เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เลียบบ้านแลเมือง มองดูเข้าไปในหมู่ชนของบ้านเรา.. ในยามที่นักการเมืองเป็นใหญ่ มีอำนาจวาสนาบริหารราชการแผ่นดิน จึงได้เห็นความไหลหลงวกวนของหมู่ชน ที่สาละวนอยู่กับการแสวงหา เพื่อให้ได้มาใน ลาภ สักการะ ยศ สรรเสริญ สุข.. ไม่เว้นแม้ในแวดวงนักบวชที่มุ่งแสวงหามากกว่าละวาง
การติฉินนินทาว่ากล่าว.. การใส่ร้ายใส่เท็จ การแย่งชิงทำลายด้วย อำนาจอภิชฌาวิสมโลภะและพยาบาท ที่ประกอบอยู่ด้วยมิจฉาทิฏฐิ จึงแพร่สะพัดในสังคมฝนตกขี้หมูไหลแบบนี้
นับเป็นยามที่ดียิ่งต่อการศึกษาเรียนรู้ เพื่อความเข้าใจในสัจธรรมของโลกว่า อสาระ..
ด้วยความเข้าใจดังกล่าว.. จะนำไปสู่การพิจารณามองดูโลกให้เห็นตามความเป็นจริงว่า..
โลกนี้ไม่เที่ยงหนอ!!.. เพราะเป็นไปด้วยการเกิด.. การสลาย
โลกนี้ทุกข์หนอ!!.. เพราะเป็นสภาพที่ทนได้ยาก เป็นที่ตั้งแห่งทุกข์
โลกนี้ว่างเปล่าหนอ!!.. เพราะจำต้องสละคืน ยึดถือเป็นเจ้าของไม่ได้ ไม่อยู่ใต้อำนาจของใครๆ..
เพราะแท้จริง.. โลกก็คือโลก.. โลกจะไม่เป็นที่ตั้งแห่งทุกข์.. ถ้าไม่เข้าไปยึดถือ จนวุ่นวายและพานทำลายโลกของหมู่ชนผู้ไม่ประพฤติธรรม...
โลกจึงแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ.. ก่อเกิดภาวะวิกฤตการณ์.. ก่อโทษภัยทางธรรมชาติ ตอบสนองผู้กระทำ.. ก็ด้วยความเลวของคนเลว ที่แม้ว่าจะมาเกิดในสังคม สิ่งแวดล้อม บ้านเมืองที่ดี.. มีหมู่คนที่ดี แต่ก็ยากที่จะทำดีได้ เพราะอุปนิสัย สันดาน ชะตาชีวิต ที่สั่งสมสืบเนื่องมา มันเป็นไปทางความเลว
คนเลวที่ผลิดอกออกผลเกิดขึ้นในสังคม จึงกลายเป็นดอกไม้พิษที่ทำให้บ้านเมืองแผ่นดินนั้น เร่าร้อน แปรปรวนไปในทางลบ ธรรมชาติจึงวิปริต ดินฟ้าอากาศแปรปรวน พืชพรรณธัญญาหารจึงขาดแคลน..
การจำกัดพื้นที่คนเลว ด้วยความดีของคนดีที่เข้มแข็ง จึงเป็นหน้าที่โดยตรงของสังคมอารยธรรม ที่ต้องสร้างคนดี รักษาคนดี.. และสนับสนุนคนดี ให้มีบทบาทอำนาจหน้าที่ในสังคมประเทศนั้น จึงจะถูกต้อง ตรงธรรม..
แต่ด้วยการไม่สืบสานอารยธรรมทางสังคม ไม่ยินดีสนับสนุนคุ้มครองคนดี ให้มีบทบาท ฐานะ หน้าที่ในสังคม.. จะด้วยความหวาด.. ด้วยความสะดุ้งกลัวอย่างไรก็แล้วแต่ อันเป็นเหตุผลส่วนตัวที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวของคนที่มีอำนาจหน้าที่ในสังคมประเทศนั้น.. จึงได้เห็นความโกลาหลของสังคมที่ต้องรับผลจากจิตวิปริต จนเป็นเหตุเชื่อมโยงสู่ภัยพิบัติ ทั้งจากธรรมชาติและจากน้ำมือของคนในสังคมนั้นๆ...
แปดปีของสังคมไทยภายใต้การปกครองของรัฐบาลที่มาจากทหาร ซึ่งนำโดย ลุงตู่.. แม้จะไม่สวยงามนักในเวทีโลก.. และแม้จะไม่หล่อเหลาไปทุกส่วน.. แต่สิ่งที่สังคมประเทศชาติได้รับผลตอบแทนคืนกลับ คือ ความสงบและความเจริญก้าวหน้าไปในทุกด้าน อย่างไม่น้อยหน้ารัฐบาลใดๆ ในโลกเสรี.. มิหนำซ้ำ ยังได้รับเสียงชื่นชมจากหมู่คนจำนวนมาก เมื่อผลงานโผล่พ้นน้ำ ชูช่อดอกใบมาโอ้อวดให้ชาวบ้านชาวเมืองได้ชื่นชม.. จากรัฐบาลลุงตู่...
..จริงๆ แล้ว ประเทศของเรามีต้นทุนที่มีมูลค่ายิ่ง คือ แผ่นดินที่เป็นมงคล กล่าวได้เต็มปากว่าเป็น ปฏิรูปเทส.. แดนดินถิ่นอารยธรรมที่สมบูรณ์ด้วยสัปปายธรรมอันควรยินดียิ่ง..
การได้มีชีวิตอยู่ในประเทศอันสมควร อยู่ในถิ่นอันเหมาะสม.. มีความเจริญในอารยธรรม เป็นแดนดินถิ่นคนดี.. ถิ่นนักปราชญ์ ที่ดำริมั่นในการประพฤติธรรม ปฏิบัติธรรม.. ตามพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนาเช่นนี้ นับเป็นถิ่นที่สมควรอย่างยิ่ง คงไม่มีประเทศใดในโลกที่เหมาะสมกับความเป็นถิ่นอาศัยของพุทธบริษัทยิ่งไปกว่าประเทศไทย.. จึงมีคำกล่าวของชาวจีนที่อพยพออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ ว่า.. “เราไม่ตายแล้ว.. เราจักรอดพ้นความลำบากแล้ว.. นี้แหละคือแผ่นดินตายของเรา!!” เมื่อเดินเรือมาจนถึงสยามประเทศหรือประเทศไทย ยามได้แลเห็นแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ ด้วยพืชพรรณธัญญาหาร แร่ธาตุต่างๆ และหมู่ชนในท้องถิ่น ที่มีไมตรีจิต ยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยเหลือเกื้อกูลด้วยน้ำใสใจจริง
หลังจากนั้น ไม่ช้าไม่นาน จึงได้เห็นชาวจีนจำนวนมากก็ค่อยๆ ทะลักเข้ามาสู่ประเทศไทย ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำมาหากิน มีความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ไม่แตกต่างไปจากเจ้าของแผ่นดิน..
ต่อมาจึงได้เห็นคนไทยสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างจีนกับไทย ไทยกับจีน.. จนแยกกันไม่ออกในปัจจุบัน ว่า ใครเป็นเหตุ ใครเป็นผล.. สู่ความเป็นชาวไทยในปัจจุบันให้น่าชื่นชม..
สังคมไทย.. เป็นสังคมที่เหมาะกับคนดี จิตใจมีอารยธรรมมาเกิด.. มาอาศัย จึงได้เห็นการปกครองที่มี ระบอบแบบพ่อปกครองลูก แม้จะใช้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งแตกต่างจากนานาอารยประเทศ
การสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี ผ่านความเชื่อมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา เป็นเอกลักษณ์ของสังคมไทย ที่ทำให้สังคมไทยมีมวลภาวะพลังธรรมที่หลอมรวมจากกุศลจิตของมหาชน.. ปกป้องรักษาค้ำชูแผ่นดินให้เจริญรุ่งเรือง รอดพ้นภัยมารมาในทุกยุคทุกสมัย อย่างที่แม้คนไทยเองยังอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า.. รอดพ้นภัยพิบัติมาได้อย่างไร!!
แต่ด้วยทุกสรรพสิ่งในโลก อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ความไม่แน่นอน.. ทุกอย่างเคลื่อนไหวไปตามเหตุปัจจัย อันเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ.. จึงไม่แปลกเมื่อนิสัยคนไทยรุ่นใหม่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม.. สภาพสังคมอารยธรรมแบบไทยๆ จึงเปลี่ยนแปลงไปตาม.. ดังที่เป็นในปัจจุบัน
อะไรที่ไม่เคยเห็น ก็ได้เห็น.. อะไรที่ไม่เคยเกิด ก็เกิด.. ในความอัปลักษณ์ทางสังคม ดังภาพข่าวที่เผยแพร่ไปทั่วโลกในยุคโซเชียลมีเดีย ในระบบไอทีครองโลก ที่ส่งผลให้สังคมมนุษยชาติถูกปฏิรูปตามอย่างรวดเร็วฉับพลัน โดยมีระบบเทคโนโลยีระดับสูงที่เรียกว่า ไอที เป็นเครื่องมือในการกระทำ .. Disruption.. ที่แม้แต่แวดวงศาสนาที่แข็งแกร่งมั่นคง ยังต้องรับผลดังกล่าว ที่ก่อให้เกิดภาวะผกผันสั่นสะเทือน จนยากที่จะคาดการณ์ได้ว่า.. ในภายภาคหน้า องคาพยพขององค์กรศาสนาจะเป็นอย่างไร!?
แต่ที่แน่ๆ.. ถึงแม้ว่าองค์กรศาสนาของเราจะมีหลักธรรมปฏิบัติอยู่ตรงข้ามกับวัตถุนิยม และปฏิเสธอำนาจนิยมจากภายนอก ก็ยังถูกอำนาจโลกนิยม.. แผ่เข้าไปเขย่าองค์กรศาสนาเล่น ด้วยการใช้ของเก่าๆ เป็นเครื่องมือ ไม่ว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่เรียกว่า โลกธรรม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า.. องค์กรศาสนาของเรานั้นจะมีพระธรรมวินัยที่แข็งแกร่งมั่นคง.. เป็น อมตธรรม ยากที่จะมีอำนาจใดๆ ในโลกมาทำลายล้างได้.. ไม่ว่ากาลใดสมัยใด แต่ก็ยังมีจุดอ่อนไหวอยู่ที่การปฏิบัติตนของบริษัทในศาสนา ซึ่งหากเมื่อใดละเว้น ย่อหย่อน ในการประพฤติปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย.. อะไรๆ ย่อมจะเกิดขึ้นได้.. อันเป็นไปตามกฎธรรมชาติ!
ดังเริ่มมีความวุ่นวายเกิดขึ้นต่อการพยายามจัดระบบระเบียบการปกครอง.. ที่ล้อตามโลกอย่างขาดการให้ความสำคัญในวิถีธรรมตามพระธรรมวินัย
การแต่งตั้งพวกเดียวกัน.. แม้พรรษาอายุน้อย ไร้ประสบการณ์ ขาดบารมีคุณความดี.. ไม่มีวินัยอันดี กลับปรากฏให้เห็นเป็นเรื่องเล่น.. เสมือนกับมองเห็นการใช้อำนาจปกครองที่ตนมี เป็นไปเพื่อความสนุกสนาน ฉลองตัณหาทิฏฐิตนเอง...
จึงได้เห็นการนิยมจัดงานพิธีการต่างๆ กันมากขึ้น อย่างไม่ใส่ใจในศาสนธรรม.. และโน้มนำ.. ชักนำกันไปสู่การบูชาวัตถุเป็นใหญ่.. โดยละเลยการเคารพ การปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
และยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงทางโลก.. เมื่อมองเห็นการปกครองแบบจับฉ่ายของนักการเมือง.. ที่ไม่ได้ คิด พูด ทำ เกินไปกว่าการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเองและหมู่คณะ..
การแย่งชิง การทำลายล้างกัน.. จึงแผ่กว้างไปทุกหัวระแหง.. ในระบบเลือกตั้งที่ให้อำนาจประชาชน.. เพื่อการปกครองตนเอง..
จึงน่ากลัวยิ่งต่อการใช้อำนาจของคนที่ไร้ศีลธรรม.. ไร้อารยธรรม.. ในระบบอำนาจของโลกนิยม..
คำกล่าวที่ว่า เสือขาดป่า พระขาดศีล คนขาดอารยธรรม.. นับเป็นวิปริตแห่งธรรม ที่น่ากลัว.. คงไม่เกินจริง!!.
เจริญพร
dhamma_araya@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความโลภ ที่น่ากลัว...... ความเลว ที่น่ารังเกียจ..!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... นับเป็นห้วงเวลาแห่งการบำเพ็ญเพียร ประพฤติธรรม ที่ให้คุณค่ายิ่งต่อการพัฒนาจิต.. ในวิถีสติปัฏฐานธรรม รวม ๑๗ วัน ที่ให้ประโยชน์ทั้งต่อตน.. ต่อภิกษุ อุบาสก-อุบาสิกา.. และต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนา บนภูเขาในเขตเสนาสนะป่า พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน เกาะภูเก็ต
อุตสาหกรรมผลิต-ขายอาวุธ ในประเทศไทยโตพุ่ง 150%
เรื่อง งบซื้ออาวุธ ของ กองทัพ เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมาตลอด เพราะงบซื้ออาวุธคือเงินภาษีประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาถูกตั้งคำถามถึงเหตุผล-ความจำเป็น ตลอดจนเสียงวิจารณ์เรื่องความโปร่งใสในการจัดซื้ออาวุธ
บอกมาให้ชัด ต้องการใช้พื้นที่ การท่าเรือฯ-คลองเตย ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
พูดตรงๆ ถ้าอยากได้ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนใส่ไว้เลยว่าตรงพื้นที่ของการท่าเรือฯ มหาศาลตรงนั้น หากจะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จะให้มีพื้นที่กาสิโนเท่าใด..ทำแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าต้องเอาให้ชัด..ในอนาคตต่อไปหากจะให้ชี้ได้หลายที่แบบในกฎหมายเขียน ผมว่ามันไม่ใช่ Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ แต่จะกลายเป็นโมเดลแบบที่ลาว กัมพูชา ในอนาคต ซึ่งมันจะไม่ดี..แต่หากเอาที่เดียวแบบเจาะๆ มันจะชัดกว่าหรือไม่ ก็พูดดังๆ เลยหากจะเอาพื้นที่ตรงการท่าเรือฯ คลองเตย
กรณีบ่อนกาสิโน.. สู่กระแสอารยธรรม .. ที่น่าชื่นชม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ... ในห้วงเวลาที่สังคมไทยได้รับผลจากแผ่นดินไหว ตึกถล่ม.. เกิดการสูญเสียชีวิตของคนจำนวนหนึ่ง เมื่อ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา นับเป็นห้วงเวลาแห่งความกังวล ห่วงใยในภัยอันตรายจากธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงกับภัยร้ายอันเกิดจากการกระทำของคนเรา..
ศ. ดร.ไชยันต์ ไชยพร กับการสมัครชิง ตุลาการศาล รธน. มั่นใจ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม
การรับสมัครเพื่อสรรหาและคัดเลือก "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ใหม่สองคน เพื่อมาแทน ศ. ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
สว.จี้รัฐบาลถอน ร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกไปจากสภาฯ ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้
สภาผู้แทนราษฎรได้ปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการพิจารณา"ร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..ฯ"เพราะรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการผลักดันให้สภาฯพิจารณาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.