือประท้วงของพรรคเพื่อไทย โพสต์แสดงความยินดีทันที หลังแพทองธาร ผ่านศึกซักฟอก ได้รับเสียงไว้วางใจ 319 เสียง สะท้อนเสถียรภาพรัฐบาลยังแข็งแกร่ง
'ปูอัด' อ้างปลื้มผลงานอิ๊งค์เลยโหวตให้ไม่เกี่ยววิ่งคดีฉาว
'ปูอัด' โหวตหนุนนายกฯ ยันไม่เกี่ยววิ่งคดีฉาว หลังปลื้มแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์
LIVE โรยเกลือ เผาไฟ | ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดแผล 'ตระกูลชินฯ'
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ : วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2568
‘ปลอดประสพ’ ชี้เปรี้ยงการอภิปรายของฝ่ายค้านเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ!
อดีตรองนายกรัฐมนตรีโพสต์เตือนถึงความอันตรายจากการเปิดเผยข้อมูลสงครามไซเบอร์ในการอภิปรายของฝ่ายค้าน ชี้เป็นการเปิดเผยความลับที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ประมวลวาทะ ‘แพทองธาร’ ย้อนเกล็ดพรรคประชาชน! ท้าประกาศมาจะร่วมไม่ร่วมกับใคร
“แพทองธาร ชินวัตร“ ตอบโต้ข้อกล่าวหาขาดภาวะผู้นำ ถูกพ่อครอบงำ พร้อมเผยดีลทางการเมืองปี 66 และเรียกร้องให้พรรคประชาชน ประกาศจุดยืนทางการเมืองให้ชัดเจนในการเลือกตั้งครั้งหน้า